เศาะฮี้ฮฺอัลบุคอรียฺ 10 (กิตาบุลอีมาน 6,บาบ 15-18)

Submitted by admin on Sat, 30/09/2017 - 22:09
หัวข้อเรื่อง
บาบ 15-18, หะดีษ 24-27;
15- ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของอีมาน, อัลลอฮฺใช้ฉันให้ต่อสู้ผู้คนทั้งหลายจนกระทั่งเขากล่าวชะฮาดะฮฺ, อีมานนั้นคือการงาน
16- (ผู้ปฏิเสธที่เป็นเชลยศึก) ถ้าพวกเขาสำนึกผิดกลับตัว...
หะดีษ 25 - อัลลอฮฺใช้ฉันให้ต่อสู้ผู้คนทั้งหลาย...
17- ใครเล่าที่กล่าวว่า อีมานนั้นคือการงาน (คืออัลลอฮฺและร่อซูล)
หะดีษ 26 การงานที่ประเสริฐ.
18- ถ้าคนที่รับอิสลาม ไม่ได้รับอย่างแท้จริง แต่รับอิสลามเพราะยอมแพ้หรือกลัวจะถูกฆ่า
สถานที่
มุศ็อลลา White Space
วันที่บรรยาย
9 มุฮัรรอม 1438
วันที่บรรยาย
วันที่อัพ
ขนาดไฟล์
74.00 mb
ความยาว
64.00 นาที
มีวีดีโอ
มี
รายละเอียด

 بَابٌ: الحَيَاءُ مِنَ الإِيمَانِ
15- ความละอายเป็นส่วนหนึ่งของอีมาน
ความละอาย(อัลหะยาอุ) - คือมารยาทที่ทำให้เจ้าของมารยาททำในสิ่งที่ชอบธรรม และละเว้นในสิ่งที่มิชอบธรรม

หะดีษ 24 - حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ يُوسُفَ، قَالَ: أَخْبَرَنَا مَالِكُ بْنُ أَنَسٍ، عَنِ ابْنِ شِهَابٍ، عَنْ سَالِمِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ، عَنْ أَبِيهِ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَرَّ عَلَى رَجُلٍ مِنَ الأَنْصَارِ، وَهُوَ يَعِظُ أَخَاهُ فِي الحَيَاءِ، فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «دَعْهُ فَإِنَّ الحَيَاءَ مِنَ الإِيمَانِ»
ท่านนบีได้เดินผ่านชาวอันศอรคนหนึ่ง เขามีน้องชายคนหนึ่งมีความขี้อาย พี่ชายเขาก็ตำหนิในเรื่องความละอาย
ท่านนบีบอกว่า "ปล่อยเขา(อย่าไปตำหนิเขา) แท้จริงความละอายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอีมาน"

----------
بَابٌ: {فَإِنْ تَابُوا وَأَقَامُوا الصَّلاَةَ وَآتَوُا الزَّكَاةَ فَخَلُّوا سَبِيلَهُمْ} [التوبة: 5]
16- (ผู้ปฏิเสธที่เป็นเชลยศึก) ถ้าพวกเขาสำนึกผิดกลับตัว และดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และชำระซะกาตแล้วไซร้ ก็จงปล่อยพวกเขาไป (เพราะถือว่าเป็นผู้ศรัทธาแล้ว)
(แสดงว่า เตาบัต ละหมาด ซะกาต เป็นอีมาน)

หะดีษ 25 - حَدَّثَنَا عَبْدُ اللَّهِ بْنُ مُحَمَّدٍ المُسْنَدِيُّ، قَالَ: حَدَّثَنَا أَبُو رَوْحٍ الحَرَمِيُّ بْنُ عُمَارَةَ، قَالَ: حَدَّثَنَا شُعْبَةُ، عَنْ وَاقِدِ بْنِ مُحَمَّدٍ، قَالَ: سَمِعْتُ أَبِي يُحَدِّثُ، عَنِ ابْنِ عُمَرَ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ: «أُمِرْتُ أَنْ أُقَاتِلَ النَّاسَ حَتَّى يَشْهَدُوا أَنْ لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ، وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ، وَيُقِيمُوا الصَّلاَةَ، وَيُؤْتُوا الزَّكَاةَ، فَإِذَا فَعَلُوا ذَلِكَ عَصَمُوا مِنِّي دِمَاءَهُمْ وَأَمْوَالَهُمْ إِلَّا بِحَقِّ الإِسْلاَمِ، وَحِسَابُهُمْ عَلَى اللَّهِ»
ท่านนบีกล่าวว่า อัลลอฮฺใช้ฉันให้ต่อสู้ผู้คนทั้งหลายจนกระทั่งเขากล่าวชะฮาดะฮฺ และดำรงละหมาด, บริจาคซะกาต หากเขาได้ปฏิบัติเช่นนี้แล้ว เขาจะคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของเขา เว้นแต่อิสลามเรียกร้องสิทธิหนึ่งสิทธิใดในชีวิตหรือทรัพย์สิน และการลงโทษหรือตอบเทนของเขาขึ้นอยู่ที่อัลลอฮฺเท่านั้น

(อุกอติล - ต่อสู้ (ไม่ใช่ฆ่า))
- ท่านนบีทำอย่างนั้นจริงหรือไม่ ? หะดีษอื่นที่นบีให้แม่ทัพไปสู้รบ นบีให้เสนอ 3 อย่างคือ จ่ายญิซยะฮฺ, รับอิสลาม, ถ้าไม่รับก็ต่อสู้กัน(กับผู้ปกครอง ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป)
ต้องตีความหะดีษนี้ตามชีวประวัติของท่านนบีและตามคำสั่งสอนของท่านแก่บรรดาเศาะฮาบะฮฺ
แต่อีกความหมายหนึ่งที่ตีความได้คือ ฉันถูกใช้ให้"ต่อสู้"กับผู้คน...., "ต่อสู้" ตรงนี้แปลได้ว่า ดิ้นรน
- หะดีษนี้ทำให้บางกลุ่มทีตีความผิด คลาดเคลื่อนในการปฏิบัติ

-----------
بَابُ مَنْ قَالَ إِنَّ الإِيمَانَ هُوَ العَمَلُ
17- ใครเล่าที่กล่าวว่า อีมานนั้นคือการงาน (คืออัลลอฮฺและร่อซูล)

เพราะอัลลอฮฺตรัสว่า
لِقَوْلِ اللَّهِ تَعَالَى: {وَتِلْكَ الجَنَّةُ الَّتِي أُورِثْتُمُوهَا بِمَا كُنْتُمْ تَعْمَلُونَ} [الزخرف: 72]
43:72 และนั่นคือสวนสวรรค์ ซึ่งพวกเจ้าได้ถูกให้รับเป็นมรดกตามที่พวกเจ้าได้กระทำ (ความดี) ไว้

وَقَالَ عِدَّةٌ مِنْ أَهْلِ العِلْمِ فِي قَوْلِهِ تَعَالَى: {فَوَرَبِّكَ لَنَسْأَلَنَّهُمْ أَجْمَعِينَ عَمَّا كَانُوا يَعْمَلُونَ} [الحجر: 93]
15:92-93 สาบานด้วยพระเจ้าของเจ้าแน่นอนเราจะถามพวกเขาทั้งหมด ถึงที่พวกเขาได้กระทำไว้

 عَنْ قَوْلِ: لاَ إِلَهَ إِلَّا اللَّهُ، وَقَالَ: {لِمِثْلِ هَذَا فَلْيَعْمَلِ العَامِلُونَ} [الصافات: 61]
37:61 เพื่อเยี่ยง (การตอบแทน) นี้ บรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนจงต่อสู้ต่อไปเถิด

หะดีษ 26 - حَدَّثَنَا أَحْمَدُ بْنُ يُونُسَ، وَمُوسَى بْنُ إِسْمَاعِيلَ، قَالاَ: حَدَّثَنَا إِبْرَاهِيمُ بْنُ سَعْدٍ، قَالَ: حَدَّثَنَا ابْنُ شِهَابٍ، عَنْ سَعِيدِ بْنِ المُسَيِّبِ،
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ سُئِلَ: أَيُّ العَمَلِ أَفْضَلُ؟ فَقَالَ: «إِيمَانٌ بِاللَّهِ وَرَسُولِهِ». قِيلَ: ثُمَّ مَاذَا؟ قَالَ: «الجِهَادُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ» قِيلَ: ثُمَّ مَاذَا؟ قَالَ: «حَجٌّ مَبْرُورٌ»
ท่านนบีถูกถามว่า การงานใดที่ประเสริฐ ? ท่านนบีตอบว่า การงานที่ประเสริฐคือ ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและร่อซูล (แสดงว่า ศรัทธาคือการงาน)
มีผู้ถามว่า "แล้วอะไรอีกครับ" ท่านนบีตอบว่า "การญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ"
มีผู้ถามว่า "แล้วอะไรอีกครับ" ท่านนบีตอบว่า "ฮัจญฺมับรูร(การประกอบพิธีฮัจญฺที่บริสุทธิ์)"

----------

بَابُ إِذَا لَمْ يَكُنِ الإِسْلاَمُ عَلَى الحَقِيقَةِ، وَكَانَ عَلَى الِاسْتِسْلاَمِ أَوِ الخَوْفِ مِنَ القَتْلِ
18- ถ้าคนที่รับอิสลาม ไม่ได้รับอย่างแท้จริง แต่รับอิสลามเพราะยอมแพ้หรือกลัวจะถูกฆ่า
ก็เรียกว่ามุสลิม แต่ไม่เรียกว่ามุอฺมิน(ผู้ศรัทธา) ในสมัยท่านนบีก็มี

لِقَوْلِهِ تَعَالَى: {قَالَتِ الأَعْرَابُ آمَنَّا قُلْ لَمْ تُؤْمِنُوا وَلَكِنْ قُولُوا أَسْلَمْنَا} [الحجرات: 14]
فَإِذَا كَانَ عَلَى الحَقِيقَةِ، فَهُوَ عَلَى قَوْلِهِ جَلَّ ذِكْرُهُ: {إِنَّ الدِّينَ عِنْدَ اللَّهِ الإِسْلاَمُ} [آل عمران: 19]
[وَمَنْ يَبْتَغِ غَيْرَ الْإِسْلَامِ دِينًا فَلَنْ يُقْبَلَ مِنْهُ]

หะดีษ 27 - حَدَّثَنَا أَبُو اليَمَانِ، قَالَ: أَخْبَرَنَا شُعَيْبٌ، عَنِ الزُّهْرِيِّ، قَالَ: أَخْبَرَنِي عَامِرُ بْنُ سَعْدِ بْنِ أَبِي وَقَّاصٍ، عَنْ سَعْدٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَعْطَى رَهْطًا وَسَعْدٌ جَالِسٌ، فَتَرَكَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ رَجُلًا هُوَ أَعْجَبُهُمْ إِلَيَّ، فَقُلْتُ: يَا رَسُولَ اللَّهِ مَا لَكَ عَنْ فُلاَنٍ فَوَاللَّهِ إِنِّي لَأَرَاهُ مُؤْمِنًا، فَقَالَ: «أَوْ مُسْلِمًا» فَسَكَتُّ قَلِيلًا، ثُمَّ غَلَبَنِي مَا أَعْلَمُ مِنْهُ، فَعُدْتُ لِمَقَالَتِي، فَقُلْتُ: مَا لَكَ عَنْ فُلاَنٍ؟ فَوَاللَّهِ إِنِّي لَأَرَاهُ مُؤْمِنًا، فَقَالَ: «أَوْ مُسْلِمًا». ثُمَّ غَلَبَنِي مَا أَعْلَمُ مِنْهُ فَعُدْتُ لِمَقَالَتِي، وَعَادَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، ثُمَّ قَالَ: «يَا سَعْدُ إِنِّي لَأُعْطِي الرَّجُلَ، وَغَيْرُهُ أَحَبُّ إِلَيَّ مِنْهُ، خَشْيَةَ أَنْ يَكُبَّهُ اللَّهُ فِي النَّارِ» وَرَوَاهُ يُونُسُ، وَصَالِحٌ، وَمَعْمَرٌ، وَابْنُ أَخِي الزُّهْرِيِّ، عَنِ الزُّهْرِيِّ

ท่านนบีให้ฮะดียะฮฺคนกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่ให้คนหนึ่ง ซึ่งซะอดฺมองว่าน่าจะเป็นคนที่ดีกว่าคนอื่น...

 

WCimage
เศาะฮี้ฮฺอัลบุคอรียฺ 10 (กิตาบุลอีมาน 6,บาบ 15-18)