- เงื่อนไขของการละหมาด (ชุรูตุศศ่อลาฮฺ)
- หะดีษุลมุซีอิ ศ่อลาตะฮู - คนที่ละหมาดไม่ดี (ไม่สมบูรณ์)
- ตุมะอฺนีนะฮฺ คุชูอฺในละหมาด
- หะดีษ 399 เหตุการณ์เปลี่ยนกิบลัตขณะละหมาด
- การซิยาเราะฮฺมัสจิดกิบละตัยนฺหรือมัสจิดอื่นๆ ทำได้หรือไม่ ?
- หะดีษ 400 ละหมาดฟัรฎูและซุนนะฮฺ บนพาหนะ
- หะดีษ 401 ท่านนบีลืมในละหมาดและได้สุจูดซะฮฺวี
- เงื่อนไขของการละหมาด (ชุรูตุศศ่อลาฮฺ) คือ การอาบน้ำละหมาด ความสะอาดของสรีระ เครื่องนุ่งห่ม และสถานที่ละหมาด การหันหน้าไปทางกิบลัต
- การหันหน้าไปทางกิบลัต
باب التَّوَجُّهِ نَحْوَ الْقِبْلَةِ حَيْثُ كَانَ
บาบ 31- การผินหน้าไปยังกิบละฮฺ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
อัตตะวัจจุฮฺ - การผินหน้า, หันหน้า
حَدِيْثُ الْمُسِيْءِ صَلاَتَهُ - หะดีษุลมุซีอิ ศ่อลาตะฮู - คนที่ละหมาดไม่ดี (ไม่สมบูรณ์)
ละหมาดเร็ว เสร็จแล้วมาสลามนบี นบีไม่สลามแล้วให้ไปละหมาดใหม่ ถึง 3 รอบ และบอกว่านบีว่าเขาทำได้แค่นี้ นบีจึงอธิบายวิธีละหมาดให้ฟังโดยละเอียด
- แต่ละอิริยาบทให้กระดูกเข้าที่ของมัน ทั้งตอนรุกัวะ สุจูด นั่ง ฯลฯ - -ทุกมัซฮับ (ยกเว้นมัซฮับฮะนะฟี) จึงมีทัศนะว่า ตุมะนีนะฮฺเป็นรุกุ่นของการละหมาด
وَقَالَ أَبُو هُرَيْرَةَ قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «اسْتَقْبِلِ الْقِبْلَةَ وَكَبِّرْ».
ท่านนบีสอนชายคนนั้นว่า "ให้หันหน้าไปทางกิบลัตแล้วกล่าว อัลลอฮุอักบัร"
ท่านนบีสอนเรื่อง รุกัวะ สุจูด ตุมะนีนะฮฺ แสดงว่าเป็นเรื่อง "รุกุ่น" (รุกนฺ - เสา)
- รุกุ่น กับ ชุรูฏ ต่างกันอย่างไร -- เหมือนกันตรงที่ ถ้าไม่ทำละหมาดใช้ไม่ได้
รุกุ่น อยู่ในตัวละหมาด
ชุรูฏ อยู่นอกละหมาด
หะดีษ 399 การเปลี่ยนกิบลัตขณะละหมาด
(- ตั้งชื่อ อิสรออีล หรือชื่อมะลาอิกะฮฺเช่น ญิบรีล อิสรอฟีล มีกาอีล ฯลฯ ได้หรือไม่ ?)
อัลบะรออฺเล่าเรื่องว่า ท่านนบีละหมาดหันหน้าไปยังบัยตุลมักดิส (ตอนอยู่ที่มักกะฮฺ) 16-17 เดือน (ตั้งแต่รับบัญชาละหมาดห้าวักตู -- อิสรออฺมิอฺรอจ)
(- ก่อนหน้านั้นนบีหันไปทางไหน ? อุละมาอฺมีทัศนะต่างกันคือ กะอฺบะฮฺ บัยตุลมักดิส หรือไม่กิบลัตที่ชัดเจน เหมือนตอนที่นบีมูซาอยู่อียิปต์)
ท่านนบีชอบที่จะให้อัลลอฮฺสั่งให้เปลี่ยนกิบลัตไปทางกะอฺบะฮฺ อัลลอฮฺจึงประทานอายะฮฺ
2:144 "แท้จริงเราเห็นใบหน้าของเจ้าแหงนไปในฟากฟ้าบ่อยครั้ง (ดังนั้นเราจะให้เจ้าผินไปยังทิศที่เจ้าพึงใจ)" หลังจากนั้นนบีก็หันหน้าไปทางกะอฺบะฮฺ
- เหตุการณ์เปลี่ยนกิบลัตขณะละหมาด
ชายคนหนึ่งได้ละหมาดกับท่านนบี (ดุฮรฺหรืออัศริ) หลังจากนั้นออกจากละหมาด ได้ผ่านมุศ็อลลาของชาวอันศอร(บนูฮาริซะฮฺ) กำลังละหมาดอัศริในกิบลัตเดิม เขาได้บอกกับชาวอันศอรว่า ฉันเป็นพยานว่านบีได้เปลี่ยนกิบลัตแล้ว ผู้ที่ละหมาดอยู่จึงเปลี่ยนกิบลัตหันไปทางกะอฺบะฮฺขณะละหมาด (คนนอกละหมาดพูดให้คนที่กำลังละหมาดฟังได้)
(การซิยาเราะฮฺมัสจิดกิบละตัยนฺหรือมัสจิดอื่นๆ ทำได้หรือไม่ ?
ที่มะดีนะฮฺควรไปซิยาเราะฮฺอิบาดะฮฺ 2 สถานที่คือ มัสจิดกุบาอฺ(นบีเคยทำ) และกุโบร์ชุฮะดาอฺอุฮุด ส่วนการทัศนศึกษาสถานที่ทางประวัติศาสตร์นั้นกระทำได้)
- ไม่อนุญาตให้เดินทางไกลไปละหมาดมัสจิดใด นอกจาก 3 มัสจิด (มัสจิดหะรอม, มัสจิดนะบี, และอัลอักซอ)
หะดีษ 400 ละหมาดฟัรฎูและซุนนะฮฺ บนพาหนะ
ท่านนบีละหมาดซุนนะฮฺบนพาหนะ ไม่ว่ามันจะหันไปทางไหนก็ตาม (ไม่จำเป็นต้องยืนละหมาด และไม่ต้องหันทางกิบลัตตลอดก็ได้)
แต่เมื่อละหมาดฟัรฎู ท่านนบีจะลงจากพาหนะแล้วละหมาดโดยหันไปทางกิละฮฺ
หะดีษ 401 ท่านนบีลืมในละหมาดและได้สุจูดซะฮฺวี
(ครั้งหนึ่ง) ท่านนบีละหมาด (อิบรอฮีมจำไม่ได้ว่า) เกินหรือขาด (จำนวนร็อกอะฮฺ)
พอท่านนบีสลาม
**เวลาละหมาด จำเป็นต้องหันหน้าไปทางกิบละฮฺ แม้จะเป็นสุจูดซะฮฺวีก็ต้องหันทางกิบละฮฺ
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 113 views