เจ้าอย่าหันแก้มของเจ้าให้แก่ผู้คนอย่างยะโส

Submitted by dp6admin on Tue, 24/04/2012 - 22:49
 
وَلَا تُصَعِّرْ خَدَّكَ لِلنَّاسِ وَلَا تَمْشِ فِي الْأَرْضِ مَرَحًا ۖ إِنَّ اللَّـهَ لَا يُحِبُّ كُلَّ مُخْتَالٍ فَخُورٍ ﴿١٨﴾
ความว่า “และเจ้าอย่าหันแก้ม (ใบหน้า) ของเจ้าให้แก่ผู้คนอย่างยะโส และอย่าเดินไปตามแผ่นดินอย่างไร้มรรยาทแท้จริง อัลลอฮฺมิทรงชอบทุกผู้หยิ่งจองหองและผู้คุยโวโอ้อวด” [ลุกมาน 31:18]
ท่านลุกมานได้สอนมารยาทแก่บุตรของท่าน แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คือ อย่าทำหน้าบึ้งหรือหยิ่งยโสต่อผู้คนเพราะเป็นลักษณะของคนที่ตะกับบุร  และอย่าเดินไปตามแผ่นดินอย่างไร้มารยาท หมายถึงเดินอย่างเย่อหยิ่ง ไม่นอบน้อมต่อผู้อื่น
 
คนที่ชอบอวดตน เขาจะแต่งตัว หวีผม และใช้เครื่องแต่งกายอย่างดี เพื่อให้คนอื่นเห็นและดูถูกคนอื่นว่าไม่มีเหมือนเขา แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้ของดีไม่ได้เลย ของดีหรือนิอฺมะฮฺที่อัลลอฮฺ   ทรงให้มานั้นศาสนาส่งเสริมให้ใช้ แต่ต้องใช้ในเชิงขอบคุณอัลลอฮฺ   และไม่ดูถูกคนอื่น เพราะคนอื่นอาจไม่มีของดีแต่มีอีหม่านมากกว่าเรา เราต้องให้เกียรติเขา 
 
เป็นลักษณะตกต่ำของสังคมปัจจุบันที่ถูกความคิดวัตถุนิยมของชาวตะวันตกครอบงำ แม้กระทั่งมุสลิม อัลลอฮฺ   บอกว่าเรื่องดุนยาล้วนอยู่ในสภาพที่ตกต่ำทั้งสิ้น ที่น่าอวดคือเรื่องของอาคิเราะฮฺ ซึ่งไม่ใช่นำการนำอิบาดะฮฺมาอวดในดุนยา แต่ในวันกิยามะฮฺต่างหากที่อะมัล(การงาน)ทุกอย่างจะถูกนำมาแสดง คนมีทรัพย์สมบัติที่ทำความชั่วก็จะไม่กล้านำมาอวด เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นภาระที่ต้องถูกสอบสวน สิ่งที่จะนำมาอวดในวันกิยามะฮฺคือความดี ไม่ว่าจะเป็นการละหมาดในดุนยาหรือการบริจาคที่เคยปกปิด อัลลอฮฺ   จะทรงอนุญาตให้เปิดเผยต่อประชาชาติทั้งหลายในวันกิยามะฮฺ แต่อย่าโอ้อวดในดุนยาเพราะจะทำให้การงานโมฆะ ไม่มีผลบุญ จงเดินอย่างต่ำต้อย ถ่อมตน และมีมารยาท เพราะแท้จริงอัลลอฮฺ   ไม่ทรงชอบคนเย่อหยิ่ง 
 
ปัญหาในสังคมที่เด็กทะเลาะกัน เพราะเราไม่สอนมารยาทนี้แก่ลูกหลาน เช่น พ่อซื้อรถจักรยานให้ลูก ก็ต้องสอนให้รู้จักแบ่งปันและอย่าโอ้อวด เพราะเด็กที่ไม่มีอาจจะอิจฉา นี่คือมารยาทอันละเอียดอ่อนที่ท่านลุกมานสอนบุตรของท่าน ด้วยความที่เป็นคนมีฮิกมะฮฺ ฉลาด และมีความรู้มาก จึงสอนแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ 
 
وَاقْصِدْ فِي مَشْيِكَ وَاغْضُضْ مِن صَوْتِكَ ۚ إِنَّ أَنكَرَ الْأَصْوَاتِ لَصَوْتُ الْحَمِيرِ ﴿١٩﴾
ความว่า “และเจ้าจงก้าวเท้าของเจ้าพอประมาณ และจงลดเสียงของเจ้าลง แท้จริง เสียงที่น่าเกลียดยิ่ง คือเสียง (ร้อง) ของลา” [ลุกมาน 31:19]
 
มารยาทในการเดินให้ก้าวเท้าพอประมาณ อย่าเร็วและอย่าช้ามาก เพราะคนที่เร่งรีบเดินเหมือนหนีอะไรบางอย่าง ทำให้น่าสงสัย และคนที่เดินช้าไปก็ดูไม่แข็งแรง นี่แค่ลักษณะการเดินท่านลุกมานยังนำมาสอนลูก ที่ต้องระมัดระวังในปัจจุบันคือ การเดินเหมือนกระเทย ซึ่งเลียนแบบจากสื่อต่างๆ กลายเป็นโรคระบาดในสังคมที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ เรื่องนี้ถ้าเราไม่ปรับปรุงตั้งแต่อายุยังน้อยจะมีปัญหาตอนโต ลูกสาวก็ต้องเดินแบบมุสลิมะฮฺ ไม่ใช่ดารา มุสลิมต้องเดินอย่างนอบน้อมให้ผู้อื่น ไม่เย่อหยิ่ง 
 
เราสามารถดูมารยาทเล็กน้อยของผู้คนได้จากการพูดจาหรือลักษณะการเดิน ทำให้รู้ว่าคนนี้ได้รับการอบรมจากที่บ้านอย่างไรและมีมารยาทมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ท่านลุกมานยังสอนไม่ให้ใช้เสียงดังมากเมื่อพูดคุย ให้ใช้เสียงระดับพอที่คนอื่นได้ยิน เพราะเสียงที่น่าเกลียดที่สุดคือเสียงลา 
 
ลาเป็นตัวอย่างแห่งความโง่เขลา แต่ก็บริสุทธิ์และไม่ทำอันตรายแก่เจ้าของเลย ท่านลุกมานบอกว่าอย่าให้เสียงดังเหมือนลาเพราะเป็นเสียงที่น่าเกลียดสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา ท่านนบี บอกว่า 
 
إِذَا سَمِعْتُمْ صِيَاحَ الدِّيَكَةِ فَاسْأَلُوا اللهَ مِنْ فَضْلِـهِ فَإِنَّهَا رَأَتْ مَلَكَاً ،  وَإِذَا سَمِعْتُمْ نَهِيْقَ الحِمَارِ فَتَعَوَّذُوْا بِاللهِ مِنَ الشَّيْطَانِ فِإِنَّهَا رَأَتْ شَيْطَانَاً
ความว่า “เมื่อได้ยินเสียงไก่ขัน ก็จงขอความโปรดปรานต่ออัลลอฮฺ เพราะมันเห็นมลาอิกะฮฺ เมื่อได้ยินเสียงลา ก็จงขอความคุ้มครองจากชัยฏอนมารร้าย เพราะลามันเห็นชัยฏอน” 

ที่มา : หนังสือ โอ้ลูกเอ๋ย(ยาบุนัยยฺ), เชคริฎอ อะหมัด สมะดี