ตัฟซีรซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ 14 (อายะฮฺ 19-22) | 6/12/65

สมัยท่านนบีแบ่งกุรอานเป็น 4 กลุ่ม

قال رسول الله ﷺ : «أعطيتُ مكان التوراة السبعَ، وأعطيتُ مكان الزبور المِئِين، وأعطيتُ مكان الإنجيل المثاني، وفضِّلت بالمفصَّل»

อัฏฏิวาล (7 ซูเราะฮฺยาว) บะเกาะเราะฮฺ(002)-อัตเตาบะฮฺ(009)
อัลมิอีน (มากกว่า 100 อายะฮฺ) ยูนุส(10)-อัชชุอะรออฺ(26)
อัลมะซานี (น้อยกว่า 100 อายะฮฺ) อันนัมลฺ(27)-หุจุร้อต(49)
อัลมุฟัศศอล (ซูเราะฮฺตอนท้าย) กอฟ(50)-อันนาส(114)
-- ฏิวาลุลมุฟัศศ็อล (กอฟ-อันนะบะอฺ)
-- อะวาศิฏุลมุฟัศศ็อล (อันนะบะอฺ-อัฎฎุฮา)
-- กิศ็อรุลมุฟัศศ็อล (อัฎฎุฮา-อันนาส)

เศาะฮาบะฮฺแบ่งอัลกุรอานเป็น 7 กลุ่ม เพราะจะค่อตั่มกุรอานทุก 7 วัน
1- 3 ซูเราะฮฺแรก บะเกาะเราะฮฺ (002) - อันนิซาอฺ (004)
2- 5 ซูเราะฮฺถัดไป (005-009)
3- 7 ซูเราะฮฺถัดไป (010-016)
4- 9 ซูเราะฮฺถัดไป (017-025)
5- 11 ซูเราะฮฺถัดไป (026-036)
6- 13 ซูเราะฮฺถัดไป (037-049)
7- อัลมุฟัศศ็อล (050-114)

การแบ่งกุรอาน 30 ญุซอฺ เริ่มในสมัยอัลฮัจจาจ อิบนุยูซุฟ อัษษะกอฟี (เป็นผู้ว่าอิรัก เป็นผู้อธรรมและร้ายมากในยุคนั้น ฆ่าลุกหลานศ่อฮาบะฮฺและตาบิอีนนับหมื่นคน แต่ได้สนับสนุนกุรอานในหลายเรื่อง เช่น ใส่หมายเลขอายะฮฺ
-1 ญุซอฺ(ส่วน) แบ่งเป็น 2 ฮิซบฺ(กลุ่ม) = 4 รุบอฺ(หนึ่งในสี่)
- แบ่งโดยนับอักษรทั้งหมดในกุรอาน ครึ่งนึงของกุรอานอยู่ที่ وليتلطف (ในอัลกะฮฟฺ) แล้วแบ่งครึ่งไปเรื่อยๆ จนได้ 30 ญุซอฺ 

อิบนุตัยมียะฮฺบอกว่า ข้อเสียของการแบ่ง 30 ญุซอฺ คือไม่คำนึงถึงการต่อเนื่องของความหมาย
แต่การแบ่งของนบีและศ่อฮาบะฮฺไม่ตัดความหมาย และสอดคล้องกับหะดีษของท่านนบี

9:19 พวกเจ้าได้ถือเอาการให้น้ำดื่ม แก่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ และการบูรณะมัสยิดอัลหะรอม ดั่งผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลก และต่อสู้ในทางของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ เขาเหล่านั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน ณ ที่อัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงแนะนำกลุ่มชนที่เป็นผู้อธรรม

"พวกเจ้าได้ถือเอาการให้น้ำดื่ม... ดั่งผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ...กระนั้นหรือ ? "
- อิสติฟฮามอิงการี - คำถามปฏิเสธ 
- ทำดีโดยปราศจากความศรัทธาเสมือนว่างเปล่า ไม่มีค่า
- สวรรค์มีหลายชั้น คนที่ทำดีก็มีระดับแตกต่างกัน เฉพาะมุจาฮิดีนมี 100 ระดับ
- การลบหลู่อิสลาม
- การต่อสู้เพื่อปกป้องอิสลามของบรรดาศ่อฮาบะฮฺ เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด
- เราทำอะไรบ้างเพื่อให้คนไม่เข้าใจศาสนาคลาดเคลื่อน ??
- ข้าราชการมุสลิมคุกเข่าต่อหน้าพระ (ผิดหลักการศาสนา แต่ไม่ควรให้เขาเป็นแพะรับบาปของสังคม สังคมมุสลิมก็มีส่วนรับผิดชอบที่ข้าราชการระดับนี้ไม่รู้ว่าผิดหลักการศาสนา...

"9:19 เขาเหล่านั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน ณ ที่อัลลอฮฺ"
- ชิรกฺ เป็นการอธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขอดุอาอฺให้เราพ้นจากสิ่งเหล่านี้
ลุกมานสอนลุกว่า การตั้งภาคีเป็นการอธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  إِنَّ الشِّرْكَ لَظُلْمٌ عَظِيمٌ 
31:13 การตั้งภาคีนั้นเป็นการอธรรม(ซุลมฺ)อย่างมหันต์

อิบนุอุมัรเคยขอดุอาอฺว่า "โอ้อัลลอฮฺ ขอความคุ้มครองจากการซุลมฺและการกุฟรฺของฉัน" มีผู้ถามว่า เรามีซุลมฺด้วยหรือ ?" อิบนุอุมัรตอบว่า "มีสิ เพราะอัลลอฮฺบอกว่า 
إِنَّ الْإِنسَانَ لَظَلُومٌ كَفَّارٌ -- 14:34 แท้จริงมนุษย์นั้นอธรรมยิ่ง เนรคุณยิ่ง

- คุณภาพของการงานมีความสำคัญ 
-- เศาะดะเกาะฮฺที่ประเสริฐคือ คนที่มีน้อย แต่ก็ยังบริจาค ดีกว่าคนมีมาก แต่แบ่งมาบริจาคเล็กน้อย
เราต้องศึกษาการทำงานความดีที่มีคุณภาพจากแบบอย่างของเศาะฮาบะฮฺ

ศิลปะการทำความดีของท่านนบีและเศาะฮาบะฮฺ
- การบริจาค
ท่านนบีบอกว่า "มือบน(ผู้ให้)ประเสริฐกว่ามือล่าง(ผู้รับเศาะดะเกาะฮฺ)"
ศ่อฮาบะฮฺบางท่าน เวลาบริจาคจากหงายมือให้คนมาหยิบ เพื่อให้ผู้รับบริจาคเป็นมือบน ด้วยความถ่อมตน
- การถือศีลอด - อับดุลลอฮฺอิบนุมัสอู๊ด ถือศีลอดโดยไม่ให้ครอบครัวและคนรอบข้างรู้
- การละหมาดกลางคืน

الَّذِينَ آمَنُوا وَهَاجَرُوا وَجَاهَدُوا فِي سَبِيلِ اللَّهِ بِأَمْوَالِهِمْ وَأَنْفُسِهِمْ أَعْظَمُ دَرَجَةً عِنْدَ اللَّهِ ۚ وَأُولَٰئِكَ هُمُ الْفَائِزُونَ  

9:20 บรรดาผู้ที่ศรัทธา และอพยพและต่อสู้ในทางของอัลลอฮฺทั้งด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขา และชีวิตของพวกเขานั้นย่อมเป็นผู้มีระดับชั้นยิ่งใหญ่กว่า ณ ที่อัลลอฮฺ และชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้มีชัยชนะ

ความประเสริฐของการฮิจเราะฮฺ(อพยพ)
- ฮิจเราะฮฺ(การอพยพ) เป็นความแตกต่างระหว่างมุสลิมกับมุชริก และเป็นจุดเริ่มต้นของอิสลามอันประเสริฐยิ่ง 
ชาวมักกะฮฺที่ฮิจเราะฮฺ ประเสริฐกว่าผู้ที่ไม่ได้ฮิจเราะฮฺ
เนื้อหาสำคัญของ "ฮิจเราะฮฺ" คือการละทิ้งสิ่งที่อัลลอฮฺไม่ชอบ (แม้เราจะคุ้นเคย เป็นเรื่องยาก)
คนที่เตาบัตตัวจากสิ่งไม่ดี ก็เป็นการฮิจเราะฮฺ

يُبَشِّرُهُمْ رَبُّهُمْ بِرَحْمَةٍ مِنْهُ وَرِضْوَانٍ وَجَنَّاتٍ لَهُمْ فِيهَا نَعِيمٌ مُقِيمٌ  

9:21 พระเจ้าของพวกเขาทรงแจ้งข่าวดีแก่พวกเขาด้วยความกรุณาเมตตาจากพระองค์ และด้วยความปีติยินดี และบรรดาสวนสวรรค์ด้วย ซึ่งในสวนสวรรค์เหล่านั้น พวกเขาจะได้รับสิ่งอำนวยความสุขอันจีรังยั่งยืน

خَالِدِينَ فِيهَا أَبَدًا ۚ إِنَّ اللَّهَ عِنْدَهُ أَجْرٌ عَظِيمٌ  

9:22 โดยที่พวกเขาจะพำนักอยู่ในสวนสวรรค์เหล่านั้นตลอดกาล แท้จริงอัลลอฮฺนั้น ณ ที่พระองค์มีรางวัลอันยิ่งใหญ่