ท่านนบีบอกว่า "มนุษย์ที่ประเสริฐที่สุด รุ่น(ยุค)ฉัน(ก๊อรนีย) และรุ่นถัดไป และรุ่นถัดไป"
ลำดับความประเสริฐของศ่อฮาบะฮฺ - 10 ท่านชาวสวรรค์, ชาวบัดรฺ, ชาวอุฮุด, ชาวต้นไม้
การอ้างอิงถึง "สกุล(คำอ้างอิง)" (เช่น ชาฟิอียฺ ฮะนะฟียฺ สะละฟียฺ) มีเงื่อนไข 3 ประการ
1- คำอ้างอิงนี้ต้องไม่ทำให้เกิดการแบ่งแยกในสังคม
2- คำพูดและกระทำสอดคล้องกับคำอ้างอิงนั้น
3- เลื่อมใสในคำสั่งสอนของคำอ้างอิง(สกุล)นั้น
อายะฮฺนี้พูดถึงบรรพชนรุ่นแรก แต่ก็เป็นความหวังสำหรับคนรุ่นหลัง คือ "9:100 และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดี"
ซึ่งส่วนมากเป็นนักปฏิบัติ ไม่พูดมาก ไม่ต้องการความสนใจจากสังคม สังคมได้ประโยชน์จากพวกเขา
- ซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺพูดถึงโครงรัฐอิสลาม การสร้างเมืองใหม่ คือมะดีนะฮฺ, สิทธิของประชากร สัญชาติ
- มนุษย์มี 2 ประเภท เป็นมุสลิม และไม่ใช่มุสลิม ในละกลุ่มมีหลายประเภท
- ในมะดีนะฮฺ มีกลุ่มที่ไม่รับอิสลาม บูชาเจว็ด
- ชาวอันซอร (เป็นคำศัพท์ที่นำมาใช้ครั้งแรกที่มะดีนะฮฺ) ชาวมะดีนะฮฺแต่เดิม ที่ช่วยเหลือท่านนบีเมื่ออพยพไปมะดีนะฮฺ
- ชาวมุฮาจิรีน อพยพ(ฮิจเราะฮฺ) มาจากถิ่นอื่น มาสนับสนุนท่านนบีที่มะดีนะฮฺ เช่น อบูฮุร็อยเราะฮฺ (เผ่าเด๊าสฺ เยเมน), อบูมูซา อัลอัชอารียฺ (เผ่าอัชอารียีน เยเมน)
- ฮิจเราะฮฺ (การอพยพ)ของท่านนบี อพยพแล้วอยู่ถิ่นนั้นตลอด ไม่ได้กลับไปถิ่นเดิม
وَالسَّابِقُونَ الْأَوَّلُونَ مِنَ الْمُهَاجِرِينَ وَالْأَنصَارِ وَالَّذِينَ اتَّبَعُوهُم بِإِحْسَانٍ رَّضِيَ اللَّهُ عَنْهُمْ وَرَضُوا عَنْهُ
9:100 บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ (ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันศอรจากมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้น อัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย...
- อัซซาบิกูนัลเอาวะลูน - บรรพชนรุ่นแรก คือ ชาวมุฮาจิรีนและอันซอร มีหลายระดับ
-- กลุ่มที่รับอิสลามรุ่นแรก - อบูบักร อัซซิดดี๊ก, อัซซุบัยรฺ อิบนุลเอาวาม (รับอิสลาม 8 ขวบ), ซะอดฺ อิบนุอบีวักกอศ
-- ชาวอันซอร รุ่นแรกที่ไปเชิญชวนท่านนบี บัยอะฮฺท่านนบีตอนไปทำฮัจญฺ
อุละมาอฺจะแบ่งกลุ่มศ่อฮาบะฮฺ ตามการสนับสนุนท่านนบี
ความประเสริฐของศ่อฮาบะฮฺ
- 4 คอลีฟะฮฺ
- 6 ท่าน ชาวสวรรค์
- ชาวบัดรฺ
- ชาวอุฮุด
- ชาวต้นไม้ (ฮุดัยบียะฮฺ)
ศ่อฮาบะฮฺ คือใคร ? คนที่ได้เห็น(พบ)ท่านนบี ศรัทธาต่อท่านนบี และเสียชีวิตในฐานะผู้ศรัทธา
- มีประมาณ 1 แสนคน ประมาณจากคนที่มาทำฮัจญฺกับท่านนบีในปีที่ 10
- ที่มีประวัติชัดเจน 3 พันกว่าคน ที่มีชื่อเสียง 100 กว่าท่าน บางท่านไม่มีชื่อเสียงเช่น มัรซัด อิบนุอบีมัรซัด อัลฆ่อนะมี
- อัซซาบิกูนัลเอาวะลูน - คนที่สนับสนุนท่านนบีตั้งแต่แรก อุละมาอฺบางท่านบอกว่า คือคนที่ละหมาด 2 กิบลัต
ตาบิอีน (ไม่เห็นท่านนบี แต่ได้พบเศาะฮาบะฮฺ)
- ตาบิอีนรุ่นแรก ได้พบศ่อฮาบะฮฺหลายบท่าน - สะอี๊ด อิบนุลมุซัยยิบ (รู้จักศ่อฮาบะฮฺมากที่สุด 70 ท่าน), หะซัน อัลบัศรี
- ตาบิอีนที่รู้จัก ศฮบ คนเดียว เช่น มุฮัมมัด อัซซุฮรี
- รุ่นแรก(ติดกับศ่อฮาบะฮฺ) รุ่นหลัง (ยุคปัจจุบัน)
- นิยามด้านประวัติศาสตร์มี 2 รุ่น เพราะมีหะดีษมากำชับเรื่องนี้
หะดีษ มนุษย์ที่ประเสริฐที่สุด 3 รุ่น คือ อัสสะละฟุซซอลิหฺ
ท่านนบีบอกว่า "ค็อยรุนนาสิ ก๊อรนีย...
روى البخاري (2652) ، ومسلم (2533) عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بن مسعود رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ، عَنِ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: ( خَيْرُ النَّاسِ قَرْنِي، ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَهُمْ، ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَهُمْ،
، ثُمَّ يَجِيءُ أَقْوَامٌ تَسْبِقُ شَهَادَةُ أَحَدِهِمْ يَمِينَهُ، وَيَمِينُهُ شَهَادَتَهُ ) .
"มนุษย์ที่ประเสริฐที่สุด รุ่น(ยุค)ฉัน(ก๊อรนีย) และรุ่นถัดไป และรุ่นถัดไป"
อิมามนะวะวียฺ อธิบายว่า 3 รุ่น รุ่นแรกคือ สมัยท่านนบีและศ่อฮาบะฮฺ
- ศ่อฮาบะฮฺที่ตาบอก ไม่เห็นท่านนบี แต่ถือว่าได้พบ เช่น อัมรฺ อิบนุอุมมิมักตูม (มุอัซซิน),
รุ่นที่ 2 คือตาบิอีน ทุกคนที่เห็น(พบ)ศ่อฮาบะฮฺแม้แต่คนเดียว ศรัทธา และเสียชีวิตในฐานะผู้ศรัทธา
- อุวัยสฺ อัลก๊อรนี อยู่ในยุคท่านนบี แต่ไม่ได้เห็น จึงไม่ใช่ศ่อฮาบะฮฺ ถือว่าเป็นตาบิอีน
- ตาบิอีนที่ตาบอด ไม่เห็นศ่อฮาบะฮฺ แต่ได้พบ
รุ่นที่ 3 คนที่ปฏิบัติตามรุ่นที่ 2 ตาบิอิตตาบิอีน
คนรุ่นหลัง ที่ยึดมั่นในแนวทางของ "อัสสะละฟุซซอลิหฺ" (สะลัฟ) เรียก สะละฟียฺ
อุละมาอฺหลังจากรุ่นสะลัฟ ไม่มีใครใช้คำว่า สะละฟียฺ
การอ้างอิงถึง "สะละฟียฺ" (สกุลหรือคำอ้างอิงอื่นๆ) มีเงื่อนไข 3 ประการ
1- คำอ้างอิงนี้ต้องไม่ทำให้เกิดการแบ่งแยกในสังคม
- ศ่อฮาบะฮฺเคยเกิดการแบ่งแยกด้วยคำว่ามุอาจิรีน อันซอร นบีบอกว่า ไม่ได้ ทิ้งมันซะ มันเป็นสิ่งที่เน่าเหม็น (อะซอบียะฮฺ)
- เคยเกิดขึ้นที่อิรัก ฟิตนะฮฺจากการกุเรื่องระหว่างฮะนาบิละฮฺ(ยึดอะกีดะฮฺสะลัฟ) และอะชาอิเราะฮฺ (อะกีดะฮฺตีความ) โต้เถียงกันจนเกิดสงคราม ชักดาบสู้กัน เป็นฟิตนะฮฺที่อุละมาอฺประนามมากที่สุด
อัลอิซซ อิบนุอับดุลสลาม "ผู้รู้คนใดที่พูดเรื่องว่าซินามันบาป ในขณะที่สิ่งที่กำลังแพร่หลายในถิ่นนั้นคือริบา คนนั้นน่ะทรยศศาสนา"
22:78 พระองค์ทรงเรียกชื่อพวกเจ้าว่ามุสลิมีน https://youtube.com/shorts/lxHzYhcP2N4
- สะลัฟที่แท้จริง
2- คำพูดและกระทำสอดคล้องกับคำอ้างอิงนั้น
3- เลื่อมใสในคำสั่งสอนของคำอ้างอิง(สกุล)นั้น
وَأَعَدَّ لَهُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِي تَحْتَهَا الْأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَا أَبَدًا ۚ ذَٰلِكَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ ١٠٠
9:100 ...และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง
جَنَّاتٍ تَجْرِي تَحْتَهَا الْأَنْهَارُ -- เป็นอายะฮฺเดียวที่ไม่ "มิน" หลังจาก "ตัจรี"
แต่กิรออะฮฺของอิบนิกะษีรมี من ซึ่งเป็นมุศฮัฟของชาวมักกะฮฺ
قرأ ابن كثير : ( من تحتها الأنهار ) ، وكذلك هو في مصاحف أهل مكة ،
9:100 ..อัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย... มี 2 นัยยะ
1- พวกเขาพอใจ(เชื่อฟัง)ในบทบัญญัติของอัลลอฮฺทุกประการ
2- อัลลอฮฺพอพระทัยเขา แสดงว่าเป็นชาวสวรรค์แน่นอน
อายะฮฺนี้พูดถึงบรรพชนรุ่นแรก แต่ก็เป็นความหวังสำหรับคนรุ่นหลัง คือ "9:100 และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดี" ซึ่งส่วนมากเป็นนักปฏิบัติ ไม่พูดมาก ไม่ต้องการความสนใจจากสังคม สังคมได้ประโยชน์จากพวกเขา ตย. อบูซัร อัลเกาะละมูนี
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 113 views