ท่านนบี ﷺ ละหมาดอย่างไร 8 (ขึ้นจากรุกูอฺ)

ขึ้นจากรุกูอฺ - อวัยวะแรกที่เงยขึ้นมาคือ ศีรษะ พร้อมยกมือ(เหมือนตักบีเราะตุ้ลอิหฺรอม) -- มีสายรายงานอย่างมากจากเศาะฮาบะฮฺ (มุตะวาติร)
- มัซฮับฮานาฟี (ปากีฯ, ตุรกี) ไม่ยกมือ
และกล่าวขณะที่เงยขึ้นว่า "สะมิอัลลอฮุลิมันหะมิดะ" (อัลลอฮฺทรงได้ยินผู้ที่สดุดีต่อพระองค์)
- ยืนตรง ศีรษะและหลังยึดตรง
- ชายคนหนึ่งเข้ามาละหมาดในมัสจิดแล้วมาสลามนบี นบีไม่รับสลามและบอกให้ไปละหมาดใหม่ เขาก็ไปละหมาดใหม่ ถึง 3 ครั่งและสุดท้ายบอกนบีว่าฉันละหมาดอย่างอื่นไม่เป็น นบีจึงสอนว่า ทุกอิริยาบถของการละหมาด ให้กระดูกทุกส่วนทุกอวัยวะเข้าที่ของมัน ให้สงบนิ่ง

หลังจากกล่าว "สะมิอัลลอฮุลิมันหะมิดะ" แล้วนบีจะกล่าวว่า 
"ร็อบบะนา วะละกัลฮัมดฺ" หรือ  "ร็อบบะนา ละกัลฮัมดฺ"  หรือ "อัลลอฮุมมะ ร็อบบะนา ละกัลฮัมดุ"
(โอ้องค์พระผู้อภิบาลของเรา การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ท่าน)
3 สำนวนข้างต้นมีสายรายงานจากท่านนบี แต่ไม่มี "อัลลอฮุมมะ ร็อบบะนา วะละกัลฮัมดุ"

บางครั้งท่านนบีมักจะยืนนานพอสมควร โดยกล่าวบทนี้คือ

 اللَّهُمَّ رَبَّنَا لكَ الحَمْدُ، مِلْءُ السَّمَوَاتِ ومِلْءُ الأرْضِ، وما بيْنَهُمَا، ومِلْءُ ما شِئْتَ مِن شيءٍ بَعْدُ، 
أهلَ الثَّناءِ والمجدِ أحقُّ ما قال العبدُ وكلُّنا لك عبدٌ 
لا مانعَ لِما أعطَيْتَ ولا مُعطيَ لِما منَعْتَ ولا ينفَعُ ذا الجَدِّ منك الجَدُّ

"อัลลอฮุมมะ ร็อบบะนา ละกัลฮัมดุ มิลอัสสะมาวาติ วะมิลอัลอัรฎิ วะมิลอะมาชิอฺตะ มินชัยอินบะอฺดุ,
อะฮฺลัษษะนาอิ วัลมัจดิ อะฮักกุ มากอลัลอับดุ วะกุลลุนา ละกะอับดุน
อัลลอฮุมมะ ลามานิอะ ลิมาอะอฺฏ็อยตะ วะลามุอฺฏิยะ ลิมา มะนะอฺตุ
วะลายันฟะอุ ซัลจัดดิ มินกัลจัดดุ

หรือกล่าวว่า "อัลลอฮุมมัฆซิลนี มินค่อฏอยาย่ะ บิลมาอิ วัษษัลจิ วัลบะร่อดิ, วะนักกินี มินัซซุนูบิ วัลค่อฏอยา กะมายุนักก๊อษเษาบุลอับยะฎุ มินัดดะนัส, วะบาอิ๊ด บัยนี วะบัยนะ ค่อฏอยาย่ะ กะมาบาอั๊ตตะ บัยนัลมัชริกิ วัลมัฆริบ"

ท่านนบีเคยกล่าว "บิร็อบบิลฮัมดิ"

- ระยะเวลายืน พอๆกับเวลารุกูอฺและสุจูด : มีรายงานจากเศาะฮาบะฮฺว่า บางครั้งท่านนบียืนขึ้นจากรุกูอฺหรือนั่งระหว่างสองสุจุด นานจนพวกเรานึกว่าท่านนบีลืม
อิมามอิบนุตัยมียะฮฺกล่าวว่า "การนั่งระหว่างสองสุจูดและยืนขึ้นจากรุกูอฺสั้นๆ เป็นพฤติกรรมของผู้นำสมัยอุมาวียะฮฺ ที่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายในซุนนะฮฺของท่านนบี ﷺ "