หะดีษ 14-2 ไม่อนุมัติเลือดมุสลิม ยกเว้น 3 กรณี (ทำซินา)

บทลงโทษขว้างหิน สำหรับคนแต่งงานที่ผิดประเวณี (ต่อ)

•    ويُستنبط أيضاً من قوله تعالى : { إِنَّا أَنْزَلْنَا التَّوْرَاةَ فِيهَا هُدىً وَنُورٌ يَحْكُمُ بِهَا النَّبِيُّونَ الَّذِينَ أَسْلَمُوا لِلَّذِينَ هَادُوا } إلى قوله : { وَأَنِ احْكُمْ بَيْنَهُمْ بِمَا أَنْزَلَ الله }. وقال الزهري : بلغنا أنَّها نزلت في اليهوديَّيْن اللذيْن رجمهما النَّبيُّ - صلى الله عليه وسلم - قال : (( إنِّي أحكم بما في التوراة )) وأمر بهما فرُجما .
อิบนุอับบาส - ในกุรอานมีอายะฮฺที่พูดถึงบทลงโทษขว้างด้วยหินคือ
5:44 แท้จริงเราได้ให้อัต-เตารอตลงมา โดยที่ในนั้นมีข้อแนะนำและแสงสว่าง ซึ่งบรรดานบีที่สวามิภักดิ์(นอบน้อมต่อบัญญัติของอัลลอฮฺ) ได้ใช้อัตเตารอตตัดสินบรรดาผู้ที่เป็นยิว
- เรื่องราวของชาวยิวที่ทำซินา แต่ไม่อยากลงโทษขว้างหิน จึงปกปิดและไปขอให้นบีมุฮัมมัดตัดสิน นบีก็ชี้ให้เห็นในเตารอตว่ามีบทลงโทษตามนี้เช่นกัน
- ทัศนะขัดแย้งที่ไม่กระทบต่อมติเอกฉันท์

•    وخرَّج مسلم في " صحيحه "  من حديث البراء بن عازب قصة رجم اليهوديين ، وقال في حديثه : فأنزل الله : { يَا أَيُّهَا الرَّسُولُ لا يَحْزُنْكَ الَّذِينَ يُسَارِعُونَ فِي الْكُفْر }  وأنزل : { وَمَنْ لَمْ يَحْكُمْ بِمَا أَنْزَلَ اللهُ فَأُولَئِكَ هُمُ الْكَافِرُونَ }  في الكفار كلها .
- การลงโทษต่อชายหญิงยิวที่ทำซินา เกี่ยวข้องกับอายะฮฺ 
- มีเอกฉันท์ว่า บทบัญญัติที่กล่าวถึงเรื่องนี้โดยตรงชัดๆ ถูกยกเลิก -- แต่บทลงโทษยังอยู่

مراحل تشريع حد الزاني
22.20 ขั้นตอนของบทบัญญัติการลงโทษการทำซินา (การเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติ)

•    وكان الله تعالى قد أمر أوَّلاً بحبسِ النِّساء الزَّواني إلى أنْ يتوفَّاهنَّ الموت ، أو يجعل الله لهنَّ السبيل ، ثم جعل الله  لهنَّ سبيلاً ، ففي " صحيح مسلم "  عن عبادة ، عن النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم - قال : (( خُذوا عنِّي خُذوا عنِّي قد جعل الله لهنَّ سبيلاً : البكرُ بالبكِر جلدُ مئة وتغريبُ عامٍ ، والثيبُ بالثيب جلدُ مئة والرجمُ )) .
- ช่วงแรกอัลลอฮฺสั่งให้จำคุกหญิงทำซินาที่บ้านของนางจนตาย ภายหลังมีบทบัญญัติอื่น
- ท่านนบี "มาเลยๆ มารับรู้บทลงโทษของคนที่ทำซินา อัลลอฮฺให้มีทางออกสำหรับเขาแล้ว (คือ) คนที่ยังไม่มีคู่ครองให้เฆี่ยนร้อยครั้งและเนรเทศ(ออกจากถิ่นตนเอง) 1 ปี ส่วนคนที่มีคู่ครองแล้ว ให้เฆี่ยนร้อยทีแล้วขว้างด้วยหินจนตาย"

•    وقد أخذ بظاهر هذا الحديث جماعةٌ من العلماء ، وأوجبوا جلدَ الثيب مئة ، ثم رجمه كما فعل عليٌّ بشُراحة الهَمْدَانيَّةِ ، وقال : جلدتُها بكتاب الله ، ورجمتُها بسُنَّة رسول الله - صلى الله عليه وسلم - . يشير إلى أنَّ كتاب الله فيه جلدُ الزَّانيين من غير تفصيلٍ بين ثيِّبٍ وبِكرٍ ، وجاءت السُّنةُ برجم الثيب خاصة مع استنباطه من القرآن أيضاً ، وهذا القول هو المشهور عن الإمام أحمد رحمه الله وإسحاق ، وهو قول الحسن وطائفة من السَّلف .
- มีภาคปฏิบัติจากคำสั่งของท่านอะลี อิบนุอบีฏอลิบ ได้ลงโทษหญิงชื่อชุรอฮะฮฺ ท่านกล่าวว่า "ฉันเฆี่ยนด้วยคัมภีร์ของอัลลอฮฺและขว้างด้วยหินตามซุนนะฮฺของท่านร่อซูล" -- ทัศนะของอุละมาอฺในประเด็นนี้

•    وقالت طائفة منهم : إنْ كان الثَّيِّبان شيخين رُجمَا وجُلِدا ، وإنْ كانا شابَّين ، رُجِما بغيرِ جلدٍ؛ لأنَّ ذنبَ الشيخِ أقبحُ ، لا سيما بالزنى ، وهذا قولُ أبيِّ بنِ كعبٍ ، وروي عنه مرفوعاً ، ولا يصحُّ رفعه ، وهو رواية عن أحمد وإسحاق أيضاً .
 
35.05 **สรุปบทลงโทษผู้ทำซินา**
สำหรับคนมีคู่ครองแล้ว มี 2 ทัศนะ 1- ขว้างหิน 2- เฆี่ยนร้อยทีและขว้างหินด้วย
คนโสด มี 2 ทัศนะ 1- เฆี่ยนร้อยที 2- เฆี่ยนร้อยทีและเนรเทศ

- มีอีกทัศนะ - ถ้าเป็นคนอาวุโสทำซินา ต้องเฆี่ยนและขว้างหินด้วย, แต่สำหรบหนุ่มสาว ขว้างโดยไม่ต้องเฆี่ยน เพราะความผิดของคนอาวุโสย่อต่ำช้ำกว่าคนหนุ่มสาว
- บทลงโทษผู้ทำซินานี้ จะนำมาใช้ได้อย่างไร ? ในไทยใช้ได้ไหม ?
- สมัยท่านอุมัร มีศ่อฮาบะฮฺคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าทำซินา พยาน 3 พูดตรงกันว่าเห็นอวัยวะเข้าอวัยวะ พยานคนที่ 4 เห็นร่างกายเท่านั้น ท่านอุมัรจึงลงโทษพยาน 3 คนว่ากล่าวหาทำซินา
- รายละเอียดการลงโทษของท่านนบีในเรื่องนี้ (มาอิซกับอัลฆอมิดียะฮฺ)
- หญิงที่มาสารภาพกับนบีว่าทำซินา นบีลงโทษขว้างหิน มีศ่อฮาบะฮิสาปแช่งนาง นบีบอกอย่าแช่งนาง เตาบัตของนางแบ่งได้เจ็ดสิบคน
- ต้องมีพยาน 4 คน เห็นเหมือนกัน เวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ให้การต่อผู้ตัดสินที่ละคน