2. การกล่าวศ่อละวาตหรือประสาทพรแก่ท่านนบี
อัลลอฮฺตะอาลาได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 56 ว่า
إِنَّ اللَّهَ وَمَلَائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيماً
ความว่า "แท้จริงอัลลอฮฺและมะลาอิกะฮฺของพระองค์ประสาทพรแก่นบี โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! พวกเจ้าจงประสาทพรให้แก่เขา และกล่าวทักทายเขาโดยคารวะ" (33:56)
อัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า การประสาทพรจากอัลลอฮฺแก่นบี หมายถึง ความเมตตาและความโปรดปรานของพระองค์ จากมะลาอิกะฮฺ หมายถึง การขอพรและขออภัยโทษให้แก่ท่าน จากประชาชาติ หมายถึง การขอพรและการยกย่องให้เกียรติแก่ท่าน คือทุกครั้งที่มีการกล่าวชื่อของท่าน พวกท่านก็จงกล่าวคำว่า ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ()
อัลอะหะดีษมากมายได้กล่าวถึงความประเสริฐและคุณประโยชน์ของการกล่าวศ่อละวาตหรือประสาทพรให้แก่ท่านนบี ซึ่งจะขอนำมากล่าวไว้เป็นศิริมงคลคือ
2.1 มีรายงานจากอะบีฏ้อลหะฮฺ กล่าวว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้ออกไปหาพวกเขา (ศ่อฮาบะฮฺ) วันหนึ่ง พวกเขาตระหนักดีถึงความดีใจจากใบหน้าของท่าน แล้วพวกเขาได้กล่าวขึ้นว่า “แท้จริงขณะนี้พวกเราตระหนักดีถึงความดีใจจากใบหน้าของท่าน โอ้ท่านร่อซูลของอัลลอฮฺ!” ท่านร่อซูลได้ตอบว่า "ถูกต้อง เมื่อสักครู่นี้ได้มีทูตจากพระเจ้าของฉันมาหาฉัน แล้วได้บอกแก่ฉันว่า ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดจากประชาชาติของฉันได้กล่าวศ่อละวาตให้แก่ฉัน เว้นแต่อัลลอฮฺจะตอบรับมันให้แก่เขาถึงสิบเท่า"
2.2 มีรายงานจากอะบีบักร แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "พวกท่านจงกล่าวศ่อละวาตมาก ๆ ให้แก่ฉัน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺทรงแต่งตั้งมะลักท่านหนึ่งเป็นตัวแทน ให้ทำหน้าที่แทนฉันที่กุบูรของฉัน เมื่อผู้ใดจากประชาชาติของฉันกล่าวศ่อละวาตแก่ฉัน มะลักท่านนั้นจะกล่าวแก่ฉันว่า โอ้มุฮัมมัด ขณะนี้คนนั้นบุตรคนนี้ได้กล่าวศ่อลาวาตแก่ท่าน"
2.3 มีรายงานจากอนัส แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "จงกล่าวศ่อลาวาตมาก ๆ ให้แก่ฉันในวันศุกร์และคืนวันศุกร์ เพราะผู้ใดกล่าวศ่อลาวาตแก่ฉันหนึ่งครั้ง อัลลอฮฺจะทรงยกโทษให้แก่เขาสิบเท่า"
2.4 حدثنا عبد الملك بن عمرو وأبو سعيد قالا حدثنا سليمان بن بلال عن عمارة بن غزية عن عبد الله بن علي بن حسين عن أبيه علي بن حسين عن أبيه أن النبي صلى الله عليه وسلم قال : البخيل من ذكرت عنده ثم لم يصل علي صلى الله عليه وسلم .
มีรายงานจากอะลี อิบน ฮุซัยนฺ จากบิดาของเขา แจ้งว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "แท้จริง ผู้ตระหนี่นั้นคือ ผู้ที่(ชื่อของ)ฉัน ได้ถูกกล่าวต่อหน้าเขา แล้วเขามิได้กล่าวศ่อลาวาตให้แก่ฉัน"
ที่มา : คู่มือซิกรุลลอฮฺและดุอาอฺประจำวัน, อาจารย์อะหมัด สมะดี ร่อหิมะฮุลลอฮฺ
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 533 views