ความรักไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่เป็นอิบาดะฮ์
“แท้จริงสายเชือกที่มั่นคงที่สุดในความศรัทธานั้นคือการรักเพื่ออัลลอฮ์และเกลียดเพื่ออัลลอฮ์”
“แท้จริงบรรดาผู้ที่รักกันเพื่ออัลลอฮ์นั้นจะอยู่ภายใต้เงาแห่งบัลลังก์ของอัลลอฮ์”
“ใครที่ต้องการลิ้มรสชาติแห่งอีหม่าน ก็จงรักพี่น้องของเขาเพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น”
พี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพทั้งหลายครับ อัสสลามุอลัยกุมวะเราะห์มะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮ์
ในระบบความสัมพันธ์ในสังคมมุสลิมนั้น ศาสนาได้ตั้งมาตรการที่จะทำให้บรรดาผู้ศรัทธานั้นมีความรักซึ่งกันและกัน มีการติดต่อกัน โดยยึดความศรัทธาเป็นบรรทัดฐานในการที่จะทำให้บรรดาผู้ศรัทธานั้นรู้จักกัน ให้เกียรติกันและรักกันด้วยหลักแห่งความศรัทธาเท่านั้น ไม่มีสาเหตุใดที่จะทำให้คนหนึ่งคนใดจากบรรดาผู้ศรัทธาจะรักหรือมีความสัมพันธ์กับคนหนึ่งคนใดเว้นแต่จะต้องเกิดขึ้นจากการที่มีความศรัทธาเท่านั้น แต่หากว่าความรัก ความสัมพันธ์หรือการติดต่อซึ่งกันและกันนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ความศรัทธา ไม่ใช่เรื่องศาสนาหหรือจริยธรรม แต่เป็นเรื่องทางโลก วัตถุหรือผลประโยชน์ แน่นอนว่าความรักที่จะเกิดขึ้นย่อมจะสิ้นสุดหรือหายไปพร้อมกับวัตถุหรือสาเหตุทางโลกนั้นที่ไม่ใช่ความศรัทธา
ท่านนบีได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนในเรื่องนี้ว่า
إن أوثق عرى الإيمان أن تحب في الله ، وتبغض في الله
ความว่า “แท้จริงสายเชือกที่มั่นคงที่สุดในความศรัทธานั้นคือการรักเพื่ออัลลอฮ์และเกลียดเพื่ออัลลอฮ์” (บันทึกโดยอะหมัด)
ในหะดีษอีกบทหนึ่งท่านนบีได้กล่าวว่า
أوثق عرى الإيمان الموالاة في الله، والمعاداة في الله، والحب في الله، والبغض في الله
ความว่า “สายเชือกแห่งความศรัทธาที่มั่นคงที่สุดนั้นคือการยึดพรรคพวกเพื่ออัลลอฮ์ การยึดเป็นศัตรูเพื่ออัลลอฮ์ การรักเพื่ออัลลอฮ์และการโกรธเกลียดเพื่ออัลลอฮ์”
หมายความว่ามุสลิมหรือมุอ์มินในสังคมนั้นจะมีเพื่อนฝูง มีพี่น้อง มีเพื่อนสนิท เพื่อนตาย หรือที่รักของเขาก็เนื่องมาจากสาเหตุแห่งการศรัทธาเท่านั้น แม้กระทั่งคู่ครองของเขา การที่จะรักกันก็เนื่องจากการมีศรัทธา ไม่ใช่เรื่องวัตถุหรือความหล่อความสวยงามเท่านั้น ไม่ใช่เพราะมีเงินทองมีตำแหน่งเท่านั้น ไม่ได้รักเพราะเป็นคนน่ารักดังที่เราเห็นกันในสังคม ไม่ได้รักเพราะสังคมรัก สังคมยกย่อง ให้เกียรติหรือให้ความสำคัญ ไม่ได้รักเพราะเป็นดารา ร้องเพลงเก่ง ฯลฯ
ในหลักการของศาสนาอิสลาม การที่มุอ์มินจะรักใคร่ใครก็ตาม ก็อันเนื่องมาจากความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า เพราะความรักในอิสลามนั้นไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวที่เราจะมอบให้คนนั้นคนนี้โดยปราศจากเหตุผล แต่ความรักเป็นอิบาดะฮ์ เป็นการเคารพภักดีชนิดหนึ่งที่เราต้องปฏิบัติตามบรรทัดฐานแห่งศาสนาอิสลาม เราจะรักใครสักคนเราต้องรู้ว่ามันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ แต่หากเรารักคนหนึ่งคนใดโดยไม่มีเหตุผลแห่งหลักการศาสนา แห่งอีหม่าน ก็จะไม่เป็นผลที่จะทำให้เราเพิ่มเติมอีหม่านหรือมีอีหม่านที่มั่นคง แต่ตราบใดที่เรามีความรักต่อพี่น้องของเราบนพื้นฐานแห่งอีหม่าน รักเพื่ออัลลอฮ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในหัวใจของเรา จะเป็นสาเหตุให้เราได้เข้าสวรรค์ ได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ถูกถามว่า คนที่รักกันในโลกนี้พวกเขาจะอยู่กันอย่างไรในโลกหน้า?
ท่านจึงตอบว่า انت مع من أحببت
ความว่า “ท่านจะได้อยู่กับที่รักของท่าน”
หมายความว่า ถ้าท่านรักท่านนบีในโลกนี้ ท่านก็จะได้อยู่กับท่านนบีในปรโลก แต่ความรักที่ปราศจากการปฏิบัติอันเป็นการแสดงความจริงใจในรักนั้นก็จะเป็นเพียงข้ออ้าง การที่เรารักคนหนึ่งคนใดก็ต้องนำเราไปสู่ผู้ที่เรารักเขา เราต้องเชื่อฟังต้องเคารพภักดีต่อผู้นั้น ถ้าเรารักอัลลอฮ์เราก็ต้องอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ ถ้าเรารักท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เราก็ต้องปฏิบัติตามแนวสุนนะฮ์ แนวปฏิบัติของท่านนบี ถ้าเรารักเศาะหาบะฮ์บรรดาสาวกของท่านนบี เราก็ต้องยึดระบบชีวิตหรือมาตรการของพวกเขา ถ้าเรารักบรรดานักปราชญ์ศาสนาที่มีบทบาท มีความรู้ ความสมถะ จริยธรรม เราก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอน คำแนะนำของเขา ถ้าเรารักพี่น้องมุสลิมของเราที่มีอีหม่านและมีการปฏิบัติศาสนกิจ มีจริยธรรม มีมารยาท เราก็ต้องอยู่พร้อมกับความดีของเขา
ถ้าหากว่าเรารักบุคคลที่ปราศจากอีหม่าน ไร้จริยธรรม หรืออาจจะเป็นผู้ฝ่าฝืน เนรคุณ ปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้า หากเรารักพวกเขามากกว่าผู้ศรัทธา หากเรารักดาราเราก็จะได้อยู่กับเขาในปรโลก รักนักบอลเราก็จะอยู่กับเขาในปรโลก รักนักร้องเพลงก็จะได้อยู่กับเขาในปรโลก ฉะนั้นเรารักใครมากกว่าบรรดาผู้ศรัทธา ท่านนบีได้บอกอย่างชัดเจนแล้วว่า “ท่านจะได้อยู่กับที่รักของท่าน (ในปรโลก)”
การที่เราจะรักคนหนึ่งคนใดนั้น เราจะได้รับการตอบแทนอย่างใหญ่หลวงจากพระผู้เป็นเจ้านะครับ ท่านนบีได้กล่าวไว้ในหะดีษกุดซีบทหนึ่ง ว่าอัลลอฮ์จะกล่าวในวันกิยามะฮ์ว่า
اين المتحابون لجلالي اليوم أظلهم في ظلي يوم لا ظل إلا ظلي
ความว่า “ผู้ที่รักใคร่ซึ่งกันและกันเพื่อข้าอยู่ที่ไหน? ในวันนี้พวกเขาเหล่านั้นจะได้อยู่ในร่มเงาของข้า โดยที่วันนี้เป็นวันที่ไม่มีร่มเงาใดเว้นแต่ร่มเงาของข้าเท่านั้น”
หมายถึงพระเมตตาของอัลลอฮ์ที่จะประสบแด่ผู้คนที่อยู่ภายใต้ความยากลำบากแห่งวันตอบแทนนั้น จะไม่ประสบแก่คนหนึ่งคนใดเว้นแต่คนที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ และพระองค์ทรงประสงค์ว่าร่มเงาของพระองค์ พระเมตตาของพระองค์ การช่วยเหลือของพระองค์นั้นจะประสบแก่บุคคลที่รักกันเพื่อพระองค์เท่านั้น และในหะดีษอีกบทหนึ่งท่านนบีได้กล่าวว่า
ان المتحابين بالله في ظل العرش
“แท้จริงบรรดาผู้ที่รักกันเพื่ออัลลอฮ์นั้นจะอยู่ภายใต้เงาแห่งบัลลังก์ของอัลลอฮ์” บังลังก์ของอัลลอฮ์นั้นจะมีร่มเงาที่มีความดีงาม ความสุขสบายสำหรับบรรดาผู้ที่รักกันเพื่ออัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา
การที่จะรักกันเพื่ออัลลอฮ์นั้นเป็นตำแหน่งที่สูงส่งทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮ์ เพราะเป็นตำแหน่งแห่งความบริสุทธิ์ ความสุจริต รักกันในดุนยานี้เพื่ออัลลอฮ์ เพื่อศาสนา เพื่ออีหม่าน โดยปราศจากผลประโยชน์ ไม่มุ่งสู่วัตถุ ไม่มุ่งสู่ตำแหน่งทางดุนยา แต่รักกันเพื่ออัลลอฮ์ รักคนนี้เพราะเขามีศาสนามีจริยธรรม รักคนนั้นเพราะเขาทำงานเพื่ออัลลอฮ์ เพื่อสังคมอย่างสุจริต ความรักตรงนี้ก็จะเป็นตำแหน่งที่สูงส่งในโลกนี้และโลกหน้าด้วย ในหะดีษกุดซีอีกบทหนึ่งอัลลอฮ์ได้กล่าวว่า
المتحابون في جلالي لهم منابر من نور يغبطهم النبيون والشهداء
ความว่า “บรรดาผู้ที่รักกันเพื่อข้า สำหรับพวกเขาจะอยู่บนมินบัร (ตำแหน่งที่สูงส่ง) ที่ทำจากรัศมี โดยที่บรรดานบีและผู้เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮ์จะอิจฉาพวกเขา”
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังจะได้รับความเมตตาจากอัลลอฮ์และให้เกียรติแก่พวกเขาด้วยการที่พระองค์จะรักพวกเขาด้วย ดังหะดีษกุดซีอีกบทหนึ่งที่อัลลอฮ์กล่าวว่า
حقت محبتي على المتحابين
ความว่า “เป็นสิทธิของบรรดาผู้ที่รักกันเพื่อข้า ที่ข้าจะต้องรักพวกเขา”
ในอีกสำนวนหนึ่งอัลลอฮ์กล่าวว่า
وجبت مجبتي لمتحابين فيّ والمتجالسين فيّ والمتباذلين فيّ والمتزاورين فيّ
ความว่า “เป็นสิ่งจำเป็น (วาญิบ) สำหรับข้าที่ต้องรักบรรดาผู้ที่รักกันเพื่อข้า บุคคลที่นั่งพูดคุยกันเพื่อข้า บุคคลที่บริจาค ทำความดีมีคุณธรรมเพื่อข้า และบุคคลที่เยี่ยมเยียนกันเพื่อข้า”
ก็หมายถึงพฤติกรรมของบุคคลเหล่านั้นไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็เพื่ออัลลอฮ์ พระองค์จึงบอกว่าพวกเขาจะได้รับความเมตตา ความรักจากข้า เพราะฉะนั้นการที่เราจะรักกันเพื่ออัลลอฮ์ก็จะได้รับพระเมตตาได้รับการสนับสนุน และจะเป็นเกียรติเท่าที่เรามีความรักให้แก่พี่น้องของเขา อัลลอฮ์ได้กำหนดไว้สำหรับผู้ที่รักกันเพื่อพระองค์ว่า ความรักที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองคนนั้นจะเพิ่มอีหม่าน เพิ่มความโปรดปราน เพิ่มเกียรติให้แก่ทั้งสองคนนั้นเท่ากับที่พวกเขามีความรักซึ่งกันและกัน พระองค์กล่าวไว้ในหะดีษกุดซีอีกบทหนึ่งว่า
ما أحب عبد عبدا لله إلا أكرم ربه
ความว่า “ไม่มีบ่าวคนหนึ่งที่จะรักบ่าวของอัลลอฮ์อีกคนหนึ่งเพื่อพระองค์ เว้นแต่จะเป็นการให้เกียรติต่ออัลลออ์”
หมายความว่าความรักที่เรามีต่อพี่น้องของเรานั้น เสมือนเรากำลังเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
من أحب ان يجد طعم الإيمان فليحب المرء لا يحبه إلا لله
ความว่า “ใครที่ต้องการลิ้มรสชาติแห่งอีหม่าน ก็จงรักพี่น้องของเขาเพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น”
นั่นคือสิ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเราในสังคมมีความหนักแน่น มีความมั่นคง อีหม่านที่มั่นคงของเรานั้นจะทำให้เรายึดในบรรทัดฐานแห่งศาสนาอิสลาม รักใครก็รักเพื่ออัลลอฮ์ จะโกรธใครก็โกรธเพื่ออัลลอฮ์ จะเกลียดใครก็อย่าเกลียดเพราะเขาเป็นคนน่าเกลียด ไม่อยากจะพบไม่อยากเห็นหน้า อย่าเกลียดเพราะเป็นคนที่เคร่งเกินไป หรือพูดไม่รู้เรื่อง หรืออ้างเหตุผลนานาชนิด แต่จะเกลียดใครก็ต้องอ้างเหตุผลแห่งศาสนา แห่งความศรัทธา เกลียดเพื่ออัลลอฮ์ นี่คือความสำเร็จสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาที่มีอีหม่านที่มั่นคง เป็นบรรทัดฐานอันมั่นคงแห่งสังคมที่มีความมั่นคง
วัสสลามุอลัยกุมวะเราะห์มะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮ์
เรียบเรียงจาก สู่อีมานที่มั่นคง ครั้งที่ 53, ชัยคฺริฎอ อะหมัด สมะดี
ผู้เรียบเรียง อบูซัยฟุลลอฮฺ-อุมมุซัยฟุลลอฮฺ
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 1241 views