1004 ความแตกแยกในสังคมมุสลิมเกิดจากอะไร

Submitted by dp6admin on Thu, 09/04/2009 - 01:35

 

คำถาม  : อัสลามมุอาลัยกุม,ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนนะครับว่า อิสลามมีหลายพวก มีความเห็นต่างกัน มีมุมมองในการวินิฉัยตัวบทต่างกัน เพราะฉะนั้นอิสลามจึงเปิดกว้างในเรื่องที่สมควรจะแตกต่าง คำถามครับ คือในบ้านเราตอนนี้มีคนเรียนศาสนาก็เยอะ เชคคิดว่ายังไงครับถ้าพวกนี้จะไปทำให้สังคมเราแตกแยก ทั้งๆที่เรื่องพวกนั้นควรจะประณีประนอมซะมากกว่า ขอความเห็นความว่าอาจารย์พวกนั้นทำถูกไหม

 

คำตอบ

อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะหฺมะตุ้ลลอฮฺ วะบะร่อกาตุฮฺ

ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ เพราะสติปัญญาและเหตุผลของผู้คนในสังคมย่อมไม่เหมือนกันและไม่เท่าเทียมกัน โลกก็มีความแตกต่างและขัดแย้งจนถึงเป็นคนละศาสนาคนละลัทธิกัน  แต่อิสลามได้ตั้งมาตรการเกี่ยวกับความขัดแย้งให้มีกฎเกณฑ์ดังนี้

ประการแรก ไม่อนุญาตให้ขัดแย้งในเรื่องหลักอะกีดะฮฺ และถ้าหากใครบิดเบือนอะกีดะฮฺก็จำเป็นต้องประณาม ไม่ใช่ประนีประนอม

ประการที่สอง ไม่อนุญาตให้ขัดแย้งในหลักฐานที่ชัดเจน และความชัดเจนต้องถึงขั้นที่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ระหว่างผู้วินิจฉัยทางนิติศาสตร์อิสลาม แต่หากเป็นหลักฐานที่มีสำนวนสามารถตีความได้หลายแง่หลายมุม ก็ไม่เป็นข้อตำหนิหากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น

ประการที่สาม ไม่อนุญาตให้ขัดแย้งโดยไร้เหตุผล หมายถึงเสนอทัศนะใหม่โดยไม่มีหลักฐานเลย อันเป็นการบิดเบือนศาสนาเสียมากกว่า

ประการที่สี่ ถ้ามีอิจญฺมาอฺ(เอกฉันท์)ระหว่างนักปราชญ์อย่างแน่ชัด ก็ไม่อนุญาตให้นำเสนอทัศนะอื่นที่จะมาแย้งอิจญฺมาอฺนี้

จากมาตรการดังกล่าวจะมีความกระจ่างต่อเรื่องที่ควรประณามและเรื่องที่ควรประนีประนอม ในคำถามของท่านไม่ได้พูดถึงประเภทความขัดแย้ง แต่เข้าใจว่าท่านกล่าวถึงความขัดแย้งด้านอุตริกรรมหรือบิดอะฮฺที่เกิดขึ้นในสังคมหรือความขัดแย้งในเรื่องปลีกย่อยระหว่างนักวิชาการบางท่าน

ถ้าหากว่าเป็นเรื่องปลีกย่อยเช่น อ่านฟาติหะฮฺกับอิมามหรือไม่ กอดอกหรือไม่ ก็ควรพูดในเรื่องเช่นนี้ตามสภาพความเหมาะสมของมัน และอย่าให้ถึงขั้นโกรธกันหรือทะเลาะเบาะแว้ง และถ้าเป็นเรื่องอุตริกรรมก็ต้องตรวจสอบดู ถ้าเป็นบิดอะฮฺเกี่ยวกับอะกีดะฮฺก็ต้องกล่าวถึงความผิดและวิธีแก้ไขถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่พอใจ เพราะเรื่องอะกีดะฮฺจะประนีประนอมไม่ได้ เช่น อะกีดะฮฺอัชอารียะฮฺ เป็นอะกีดะฮฺที่ผิดพลาดด้านคุณลักษณะของอัลลอฮฺ เป็นต้น และเป็นหลักสูตรฟัรฎูอีนที่ใช้สอนกันทั่วประเทศ เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องตักเตือนและให้คำแนะนำ ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่นั่นมิใช่หมายรวมว่าให้ตัดพี่ตัดน้องหรือแยกสุเหร่า เพราะอย่างไรก็ถือว่าอยู่ในกรอบของอิสลามอันกว้าง และเป็นมุสลิมที่มีสิทธิซึ่งกันและกัน และในบรรดาสิทธิที่ต้องปฏิบัติคือการตักเตือนซึ่งกันและกัน

ถ้าเป็นบิดอะฮฺที่ไม่เกี่ยวกับอะกีดะฮฺ ก็จำเป็นต้องตักเตือนเช่นกัน ไม่ใช้ความรุนแรง แต่ใช้หลักการ หลักฐานและเหตุผล เพื่อสร้างความเข้าใจกับฝ่ายตรงข้าม

แน่นอนแล้ว อาจมีนักวิชาการที่ไม่มีศิลปะในการตักเตือน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีนักวิชาการที่ดื้อกับหลักการเช่นเดียวกัน วิธีแก้ไขก็คือเรียกร้องให้ทุกฝ่ายนอบน้อมถ่อมตนต่อหลักฐานและหลักการที่ถุกต้อง และแสดงความพร้อมที่จะปฏิบัติตามความถูกต้องถึงแม้จะขัดกับอารมณ์ของตนหรือประเพณีของบรรพบุรุษหรือทัศนะมัซหับที่ได้สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง

สังคมมุสลิมของเราสามารถอยู่ด้วยความร่มเย็นและสันติสุข สามัคคี หากมีความพร้อมที่จะตักเตือนและรับคำตักเตือน ความแตกแยกเกิดจากคนที่ตักเตือนไม่เป็น และคนที่เมื่อได้รับการตักเตือนแล้วและเชื่อว่าข้อตักเตือนนั้นถูกต้อง แต่ไม่ยอมรับในความถูกต้อง ทางออกให้ทุกฝ่ายสำนึกในความยิ่งใหญ่ของพระบัญชาของอัลลอฮฺและหลักการของศาสนา โดยแน่นอน ความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นเดียวย่อมเกิดขึ้นในสังคมมุสลิมของเรา ขออัลลอฮฺทรงโปรดประทานให้ท่านมีความสามารถและโอกาสที่จะทำงานเพื่อให้สังคมสามัคคีกันบนบรรทัดฐานของอิสลามที่ถูกต้อง

วัสสลามุอะลัยกุม วะเราะหฺมะตุ้ลลอฮฺ วะบะร่อกาตุฮฺ

ริฎอ อะหมัด สมะดี

27 ก.ย. 48

วันที่ตอบ