إِلَّا الَّذِينَ يَصِلُونَ إِلَىٰ قَوْمٍ بَيْنَكُمْ وَبَيْنَهُم مِّيثَاقٌ أَوْ جَاءُوكُمْ حَصِرَتْ صُدُورُهُمْ أَن يُقَاتِلُوكُمْ أَوْ يُقَاتِلُوا قَوْمَهُمْ ۚ وَلَوْ شَاءَ اللَّـهُ لَسَلَّطَهُمْ عَلَيْكُمْ فَلَقَاتَلُوكُمْ ۚ فَإِنِ اعْتَزَلُوكُمْ فَلَمْ يُقَاتِلُوكُمْ وَأَلْقَوْا إِلَيْكُمُ السَّلَمَ فَمَا جَعَلَ اللَّـهُ لَكُمْ عَلَيْهِمْ سَبِيلًا ﴿٩٠﴾
90. นอกจากบรรดาผู้ที่ติดต่ออยู่(*1*)กับพวกหนึ่งซึ่งระหว่างพวกเจ้ากับพวกนั้นมีพันธะสัญญาอยู่(*2*)หรือบรรดาผู้ที่มาหาพวกเจ้าโดยที่หัวอกของพวกเขาอัดอั้น(*3*)ต่อการที่พวกเขาจะสู้รบกับพวกเจ้าหรือสู้รบกับหมู่ชนของพวกเขาเอง(*4*) และหากว่าอัลลอฮฺทรงประสงค์แล้ว แน่นอนก็ทรงให้พวกเขามีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว แล้วแน่นอนพวกเขาก็สู้รบกับพวกเจ้าแล้วด้วยแต่ถ้าพวกเขาออกห่างพวกเจ้า โดยที่มิได้ทำการสู้รบกับพวกเจ้า และได้เจรจาแก่พวกเจ้าซึ่งการประนีประนอมแล้วไซร้ อัลลอฮฺก็ไม่ทรงให้มีทางใดแก่พวกเจ้าที่จะขจัดพวกเขาได้(*5*)
(1) คือมีความสัมพันธ์กันและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
(2) มีพันธะสัญญาที่จะไม่รุกรานกันและสู้รบกัน กล่าวคือถ้าฝ่ายมุอฺมินจะจัดการแก่พวกมุนาฟิกดังกล่าว แน่นอนผู้ที่มีสัมพันธ์อยู่กับพวกเขาก็จะต้องช่วยเหลือ นั่นก็หมายถึงว่า ฝ่ายมุอฺมินจะต้องทำศึกกับผู้ที่มีพันธะสัญญาระหว่างกันอย่างแน่นอน อันเป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสัญญา ด้วยเหตุนี้จึงให้มุมินละเว้นไม่กระทำต่อมุนาฟิกที่อยู่ในข่ายดังกล่าว
(3) ไม่มีแก่ใจที่จะสู้รบกับพวกเจ้า เพราะไม่ปรารถนาที่จะฆ่าฟันกับผุ้ที่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อน กล่าวคือพวกเขาจะไม่ร่วมกับมุนาฟิกมักกะฮ์รบกับฝ่ายมุสลิม
(4) ไม่ปรารถนาที่จะร่วมกับฝ่ายมุสลิมรบกับพวกมุชริกซึ่งเป็นพวกของเขา
(5) เลิกคิดที่จะประหัตประหารพวกเขาเพราะอัลลอฮฺไม่ทรงเปิดทางให้กระทำได้
سَتَجِدُونَ آخَرِينَ يُرِيدُونَ أَن يَأْمَنُوكُمْ وَيَأْمَنُوا قَوْمَهُمْ كُلَّ مَا رُدُّوا إِلَى الْفِتْنَةِ أُرْكِسُوا فِيهَا ۚ فَإِن لَّمْ يَعْتَزِلُوكُمْ وَيُلْقُوا إِلَيْكُمُ السَّلَمَ وَيَكُفُّوا أَيْدِيَهُمْ فَخُذُوهُمْ وَاقْتُلُوهُمْ حَيْثُ ثَقِفْتُمُوهُمْ ۚ وَأُولَـٰئِكُمْ جَعَلْنَا لَكُمْ عَلَيْهِمْ سُلْطَانًا مُّبِينًا ﴿٩١﴾
91. พวกเจ้าจะพบพวกอื่นอีก(*1*) โดยพวกเขาปรารถนาที่จะปลอดภัยจากพวกเจ้า(*2*) และปลอดภัยจากพวกเขาเอง(*3*) คราใดที่พวกเขาถูกให้กลับไปสู่การฟิตนะฮ์(*4*) พวกเขาก็ถูกให้กลับไปอยู่ในนั้นตามเดิม(*5*) ดังนั้นถ้าพวกเขามิได้ออกห่างจากพวกเจ้าไป(*6*) และมิได้เจรจาแก่พวกเจ้าซึ่งการประนีประนอม และมิได้ระงับมือของพวกขาแล้ว(*7*) ก็จงเอาพวกเขาไว้(*8*) และจงฆ่าพวกเขา ณ ที่ที่พวกเจ้าพบพวกเขา(*9*) และชนเหล่านี้แหละเราได้ให้มีอำนาจอันชัดเจนแก่พวกเจ้าที่จะขจัดพวกเขาได้
(1) คือพวกอะซัด และ ฆ็อตฟาน ซึ่งอยู่รอบ ๆ เมืองมะดีนะฮ์
(2) ปรารถนาที่จะได้รับความปลอดภัยจากพวกเจ้า ด้วยการแสดงตนเข้ารับนับถืออิสลาม
(3) ปรารถนาที่จะได้รับความปลอดภัยจากบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาด้วย โดยกล่าวยืนยันแก่พวกเขาว่า พวกเขายังคงเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่
(4) ฟิตนะฮ์ ที่นี้หมายถึงชิริกหรือการให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮฺ
(5) คือพวกเขาก็กลับกระทำการชิริกตามเดิมโดยมิได้ตะขิดตะขวงใจต่อการปฏิญาณตนเป็นมุสลิมของพวกเขาเพราะการปฏิญาณตนเป็นมุสลิมนั้น เป็นการประกาศเลิกการทำชิริกโดยเด็ดขาด ดังกล่าวนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขามิได้รับนับถืออิสลามด้วยความจริงใจ
(6) หมายถึงมิได้เลิกที่จะก่อกวนพวกเจ้า
(7) คือยังมิได้ล้มเลิกในการร่วมมือพวกมุชริกทำการสู้รบกับพวกเจ้า
(8) จับพวกเขาไว้เป็นเชลยหากมีโอกาส
(9) ถ้าจับเป็นเชลยไม่ได้ก็ให้ฆ่าเขา ณ ที่ใดก็ตามที่พบพวกเขา
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 80 views