ดุอาอฺยามเช้าและยามเย็น (2)

Submitted by dp6admin on Tue, 13/10/2009 - 16:59

ดุอาอปกป้อง7. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ จะกล่าวถ้อยคำต่อไปนี้ทั้งในยามเช้าและยามเย็นอยู่เสมอ

الَّلهُمَّ إِنِّي أَسْأَلُكَ العَافِيَةَ في الدُّنْيَا وَالأَخِرَةَ ،

[ อัลลอฮุมมะ อินนี อัสอะลุกัลอาฟิยะฮฺ ฟิดดุนยา วัลอาคิเราะฮฺ ]

โอ้อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้มีสุขภาพดีทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ

 اللَّهُمَّ إِنّي أَسْأَلُكَ العَفْوَ والعَاِفَيَة في دِيْنْي وَدُنْيَايَ وَأَهْلِيْ وَمَالِي،
[ อัลลอฮุมมะอินนี อัสอะลุกัลอัฟวะ วัลอาฟิยะฮฺ ฟีดีนีวะดุนยา วะอะฮฺลียฺวะมาลียฺ ]

โอ้อัลลอฮฺ  ข้าพระองค์ขออภัยโทษต่อพระองค์และการมีพลานามัยในการปฏิบัติตามศาสนาของข้า พระองค์ และการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ของข้าพระองค์ และการอบรมสั่งสอนครอบครัวของข้าพระองค์ และการรักษาทรัพย์ของข้าพระองค์

 اللَّهُمَّ اسْتُرْ عَوْرَاتِيْ وَآَمِنْ رَوْعَاتِيْ ،
[ อัลลอฮุมมัสตุร เอารอตียฺ วะอามิน เราอาตียฺ ]

โอ้อัลลอฮฺ  ทรงปกปิดข้อผิดพลาดต่างๆของข้าพระองค์ และทรงให้ข้าพระองค์ปลอดภัยจากความหวาดกลัวทั้งหลาย

 الَّلهُمَّ احْفَظْنِيْ مِنْ بَيْنِ يَدَيَّ وَمِنْ خَلْفِيْ وَعَنْ يَمِيْنِيْ وَعَنْ شِمَالِيْ وَمِنْ فَوْقِيْ
[ อัลลอฮุมมะหฺฟัซนียฺ มินบัยนิ ยะดัยยะ วะมินค็อลฟียฺ วะอันยะมีนียฺ วะอันชิมาลียฺ วะมินเฟากียฺ ]

โอ้อัลลอฮฺ  ขอพระองค์ทรงคุ้มครองข้าพระองค์จากเบื้องหน้าของข้าพระองค์ จากเบื้องหลังของข้าพระองค์ จากเบื้องขวาของข้าพระองค์  และจากเบื้องซ้ายของข้าพระองค์ และจากเบื้องหน้าของข้าพระองค์

وَأَعُوْذُ بِعَظَمَتِكَ أَنْ أُغْتَالَ مِنْ تَحْتِيْ .

[ วะอะอูซุ บิอะเซาะมะติกะ อันอุฆตาละ มินตะหฺตียฺ ]

และข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้พ้นจากการได้รับภยันตรายจากภายใต้ของข้าพระองค์(คือถูกธรณีสูบ)

رواه أبو داود .  (บันทึกโดยอะบูดาวุด)
 

8. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม อ่านดุอาอฺนี้ใน ยามเช้า
 

الَّلهُمَّ بِكَ أَصْبَحْنَا وَبِكَ أَمْسَيْنَا وَبِكَ نَحْيَا وَبِكَ نَمُوْتُ وَإِلَيْكَ النُّشُوْرُ .

[ อัลลอฮุมมะบิกะ อัศบะหฺนา วะบิกะอัมซัยนา วะบิกะนะหฺยา วะบิกะนะมูตุ วะอะลัยกันนุชูร ]

ความว่า โอ้อัลลอฮฺ ด้วยพระองค์ท่านเราขอเริ่มวันใหม่ และด้วยพระองค์ท่านเราได้เข้าสู่เวลาเย็น และด้วยพระองค์ท่านเราจึงมีชีวิตอยู่ และด้วยพระองค์ท่านเราจะตาย และเราจะฟื้นคืนชีพไปสู่พระองค์ท่าน
 

ในเวลาเย็นจะอ่านดังนี้

الَّلهُمَّ بِكَ أَمْسَيْنَا وَبِكَ أَصْبَحْنَا وَبِكَ نَحْيَا وَبِكَ نَمُوْتُ وَإِلَيْكَ الْمَصِير

[ อัลลอฮุมมะบิกะ อัมซัยนา วะบิกะอัศบะหฺนา วะบิกะนะหฺยา วะบิกะนะมูตุ วะอะลัยกัลมะศีร ]

ความว่า โอ้อัลลอฮฺ ด้วยพระองค์ท่านเราได้เข้าสู่เวลาเย็น และด้วยพระองค์ท่านเราขอเริ่มวันใหม่ และด้วยพระองค์ท่านเราจึงมีชีวิตอยู่ และด้วยพระองค์ท่านเราจะตาย และเราจะฟื้นคืนชีพไปสู่พระองค์ท่าน  (หะดีษศ่อเฮี้ยะฮฺ บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ)

9. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม สอนให้เราอ่านดุอาอฺต่อไปนี้ในเวลาเช้า 3 ครั้ง

أَصْبَحْنَا عَلَى فِطْرَةِ الإِسْلامِ وَكَلِمَةِ الإِخْلاصِ وَدِيْنِ نَبِيِّنَا مُحَمَّدٍ وَمِلَّةِ أَبِيْنَا إِبْرَاهِيْمَ حَنِيْفَاً مُسْلِمَاً وَمَا كَانَ مِنَ المُشْرِكِيْنَ .

[ อัศบะหฺนา อะลาฟิฏเราะติลอิสลาม, วะกะลิมะติลอิคลาศ, วะดีนินะบียินา มุฮัมมัด, วะมิลลาติอะบีนา อิบรอฮีม, หะนีฟัมมุสลิมา วะมากะนามินัลมุชริกีน ]

ความว่า “เราได้เริ่มวันใหม่โดยตั้งอยู่บนธรรมชาติของอิสลาม และบนถ้อยคำแห่งการเตาฮีด (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) และบนศาสนาของนะบีของเรา คือมุฮัมมัด และบนแนวทางของบิดาของเราคือนะบีอิบรอฮีม ผู้ยึดมั่นอยู่ในแนวทางที่เที่ยงธรรมและมิเคยอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคีกับพระองค์”
 

เวลาเย็นให้กล่าวอีก 3 ครั้ง โดยเปลี่ยนเป็น อัมซัยนา

أَمْسَيْنَا عَلَى فِطْرَةِ الإٍسْلامِ ...

رواه أحمد وصححه الألباني .

10. เวลาเย็นท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้อ่านดุอาอฺต้นนี้คือ
 

أَمْسَيْنَا وَأَمْسَى المُلْكُ للهِ وَالحَمْدُ لله ، .

[อัมซัยนา วะอัมซัลมุลกุลิลลาฮฺ วัลฮัมดุลิลลาฮฺ]

เราเข้ามาอยู่ในเวลาเย็น อำนาจการปกครองเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ

* ในเวลาเช้าให้เปลี่ยนจาก    أَمْسَيْنَا وَأَمْسَى المُلْكُ للهِ  เป็น أصبحنا وأصبح الملك لله - อัศบะฮฺนา วะอัศบะฮัลมุลกุลิลลาฮฺ 

لا إِلَهَ إِلا اللهُ وَحْدَهُ لا شَرِيْكَ لَهُ ،

[ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ วะหฺดะฮูลาชะรีกะละฮฺ]

ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆคู่เคียงกับพระองค์

لَهُ المُلْكُ وَلَهُ الحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ ،

[ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดฺุ วะฮุวะอะลากุลลิชัยอิงเกาะดีร]

อำนาจทั้งหลายเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และการสรรเสริญทั้งมวลก็เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง

رَبِّ أَسْأَلُكَ خَيْرَ مَا فِيْ هَذَه الَّليْلَةِ وَخَيْرَ مَا بَعْدَهَا

[ร็อบบิอัสอะลุกะ ค็อยเราะมาฟี ฮาซิฮิลลัยละฮฺ วะค็อยเราะมา บะอฺดะฮา]

โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ท่านสิ่งซึ่งเป็นคุณงามความดีที่มีอยู่ในค่ำคืนนี้ และคุณงามความดีที่จะมีมาภายหลังค่ำคืนนี้

وَأَعُوْذُ بِكَ مِنْ شَرِّ هَذِهِ الَّليْلَةِ وَشَرِّ مَا بَعْدَهَا ،

[วะอะอูซุบิกะ มินชัรริ ฮาซิฮิลลัยละฮฺ วะชัรริมาบะอฺดะฮา]

และข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่มีอยู่ในค่ำคืนนี้ และความชั่วร้ายที่จะมีมาภายหลังค่ำคืนนี้

رَبِّ أَعُوْذُ بِكَ مِنَ الكَسَلِ وَسُوْءِ الكِبَرِ ،

[ร็อบบิ อะอูซุบิกะ มินัลกะสะลิ วะซูอิลกิบัร]

โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากความเกียจคร้านและความเลวร้ายในวัยชรา

رَبِّ أَعُوْذُ بِكَ مِنْ عَذَابٍ في النَّارِ وَعَذَابٍ في القَبْرِ

[ร็อบบิ อะอูซุบิกะ มินอะซาบิฟินนาร วะอะซาบิฟิลก็อบรฺ]

โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษในนรกและการลงโทษในกุบูร(หลุมฝังศพ)

11. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

      “ผู้ใดกล่าวว่า  سُبْحَانَ اللهِ وَبِحَمْدِهِ [ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮ] ในวันหนึ่ง 100 ครั้ง ความผิดต่างๆของเขาจะถูกลบล้างไป ถึงแม้ว่าความผิดเหล่านั้นจะมีเท่าฟองน้ำของทะเลก็ตาม” (บันทึกโดยมุสลิม)
 

12. “ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ในยามเช้า

لا إِلَهَ إِلا اللهُ وَحْدَهُ لا شَرِيْكَ لَهُ ، لَهُ المُلْكُ وَلَهُ الحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ .

      ความว่า  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆคู่เคียงกับพระองค์ อำนาจและการสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง

      เท่ากับเขาได้ปล่อยทาสจากลูกหลานนะบีอิสมาอีลและลบล้างความผิด 10 ครั้งออกจากเขา และเพิ่มความดีให้แก่เขา 10 เท่า และได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากชัยฏอนจนถึงเวลาเย็น และเมื่อถึงเวลาเย็นจนกระทั่งรุ่งเช้า”  (ศ่อเฮียะฮฺสุนันอิบนฺมาญะฮฺ)

      และในบันทึกของมุสลิมว่า “ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ 10 ครั้ง” เสมือนกับว่าเขาได้ปล่อยทาสจากลูกหลานอิสมาอีล 10 คน

      และอีกรายงานหนึ่งของมุสลิมกล่าวว่า “ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ 100 ครั้ง” เท่ากับเขาได้ปล่อยทาส 10 คน ความดี 100 ครั้งจะถูกบันทึกให้แก่เขา ความชั่ว 100 ครั้งจะถูกลบล้างไปจากเขา และเขาจะได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากชัยฏอนในวันนั้นจนกระทั่งถึงเวลาเย็น และไม่มีผู้ใดจะได้รับความดีมากกว่าเขาในสิ่งที่เขาได้กระทำไปนอกจากผู้ที่ กระทำมากกว่า(หมายถึงผู้ที่อ่านดุอาอฺต้นนี้มากกว่า 100 ครั้ง)
 

 ดุอาอฺสำหรับเวลาเช้าโดยเฉพาะ

سُبْحَانَ اللهِ وَبِحَمْدِهِ عَدَدَ خَلْقِهِ وَرِضَا نَفْسِهِ وَزِنَةَ عَرْشِهِ وَمِدَادَ كَلِمَاتِهِ .

ثلاث مرات . رواه مسلم .

ความว่า  “มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์เท่าจำนวนสิ่งที่ถูกสร้างของพระองค์ และด้วยความพอพระทัยของพระองค์ และด้วยน้ำหนักแห่งบัลลังก์ของพระองค์ และด้วยน้ำหมึกสำหรับบันทึกพจนารถของพระองค์”  อ่าน 3 ครั้ง  (บันทึกโดยมุสลิม)

ดุอาอฺสำหรับเวลาเย็นโดยเฉพาะ

أَعُوْذُ بِكَلِمَاتِ اللهِ التَّامَّاتِ مِنْ شَرِّ مَا خَلَقَ .

ثلاث مرات ، رواه مسلم

ความว่า  “ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพจนารถอันสมบูรณ์ของพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายในสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น” อ่าน 3 ครั้ง  (บันทึกโดยมุสลิม)

ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า  “ผู้ใดอ่านสองอายะฮฺสุดท้ายของซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ (อายะฮฺที่ 285-286) ในเวลากลางคืนก็เป็นการพอเพียงแก่เขา”  (บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ)


ที่มา : คู่มือซิกรุลลอฮฺและดุอาอฺประจำวัน, อาจารย์อะหมัด สมะดี ร่อหิมะฮุลลอฮฺ

WCimage
ดุอาอฺยามเช้าและยามเย็น