ช่วงนี้จะเห็นได้นะครับว่าโรคต่างๆ โดยเฉพาะไข้หวัด ไข้เลือดออก หรือแม้กระทั่งการป่วยลักษณะต่างๆ ที่ปรากฏในสังคมมากมาย คนนั้นไม่สบาย คนนั้นเข้าโรงพยาบาล ซึ่งเป็นลักษณะที่แสดงให้เห็นว่ามุสลิมหรือมุอ์มินที่จะประสบกับมุศีบะฮฺโดยเฉพาะการป่วยนั้น เป็นลักษณะปกติที่เราจะต้องทำใจให้ได้ โดยที่จะให้การมีปัญหาเช่นนี้เป็นการดีสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา การที่เรามีความอดทน (เศาะบัร) ต่อมุศีบะฮฺที่เราประสบในชีวิตของเรานั่นคืออีหม่าน การมีความศรัทธา ซึ่งผู้ศรัทธานั้นจะให้มุศีบะฮฺหรือการทดสอบต่างๆ ที่ประสบนั้นเป็นผลบุญ เป็นกำไรสำหรับเขาดังที่อัลกุรอานและสุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้บ่งบอกถึงผลบุญอันมหาศาลของบรรดาผู้ศรัทธาที่อดทนต่อมุศีบะฮฺหรือต่อการทดสอบต่างๆ
อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
﴿ وَلَمَن صَبَرَ وَغَفَرَ إِنَّ ذَٰلِكَ لَمِنۡ عَزۡمِ ٱلۡأُمُورِ ٤٣ ﴾ [الشورى: ٤٣]
ความว่า “แท้จริงนั้นบุคคลที่อดทนและให้อภัย นั่นเป็นลักษณะที่หนักแน่นมั่นคงสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา” (อัชชูรอ : 43)
และอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
﴿ وَلَنَبۡلُوَنَّكُمۡ حَتَّىٰ نَعۡلَمَ ٱلۡمُجَٰهِدِينَ مِنكُمۡ وَٱلصَّٰبِرِينَ ... ٣١ ﴾ [محمد : ٣١]
ความว่า “และเราจะทดสอบพวกเจ้าทั้งหลายเพื่อจะได้รู้ถึงผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของเรา และผู้ที่มีความอดทน” (มุฮัมมัด : 31)
และอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
﴿ وَلَنَبۡلُوَنَّكُم بِشَيۡءٖ مِّنَ ٱلۡخَوۡفِ وَٱلۡجُوعِ وَنَقۡصٖ مِّنَ ٱلۡأَمۡوَٰلِ وَٱلۡأَنفُسِ وَٱلثَّمَرَٰتِۗ وَبَشِّرِ ٱلصَّٰبِرِينَ ١٥٥ ﴾ [البقرة: ١٥٥]
ความว่า “และเราจะทดสอบพวกเจ้าทั้งหลายด้วยความกลัว การหิวกระหาย ความบกพร่องในด้านทรัพย์สินและชีวิตและพืชผลต่างๆ และจงแจ้งข่าวดีสำหรับผู้ที่อดทน” (อัลบะเกาะเราะฮฺ : 155)
การที่มุอ์มินจะประสบกับปัญหานั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่การที่มุอ์มินนั้นสามารถทำใจได้และกระทำสิ่งที่ไม่ขัดกับหลักการศาสนา นั่นคือกำไรใหญ่หลวงที่มุอ์มินจะได้ในชีวิตของเขา
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้บอกไว้ว่า
((إن عظم الجزاء مع عظم البلاء وإن الله تعالى إذا أحب قوما ابتلاهم فمن رضي وله الرضا ومن سخط فله السخط)) رواه الترمذي وقال حديث حسن
ความว่า “ผลบุญอันใหญ่หลวงนั้นขึ้นอยู่กับการทดสอบอันใหญ่หลวง (การทดสอบยิ่งรุนแรง ผลบุญก็ยิ่งเพิ่มขึ้น) และแท้จริงนั้นหากว่าอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงรักบุคคลใดพระองค์ก็จะทรงทดสอบพวกเขา และบุคคลที่มีความพอใจเขาก็จะได้รับความพอใจ ส่วนคนที่จะไม่สบายใจหรือแสดงความไม่พอใจต่อการทดสอบนั้น เขาก็จะได้รับความไม่สบายใจ” (บันทึกโดยอัตติรมิซี โดยท่านกล่าวว่าเป็นหะดีษหะสัน)
พี่น้องครับ ผมพูดว่าการที่เราต้องทำใจนั้นหมายถึงเราต้องปรับความรู้สึกของเราต่อการทดสอบต่างๆ เราได้เห็นที่ป่วยหรือประสบกับมุศีบะฮฺ อาจจะพูดหรือแสดงพฤติกรรมที่มันค้านกับศาสนาอิสลาม แต่ถ้าหากว่าเราศึกษาหลักการของศาสนาอิสลามเราก็จะพบว่ามุศีบะฮฺทุกชนิดเป็นกำไรมหาศาลสำหรับเรา เป็นกำไรสำหรับผู้ที่อยากจะชำระความผิดของเขา อยากได้รับการอภัยโทษและความเมตตาจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
رواه البخاري ((من يرد الله يه خيرا يصب منه))
ความว่า “ใครก็ตามที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ปรารถนาให้เขาได้รับความดีงามหรือกำไรในชีวิต พระองค์ก็จะทดสอบเขา” (บันทึกโดยอัลบุคอรี)
หมายความว่าคนที่มีมุศีบะฮฺหรือการทดสอบในชีวิตนั้น คือผู้ที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงโปรดเขา การที่เรามีมุศีบะฮฺถึงแม้ว่าจะเป็นการลงโทษ (บะลาอ์) แต่มันก็จะยังเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายว่าเรากำลังชำระความผิด กำลังถูกทดสอบเพื่อทำความสะอาด ลบล้างความผิดต่างๆ ที่มีอยู่ในชีวิตของเรา
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า
((ما يصيب المسلم من نصب ولا وصب ولا هم ولا جزن ولا أذى ولا غم حتى الشوكة يصيبها إلا كفر الله بها خطاياه)) رواه البخاري ومسلم
ความว่า “มุสลิมนั้นจะไม่ประสบกับความยากลำบาก ความเจ็บป่วย ความเศร้าโศก เสียใจ ความทรมาน ปัญหาต่างๆ หรือความไม่สบายใจที่จะประสบ แม้กระทั่งหนามที่อาจจะตำขณะที่เขาเดินทางนั้น ทั้งหมดนี้จะเป็นการทดสอบหรือลบล้างความผิดต่างๆ เป็นการชำระ ให้อภัยโทษจากความผิดต่างๆ ที่เราได้เคยกระทำในอดีต” (บันทึกโดยอัลบุคอรีและมุสลิม)
นั่นเป็นกำไรมหาศาลสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาและเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องระลึกอยู่เสมอ คนที่ประสบกับมุศีบะฮฺ หากเขารู้ถึงกำไรที่เขาจะได้ ผลบุญมหาศาลที่จะรับจากพระองค์อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เขาก็คงจะไม่บ่นให้คนนั้นคนนี้ฟัง ไม่แสดงอาการไม่สบายใจ ไม่พอใจต่อการทดสอบที่มีอยู่ แต่มุอ์มินนั้นจะกล่าว “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” สรรเสริญอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา อยู่เสมอเพราะเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
﴿... إِنَّا لِلَّهِ وَإِنَّآ إِلَيۡهِ رَٰجِعُونَ ١٥٦ ﴾ [البقرة: ١٥٦]
ความว่า “... แท้จริงเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา และแท้จริงเราจะต้องกลับไปสู่พระองค์” (อัลบะเกาะเราะฮฺ : 156)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แนะนำให้กล่าวประโยคนี้แม้จะเป็นการทดสอบในระดับที่เล็กน้อย เช่น รองเท้าขาด เสื้อขาด กระดุมหลุด ท่านนบีก็ให้เรากล่าวประโยคนี้ หลายคนอาจจะมองไม่ออกว่ารองเท้าขาดจะเป็นมุศีบะฮฺได้อย่างไร แต่จริงๆ แล้วมันถือเป็นความยากลำบากชนิดหนึ่ง เราประสบอะไรเช่นนี้เราก็กล่าว “อินนาลิลลาฮิวะอินนาอิลัยฮิรอญิอูน” แก้วแตก จานแตก สิ่งของในบ้านหัก รถเสียก็กล่าวประโยคนี้ เป็นคำที่จะแสดงถึงอีหม่านที่มั่นคงที่เราพอใจเมื่อประสบมุศีบะฮฺ นี่เป็นลักษณะของคนที่สามารถปรับความรู้สึกของเขาได้เมื่อประสบกับมุศีบะฮฺต่างๆ และบุคคลเหล่านี้คือบุคคลที่จะรับผลบุญเมื่อประสบกับมุศีบะฮฺทุกครั้ง
แต่สำหรับคนที่แสดงความไม่พอใจ ไม่ทันที่จะปรับความรู้สึกของเขาเมื่อประสบมุศีบะฮฺ การแสดงความไม่พอใจก็คือการที่จะแสดงว่ามุศีบะฮฺนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะประสบกับชีวิตของเขา แสดงอาการของคนที่ไร้อีหม่านต่ออัลเกาะฎออ์และอัลเกาะดัรหรือกฎสภาวะที่อัลลอฮฺทรงกำหนดไว้
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลายครับ เรื่องแบบนี้เราต้องพูด ต้องเน้นย้ำเพื่อให้บรรดาผู้ศรัทธาที่อยากจะสร้างอีหม่านที่มั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกดุนยานี้ที่เราเห็นปัญหาหลายชนิด ระดับประชาชาติเช่นที่ประชาชาติอิสลามกำลังประสบอยู่ขณะนี้ ถูกข่มเหง ถูกอธรรม เราก็ต้องมีความอดทน มีมานะ มีความตั้งใจในการต่อสู้ ระดับสังคม ปัญหาหรือมุศีบะฮฺต่างๆ ที่สังคมกำลังประสบทุกชนิด เราก็ต้องมีความอดทน มีมานะ มีความตั้งใจในการที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยที่มีความเข้าใจและมั่นใจว่าสิ่งต่างๆ ที่เราเห็นในดุนยานี้เป็นการกำหนดของอัลลอฮฺเพื่อทดสอบว่าใครเป็นมุอ์มิน ใครมีอีหม่านที่มั่นคงกว่า
พี่น้องครับเราอาจจะเห็นว่าอีหม่านของเราไม่มีบทบาท เว้นแต่ที่จะปรากฏในการละหมาด การถือศีลอด การอ่านอัลกุรอาน แต่แท้จริงบทบาทของอีหม่านของเรานั้นจะประสบในทุกวินาที ทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์แห่งความยากลำบากที่มุอ์มินจะประสบ
จะรู้ได้อย่างไรว่ามุอ์มินนั้นมีอีหม่านที่มั่นคง มีศรัทธาที่หนักแน่น เมื่อเห็นเขาประสบกับมุศีบะฮฺเขาจะมีความหนักแน่น เขาจะมีความมั่นคง ไม่บ่น ไม่แสดงความไม่พอใจ นี่คือสิ่งที่เราต้องฝึกในชีวิตของเรา ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้แจ้งถึงผลบุญมหาศาลสำหรับผู้ที่อดทน
((إن الله عز وجل قال : إذا ابتليت عبدي بحبيبتيه فصبرعودته منهما الجنة)) رواه البخاري
ความว่า “อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล ตรัสว่า หากว่าฉันได้ทดสอบบ่าวของฉันด้วยการยึดดวงตาทั้งสองของเขา (ทำให้เขาตาบอด) จากนั้นเขาก็อดทนต่อการทดสอบนั้น จะไม่มีการตอบแทนใดสำหรับเขานอกจากสวรรค์” (บันทึกโดยอัลบุคอรี)
การจะได้เข้าสวรรค์นั้นจำเป็นจะต้องมีความอดทนแม้กระทั่งการที่เราประสบการเสียชีวิตของเพื่อนฝูง เครือญาติ หรือแม้แต่คนรักของเรา แล้วเราอดทน ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แจ้งว่าอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา บอกว่า “สำหรับบ่าวของฉันที่เป็นมุอ์มิน หากฉันได้ให้บุคคลที่เขารักเสียชีวิตแล้วเขาก็อดทนและมีการรำลึกถึงผลบุญที่เขาจะได้รับจากอัลลอฮฺ ก็จะไม่มีการตอบแทนใดๆ สำหรับเขานอกจากสวนสวรรค์เท่านั้น”
การเข้าสวนสวรรค์นั้นเป็นการตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับบรรดาผู้ที่มีความอดทน นี่คือสิ่งที่เราต้องศึกษากันตลอดกาล อย่างสม่ำเสมอ สำหรับอีหม่านของเราที่ต้องมีบทบาทในชีวิตของเรา
เรียบเรียงจาก สู่อีมานที่มั่นคง ครั้งที่ 29, ชัยคฺริฎอ อะหมัด สมะดี
ผู้เรียบเรียง อบูซัยฟุลลอฮฺ-อุมมุซัยฟุลลอฮ
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 3685 views