Submitted by AhmadRamadhan on Fri, 31/07/2009 - 20:49 เรื่องนี้เชคอธิบายไว้แล้ว เรื่องนี้เชคอธิบายไว้แล้ว หะดีษศ่อฮี้ฮฺอัลบุคอรียฺ (กิตาบุศเศามฺ) ตอนที่ 2 -- 5 ? ??? ???? ??????? ????????? ???? ?????? ????????? ?????? ????? ??????? ???????? เรียก "เราะมะฎอน" หรือ "เดือนเราะมะฎอน" Log in to post comments มาชาอัลลอฮ ขอบคุณอย่างมากครับที่ให้คำตอบ ผมได้ฟังแล้วละเอียดมาก. เมื่อเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เสียงช่วงนาที่ที่ 46 วินาทีที่ 24 จนถึง นาทีที่ 52 ถึงวินาทีที่ 56 ท่านอาจารย์ได้อธิบายอย่างละเอียด โดยมีส่วนหนึ่งจากเสียงบรรยายดังนี้ครับ.. ===================================================== อันเนื่องจากมีนักรายงานฮะดีษได้รายงานเกี่ยวกับฮะดีษที่ว่า "รอมฏอนคือชื่อหนึ่งในบรรดาพระนามของอัลลอฮ" แต่เนื่องด้วยฮะดีษนี้มีหลักฐานอ่อน และท่านอีม่ามบุคคอรีย์ ด้วยความชาญฉลาดของท่านอิม่ามบุคคอรีย์ (ขออัลลอฮทรงประทานความเมตตาแด่ท่าน) ได้นำฮะดีษหลายบทที่กล่าวว่า ท่านนบีได้เคยใช้ทั้ง "รอมฏอน" และ "เดือนรอมฏอน" เช่น ...มันซอนุรอมฏอน... "ใครที่ถือศีลอดในรอมฏอน" นั้นคือท่านอิม่ามบุคอรีย์ได้ยกหลักฐานค้านกับฮะดีษที่ดออีฟก่อนหน้า เนื่องจากท่านนบีก็เคยใช้คำว่า รอมฏอน โดยไม่มีส่วนคำใดเพิ่มเติมหรือต่อท้ายด้วยเช่นกัน โดยมิได้นำต้นด้วยคำว่าเดือน และอีกหะดีษ บทหนึ่งก็คือ "อย่านำการถือศีลอดสองวันก่อนรอมฏอน" ซึ่งฮะดีษบทนี้ท่านนบีก็ใช้คำว่า รอมฏอนเปล่า ๆ เช่นกัน และอีกฮะดีษบทหนึ่ง "เมื่อรอมฏอนมาแล้วประตูสวรรค์จะถูกเปิดไว้" บทนี้ท่านนบีก็กล่าว รอมฏอน เปล่า ๆ อีกด้วย และอีกตัวบทของฮะดีษ "ถ้าเดือนรอมฏอนเข้ามาแล้ว ประตูทั้งหลายในชั้นฟ้าจะถูกเปิดออก ประตูนรกจะถูกปิด และบรรดาชายาตีน (บรรดาชัยตอน) จะถูกกักขังไว้ " บทนี้ท่านนบีก็ใช้คำว่าเดือนนำหน้า "เมื่อเห็นมันแล้ว (หมายถึงจันทร์เสี้ยวต้นเดือน) ก็จงถือศีลอด และเมื่อเห็นมันแล้วก็จงละศีลอด (หมายถึงจันทร์เสี้ยวปลายเดือน) หากมีเมฆบังไป (หรืออุปสรรค) มิให้เราเห็นมันได้ ก็ให้นับเสีย" ซึ่งการนับก็อธิบายในฮะดีษอีกบทคือ "ก็จงถือศีลอดในเดือนชะหฺบานสามสิบวัน" นั้นคือเมื่อถึงคำที่ 29 เมื่อไปดูแล้วไม่มีก็ให้นับอีกวันเป็นวันที่ 30 และหลังจากวันที่สามสิบก็เริ่มถือศีลอดของเดือนรอมฏอนต่อได้เลย และบทนี้ก็ใช้คำว่าเดือนนำหน้า ===================================================== สรุปก็คือ ฮะดีษที่นักรายงานฮะดีษกล่าวว่า "รอมฏอนนั้นเป็นหนึ่งในพระนามของอัลลอฮ" เป็นฮะดีษดออีฟ (หลักฐานอ่อน) ===================================================== ช่างเป็นอุลามะหฺของคนไทยที่หาตัวจับยากในการอธิบายอย่างละเอียดขนาดนี้ ขออัลลอฮทรงเพิ่มพูนความรู้และอีม่านแก่ท่านเพื่อหนทางของพระองค์ อินชาอัลลอฮ วัสลาม Ahmad Ramadhan Wilaiwan Log in to post comments Log in to post comments38 views
เรื่องนี้เชคอธิบายไว้แล้ว เรื่องนี้เชคอธิบายไว้แล้ว หะดีษศ่อฮี้ฮฺอัลบุคอรียฺ (กิตาบุศเศามฺ) ตอนที่ 2 -- 5 ? ??? ???? ??????? ????????? ???? ?????? ????????? ?????? ????? ??????? ???????? เรียก "เราะมะฎอน" หรือ "เดือนเราะมะฎอน" Log in to post comments
มาชาอัลลอฮ ขอบคุณอย่างมากครับที่ให้คำตอบ ผมได้ฟังแล้วละเอียดมาก. เมื่อเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เสียงช่วงนาที่ที่ 46 วินาทีที่ 24 จนถึง นาทีที่ 52 ถึงวินาทีที่ 56 ท่านอาจารย์ได้อธิบายอย่างละเอียด โดยมีส่วนหนึ่งจากเสียงบรรยายดังนี้ครับ.. ===================================================== อันเนื่องจากมีนักรายงานฮะดีษได้รายงานเกี่ยวกับฮะดีษที่ว่า "รอมฏอนคือชื่อหนึ่งในบรรดาพระนามของอัลลอฮ" แต่เนื่องด้วยฮะดีษนี้มีหลักฐานอ่อน และท่านอีม่ามบุคคอรีย์ ด้วยความชาญฉลาดของท่านอิม่ามบุคคอรีย์ (ขออัลลอฮทรงประทานความเมตตาแด่ท่าน) ได้นำฮะดีษหลายบทที่กล่าวว่า ท่านนบีได้เคยใช้ทั้ง "รอมฏอน" และ "เดือนรอมฏอน" เช่น ...มันซอนุรอมฏอน... "ใครที่ถือศีลอดในรอมฏอน" นั้นคือท่านอิม่ามบุคอรีย์ได้ยกหลักฐานค้านกับฮะดีษที่ดออีฟก่อนหน้า เนื่องจากท่านนบีก็เคยใช้คำว่า รอมฏอน โดยไม่มีส่วนคำใดเพิ่มเติมหรือต่อท้ายด้วยเช่นกัน โดยมิได้นำต้นด้วยคำว่าเดือน และอีกหะดีษ บทหนึ่งก็คือ "อย่านำการถือศีลอดสองวันก่อนรอมฏอน" ซึ่งฮะดีษบทนี้ท่านนบีก็ใช้คำว่า รอมฏอนเปล่า ๆ เช่นกัน และอีกฮะดีษบทหนึ่ง "เมื่อรอมฏอนมาแล้วประตูสวรรค์จะถูกเปิดไว้" บทนี้ท่านนบีก็กล่าว รอมฏอน เปล่า ๆ อีกด้วย และอีกตัวบทของฮะดีษ "ถ้าเดือนรอมฏอนเข้ามาแล้ว ประตูทั้งหลายในชั้นฟ้าจะถูกเปิดออก ประตูนรกจะถูกปิด และบรรดาชายาตีน (บรรดาชัยตอน) จะถูกกักขังไว้ " บทนี้ท่านนบีก็ใช้คำว่าเดือนนำหน้า "เมื่อเห็นมันแล้ว (หมายถึงจันทร์เสี้ยวต้นเดือน) ก็จงถือศีลอด และเมื่อเห็นมันแล้วก็จงละศีลอด (หมายถึงจันทร์เสี้ยวปลายเดือน) หากมีเมฆบังไป (หรืออุปสรรค) มิให้เราเห็นมันได้ ก็ให้นับเสีย" ซึ่งการนับก็อธิบายในฮะดีษอีกบทคือ "ก็จงถือศีลอดในเดือนชะหฺบานสามสิบวัน" นั้นคือเมื่อถึงคำที่ 29 เมื่อไปดูแล้วไม่มีก็ให้นับอีกวันเป็นวันที่ 30 และหลังจากวันที่สามสิบก็เริ่มถือศีลอดของเดือนรอมฏอนต่อได้เลย และบทนี้ก็ใช้คำว่าเดือนนำหน้า ===================================================== สรุปก็คือ ฮะดีษที่นักรายงานฮะดีษกล่าวว่า "รอมฏอนนั้นเป็นหนึ่งในพระนามของอัลลอฮ" เป็นฮะดีษดออีฟ (หลักฐานอ่อน) ===================================================== ช่างเป็นอุลามะหฺของคนไทยที่หาตัวจับยากในการอธิบายอย่างละเอียดขนาดนี้ ขออัลลอฮทรงเพิ่มพูนความรู้และอีม่านแก่ท่านเพื่อหนทางของพระองค์ อินชาอัลลอฮ วัสลาม Ahmad Ramadhan Wilaiwan Log in to post comments
เรื่องนี้เชคอธิบายไว้แล้ว
เรื่องนี้เชคอธิบายไว้แล้ว
หะดีษศ่อฮี้ฮฺอัลบุคอรียฺ (กิตาบุศเศามฺ)
ตอนที่ 2 -- 5 ? ??? ???? ??????? ????????? ???? ?????? ????????? ?????? ????? ??????? ???????? เรียก "เราะมะฎอน" หรือ "เดือนเราะมะฎอน"
มาชาอัลลอฮ ขอบคุณอย่างมากครับที่ให้คำตอบ ผมได้ฟังแล้วละเอียดมาก.
เมื่อเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เสียงช่วงนาที่ที่ 46 วินาทีที่ 24 จนถึง นาทีที่ 52 ถึงวินาทีที่ 56
ท่านอาจารย์ได้อธิบายอย่างละเอียด โดยมีส่วนหนึ่งจากเสียงบรรยายดังนี้ครับ..
=====================================================
อันเนื่องจากมีนักรายงานฮะดีษได้รายงานเกี่ยวกับฮะดีษที่ว่า "รอมฏอนคือชื่อหนึ่งในบรรดาพระนามของอัลลอฮ" แต่เนื่องด้วยฮะดีษนี้มีหลักฐานอ่อน และท่านอีม่ามบุคคอรีย์ ด้วยความชาญฉลาดของท่านอิม่ามบุคคอรีย์ (ขออัลลอฮทรงประทานความเมตตาแด่ท่าน) ได้นำฮะดีษหลายบทที่กล่าวว่า ท่านนบีได้เคยใช้ทั้ง "รอมฏอน" และ "เดือนรอมฏอน" เช่น
...มันซอนุรอมฏอน... "ใครที่ถือศีลอดในรอมฏอน"
นั้นคือท่านอิม่ามบุคอรีย์ได้ยกหลักฐานค้านกับฮะดีษที่ดออีฟก่อนหน้า เนื่องจากท่านนบีก็เคยใช้คำว่า รอมฏอน โดยไม่มีส่วนคำใดเพิ่มเติมหรือต่อท้ายด้วยเช่นกัน โดยมิได้นำต้นด้วยคำว่าเดือน
และอีกหะดีษ บทหนึ่งก็คือ
"อย่านำการถือศีลอดสองวันก่อนรอมฏอน" ซึ่งฮะดีษบทนี้ท่านนบีก็ใช้คำว่า รอมฏอนเปล่า ๆ เช่นกัน
และอีกฮะดีษบทหนึ่ง
"เมื่อรอมฏอนมาแล้วประตูสวรรค์จะถูกเปิดไว้" บทนี้ท่านนบีก็กล่าว รอมฏอน เปล่า ๆ อีกด้วย
และอีกตัวบทของฮะดีษ "ถ้าเดือนรอมฏอนเข้ามาแล้ว ประตูทั้งหลายในชั้นฟ้าจะถูกเปิดออก ประตูนรกจะถูกปิด และบรรดาชายาตีน (บรรดาชัยตอน) จะถูกกักขังไว้ "
บทนี้ท่านนบีก็ใช้คำว่าเดือนนำหน้า
"เมื่อเห็นมันแล้ว (หมายถึงจันทร์เสี้ยวต้นเดือน) ก็จงถือศีลอด และเมื่อเห็นมันแล้วก็จงละศีลอด (หมายถึงจันทร์เสี้ยวปลายเดือน) หากมีเมฆบังไป (หรืออุปสรรค) มิให้เราเห็นมันได้ ก็ให้นับเสีย" ซึ่งการนับก็อธิบายในฮะดีษอีกบทคือ "ก็จงถือศีลอดในเดือนชะหฺบานสามสิบวัน" นั้นคือเมื่อถึงคำที่ 29 เมื่อไปดูแล้วไม่มีก็ให้นับอีกวันเป็นวันที่ 30 และหลังจากวันที่สามสิบก็เริ่มถือศีลอดของเดือนรอมฏอนต่อได้เลย
และบทนี้ก็ใช้คำว่าเดือนนำหน้า
=====================================================
สรุปก็คือ ฮะดีษที่นักรายงานฮะดีษกล่าวว่า "รอมฏอนนั้นเป็นหนึ่งในพระนามของอัลลอฮ" เป็นฮะดีษดออีฟ (หลักฐานอ่อน)
=====================================================
ช่างเป็นอุลามะหฺของคนไทยที่หาตัวจับยากในการอธิบายอย่างละเอียดขนาดนี้
ขออัลลอฮทรงเพิ่มพูนความรู้และอีม่านแก่ท่านเพื่อหนทางของพระองค์ อินชาอัลลอฮ
วัสลาม
Ahmad Ramadhan Wilaiwan