(إِنَّ هَـٰذَا لَفِي الصُّحُفِ الْأُولَىٰ )
18. แท้จริง (ข้อตักเตือนสติ) นี้มีอยู่ในคัมภีร์ก่อนๆมาแล้ว
(صُحُفِ إِبْرَاهِيمَ وَمُوسَىٰ)
19. คือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา
เนื้อหาในซูเราะฮฺนี้ทั้งหมด ตั้งแต่คำสั่งให้สรรเสริญอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา (ในอายะฮฺแรก) ตลอดจนไม่ให้หลงดุนยาและรำลึกถึงอาคิเราะฮฺ ทุกขั้นตอนกล่าวถึงทางนำและอุทาหรณ์ของทางนำ, ผู้ที่แสวงหาทางนำ, คุณสมบัติของผู้ที่ปรารถนาทางนำ, ปัจจัยที่จะทำให้บรรลุทางนำ และสิ่งที่ขัดขวางทางนำ
ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดนี้ได้ถูกระบุในคัมภีร์ก่อนหน้านี้แล้ว ดังที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสในสองอายะฮฺสุดท้ายของซูเราะฮฺ ซึ่งมีความหมายว่า “แท้จริง (ข้อตักเตือนสติ) นี้มีอยู่ในคัมภีร์ก่อนๆมาแล้ว” และ “คือคัมภีร์ของอิบรอฮีมและมูซา” กล่าวคือ อัลลอฮฺ ได้ระบุสิ่งเหล่านี้มาก่อนหน้าแล้ว ในคัมภีร์ของท่านนบีอิบรอฮีม (อะลัยฮิสสลาม) ผู้เป็นต้นตระกูลของบรรดานบีทั้งหลาย และนบีมูซา (อะลัยฮิสสลาม) ผู้เจ้าของคัมภีร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดก่อนอิสลาม คือ อัตเตารอหฺ (ของบนีอิสรออีล) ที่ชาวคริสต์ก็ยังยึดถือคัมภีร์เล่มนี้ด้วย
ข้อตักเตือนต่างๆที่พูดถึงทางนำนั้น ได้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยแห่งท่านนบีอิบรอฮีม (อะลัยฮิสสลาม) กระทั่งถึงยุคสมัยแห่งท่านนบีมูซา (อะลัยฮิสสลาม) และตลอดจนยุคสมัยแห่งท่านนบีมุฮัมมัด หมายรวมว่าทางนำแห่งอัลลอฮฺ นั้นมีบรรทัดฐานเดียว ความสำเร็จมีหนทางเดียว เส้นทางสู่ทางนำที่เริ่มมาตั้งแต่แรกผ่านบรรดานบีและเราะซูลทั้งหลาย จนถึงท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้นมีหนทางเดียว รูปแบบเดียว คือ การเคารพสักการะ และการให้เอกภาพแด่อัลลอฮฺ
หากเราใคร่ครวญอายะฮฺดังกล่าวก็จะพบว่าสัจธรรมที่มาจากอัลลอฮฺ ย่อมอยู่ในคำสั่งสอนที่ปรากฏในคัมภีร์นี้ พร้อมทั้งคำสั่งสอนที่ท่านนบี ได้นำมาเทศนาตักเตือน และนี่คือตัวอย่าง คือแบบฉบับแห่งทางนำ ใครที่ปรารถนาก็ต้องศึกษาเพื่อประสบทางนำและความสำเร็จ
และทั้งมวลนี้ คือข้อตักเตือนและอุทาหรณ์ต่างๆ ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺนี้ แต่นั่นก็มิได้หมายรวมว่า ความลึกซึ้งของความหมายของทุกอายะฮฺจะขึ้นอยู่กับการอรรถาธิบายเช่นที่กล่าวมาทั้งหมด หากแต่เป็นดั่งประตูหนึ่งที่จะเปิดหัวใจของเหล่าผู้ศรัทธา ในการที่จะคิดพิจารณาและไตร่ตรองเนื้อหาของซูเราะฮฺอัลอะอฺลาอันมีมากมายที่อาจจะยังไม่ได้อธิบาย เราสามารถพินิจพิจารณาในเนื้อหาของซูเราะฮฺมากกว่านี้ก็เป็นได้ หากเราได้พยายามนำอุทาหรณ์นี้มาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราได้พบเห็นได้ประสบในดุนยานี้ เราจะพบว่าข้อชี้แนะและอุทาหรณ์อันชัดเจนและปรีชาญานนั้นอยู่ในซูเราะฮฺนี้ เพื่อที่จะให้เราได้ศึกษาอย่างต่อเนื่อง ขออัลลอฮฺตะอาลา ทรงทำให้อัลกุรอานได้เป็นแสงสว่างให้กับพวกเรา เสมือนตะเกียงที่จะส่องสว่างหนทางสู่ทางนำ สัจธรรมและความจริงที่เราทุกคนต่างก็ปรารถนา
اللهم اجعل هذا القرآن العظيم ربيع قلوبنا ونور صدورنا وجلاء أحزاننا وذهاب همومنا وغمومنا
اللهم ارحمنا بالقرآن واجعله لنا اماما ونورا وهدى ورحمة
اللهم ذكّرنا منه ما أنسينا وعلّمنا منه ما جهلنا وارزقنا تلاوته آناء اليل وأطراف النهار
اللهم اجعل أعمالنا كلها صالحا واجعلها لوجهك خالصا ولا تجعل لأحد فينا شيئا
اللهم انا نسالك الجنة وما قرّب اليها من قول او عمل ونعوذ بك من النار وما قرّب اليها من قول او عمل
اللهم ربنا آتنا في الدنيا حسنة وفي الآخرة حسنة وقنا عذاب النار
وبالله التوفيق والهداية السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
เรียบเรียงจาก การอรรถาธิบายความหมายอัลกุรอาน (ตัฟซีร) ในซูเราะฮฺอัลอะอฺลา, ชัยคฺริฎอ อะหฺมัด สมะดี โดย อบูซัยฟุลลอฮฺ
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 516 views