เกมส์โอลิมปิคในมุมมองของอิสลาม

ริฎอ อะหมัด สมะดี

มีใครเคยคาดว่าบรรดามุสลิมีนที่ให้เอกภาพแด่อัลลอฮฺจะกลับมาสักการะบูชาบรรดาเจว็ดที่เคยถูกสักการะอื่นจากอัลลอฮฺ และปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาที่บูชาเจว็ดอย่างละเอียดถี่ถ้วน

 

แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บอกสัญญาณกิยามะฮฺสัญญาณหนึ่งว่า “วันปรโลกจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีสตรีที่จะล้อมวงสักการะบูชา ซิลเคาะละเซาะฮฺ ซึ่งเป็นเจว็ดตัวหนึ่งที่เคยมีชื่อเสียงในยุคญาฮิลียะฮฺ” นั่นหมายรวมว่าการบูชาเจว็ดจะถูกฟื้นฟูในประชาชาติอิสลามอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่แตกต่างจากที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บอกไว้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คือการที่ประชาชาติอิสลามจะเลียนแบบญะฮูดและนะซอรอคืบต่อคืบ ศอกต่อศอก ขณะนี้ปวงนักกีฬาชายหญิงทั่วโลกกำลังถูกเกณฑ์เพื่อไปร่วมกิจกรรมการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิค โดยที่มุสลิมส่วนมากจะไม่รู้ที่มาของเกมส์โอลิมปิค

 

เมื่อหลายพันปีก่อนในดินแดนแห่งภูเขาโอลิมปัสที่ชาวกรีกเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองเอเธนส์(เมืองหลวงของอาณาจักรกรีก) ได้มีการก่อตั้งโบสถ์ใหญ่โตมโหฬารเพื่อรำลึกถึงซีอุส ซึ่งเป็นเจว็ดที่ถูกอ้างว่าเป็นพระเจ้าของชาวกรีก บริเวณโบสถ์มีสนามเล่นกีฬาเพื่อใช้จัดกิจกรรมกีฬาเป็นการสักการะในเทศกาล เฉลิมฉลองต่อเจว็ดซีอุส ซึ่งการเล่นกีฬาในยุคนั้นเป็นการสักการะรูปแบบหนึ่ง เทศกาลของซีอุสนั้นจะถูกจัดขึ้นทุกสี่ปี ชาวกรีกจะถือว่าเป็นกิจกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เป็นเทศกาลที่ห้ามทำสงครามโดยเด็ดขาด ในกิจกรรมเล่นกีฬาของเทศกาลซีอุสนั้น ได้มีพิธีจุดไฟในที่สูง และรักษาให้ไฟนั้นคงลุกอยู่ตลอดเพื่อแสดงถึงความยั่งยืนของซีอุส บรรดานักบวชหญิงจะสวมเครื่องแบบสีขาวเพื่อต้อนรับนักกีฬาที่เข้ามาถวายการ เล่นกีฬาแก่ซีอุส กิจกรรมการเล่นกีฬาในเทศกาลซีอุสนั้นจะใช้เวลาห้าวัน

 

นั่นคือที่ไปที่มาของเกมส์โอลิมปิค ซึ่งกษัตริย์ธีโอโดสแห่งโรมันเป็นคนแรกที่ยกเลิกเกมส์โอลิมปิคเมื่อยึดครอง เอเธนส์ โดยมีเหตุผลว่าเกมส์โอลิมปิคนั้นเป็นเทศกาลแห่งการบูชาเจว็ด ซึ่งโลกตะวันตกในยุคนั้นก็เริ่มหันมายึดศาสนาคริสต์เป็นส่วนมากแล้ว

 

เกมส์โอลิมปิคถูกล้มเลิกไปหลายศตวรรษ จนกระทั่งคูเบอร์แตง(ชาวฝรั่งเศส)ได้เรียกร้องให้ฟื้นฟูเกมส์โอลิมปิค เมื่อคริสต์ศักราช 1889 เขาได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆในยุโรปและเรียกร้องให้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟู เกมส์โอลิมปิค โดยอ้างว่ามีความจำเป็นที่จะให้การแข่งขันทางกีฬาเป็นแนวทางในการต่อต้าน สงครามระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนั้นโลกกำลังเข้าสู่สภาวะของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

 

แท้ จริงในยุคนั้นอาณาจักรอุษมานหรือคิลาฟะฮฺอุษมานียะฮฺอยู่ในซีกประเทศที่ถูก ต่อต้านจากโลกตะวันตกอันเนื่องจากอาณาจักรอุษมานเคยยึดครองกรีกและ ยูโกสลาเวียเป็นระยะเวลาหลายศตวรรษทีเดียว ซึ่งขณะอาณาจักรอุษมานถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก โดยสัญลักษณ์คือจันทร์เสี้ยวอันหมายถึงศาสนาอิสลาม จึงมีความคิดจากโลกตะวันตกให้สร้างกระแสต่อต้านอารยธรรมอิสลาม เพื่อเป็นแนวร่วมในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทวีปยุโรป และระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นรูปแบบการปกครองในอดีตของกรีกก็ได้ถูกฟื้นฟูให้ เป็นระบอบการปกครองของโลกตะวันตกอย่างกว้างขวาง จึงเกิดกระแสความนิยมชมชอบในอารยธรรมกรีกให้เป็นแบบฉบับแห่งชีวิตของ ชาวตะวันตก และเมื่อโลกตะวันตกเริ่มจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาระดับทวีป ก็เลยนึกถึงเบื้องหลังของอารยธรรมตะวันตกคืออารยธรรมกรีกนั่นเอง จึงนำโอลิมปิคมาเป็นต้นฉบับแห่งการแข่งขันกีฬาในโลกตะวันตก

 

บรรดา แกนนำกีฬาในประเทศยุโรปต่างๆได้เลียนแบบพิธีกรรมของเกมส์โอลิมปิคในยุคกรี กและนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น สัญลักษณ์ของเกมส์โอลิมปิคมีวงกลมห้าวง โดยอ้างว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งห้าทวีปในโลกนี้ แต่มันน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของกีฬาชนิดหนึ่งในสมัยกรีกและห้าวงนั้นคือจำนวน วันที่ใช้จัดกิจกรรมเกมส์โอลิมปิคในอดีต

 

 

การจุดไฟหรือคบเพลิง ซึ่งเป็นพิธีกรรมในการเปิดเกมส์โอลิมปิคตั้งแต่สมัยกรีกมาจนถึงยุคปัจจุบัน และยังเคร่งครัดที่จะต้องนำไฟจากเมืองเอเธนส์ในทุกครั้งที่มีการเปิดเกมส์โอ ลิมปิค โดยจะนำคบเพลิงตระเวนไปยังเมืองต่างๆไปจนถึงเมืองที่เป็นเจ้าภาพ และในพิธีเปิดปัจจุบันก็จะมีผู้หญิงสวมเครื่องแบบสีขาวต้อนรับนักกีฬาที่นำ คบเพลิงมาประกาศเริ่มกิจกรรมเกมส์โอลิมปิค

 

 

 

 

 

นอกจากนั้นยังมีสัตยาบันที่นักกีฬาต้องกล่าวหากเป็นสมาชิกร่วมแข่งขันกีฬาต่างๆ ของเกมส์โอลิมปิค ซึ่งสมัยกรีกก็มีสัตยาบันต่อซีอุส อันเป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่ต้องสัตยาบันสักการะต่อเจว็ดของเขา และในเหรียญรางวัลของเกมส์โอลิมปิคปัจจุบัน ด้านหนึ่งจะมีภาพเทพเจ้าแห่งชัยชนะคือ ไนกี้ (ซึ่งขณะนี้เป็นโลโก้ของชุดกีฬาที่รับความนิยม และเชคอัลมุนัจญิดห้ามสวมชุดกีฬาหรือเครื่องนุ่งห่มที่มีโลโก้ไนกี้เพราะ เป็นสัญลักษณ์แห่งชิริกและการบูชาเจว็ด) และในโอลิมปิคปักกิ่งปีนี้จะมีตุ๊กตาที่ชาวจีนเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์เป็น โลโก้(มาสค็อต) อันเป็นกิจกรรมที่จะเพิ่มความเข้มข้นของชิริกในกีฬาดังกล่าว

 

 

 

 

แม้กระทั่งสโลแกนของกีฬาโอลิมปิค คือ “เร็วกว่า สูงกว่า แข็งแรงกว่า” ก็เป็นคำพูดของบาทหลวงคนหนึ่งชื่อ เฮนรี่ ดีดอน ซึ่งเป็นเพื่อนของคูเบอร์แตงผู้ฟื้นฟูเกมส์โอลิมปิคในคริสต์ศตวรรษที่ 19

 

จาก ข้อมูลข้างต้นผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ว่ากิจกรรมแข่งขันกีฬาเกมส์โอลิมปิค นั้นดั้งเดิมเป็นพิธีทางศาสนาบูชาเจว็ดและเมื่อถูกฟื้นฟูขึนใหม่ก็ด้วย อุดมการณ์ต่อต้านอาณาจักรอุษมานซึ่งขณะนั้นเป็นตัวแทนของโลกมุสลิมและต้อง การสร้างเอกภาพในโลกตะวันตก โดยยึดในแบบฉบับอารยธรรมโลกตะวันตกคืออารยธรรมของชาวกรีก ดังนั้นคำตอบจะไม่ยากนักสำหรับมุสลิมที่เลื่อมใสต่ออะกีดะฮฺ(หลักศรัทธา)ต่อ พระผู้เป็นเจ้าว่า ไม่มีพระเจ้าที่มีสิทธิ์รับการเคารพอิบาดะฮฺนอกจากพระองค์ ที่ต้องหลีกเลี่ยงและห่างไกลจากเกมส์โอลิมปิคในทุกรูปแบบ แม้ว่าจะร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬาชนิดหนึ่งชนิดใดหรือจะติดตามการแข่งขันต่างๆ ก็ตาม เพราะการมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เท่ากับเป็นการสนับสนุนหรือนิ่งเฉยต่อชิริกที่ปรากฏต่อหน้าเรา อันเป็นพฤติกรรมที่อัลกุรอานได้ปราบปรามไว้อย่างชัดเจน ในซูเราะฮฺอันนิซาอฺ อายะฮฺ 140 พระองค์อัลลอฮฺตรัสไว้มีความหมายว่า

 

" และแน่นอน อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมาแก่พวกเจ้าแล้วในคัมภีร์นั้นว่า เมื่อพวกเจ้าได้ยินบรรดาโองการของอัลลอฮฺถูกปฏิเสธและถูกเย้ยหยัน ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่างนั่งร่วมกับพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะพูดคุยกันในเรื่องอื่นจากนั้น แท้จริงพวกเจ้านั้น(ถ้าร่วมอยู่กับเขาแล้ว)ก็เหมือนพวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงรวบรวมบรรดาผู้บิดพลิ้วและบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาไว้ในนรก ญะฮันนัมทั้งหมด"

 

และในซูเราะฮฺอัลอันอาม อายะฮฺ 68 อัลลอฮฺตรัสไว้มีความหมายว่า " และเมื่อเจ้าเห็นบรรดาผู้ซึ่งกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในบรรดาโองกาของเรา แล้ว ก็จงออกห่างจากพวกเขาเสีย จนกว่าพวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องอื่นจากนั้น แล้วถ้าชัยฏอนทำให้เจ้าลืมแล้ว ก็จงอย่านั่งรวมกับพวกที่อธรรมเหล่านั้นต่อไป หลังจากที่มีการตักเตือนแล้ว"

 

 

ขอให้พี่น้องมุสลิมได้ใคร่ครวญข้อมูลข้างต้นและตัดสินใจว่าจะพิทักษ์หลักศรัทธาให้คงอยู่ในกรอบของอิสลามให้มากที่สุดอย่างไร

 

دورة الألعاب الأولومبية ... ..وثنية في ثياب العولمة