มาถึงต้นตระกูลของอาหรับคือ ท่านนบีอิสมาอีล อะลัยฮิสสลาม สมัยที่ท่านอยู่เมืองมักกะฮฺยังเป็นเด็กอยู่ ไม่มีน้ำ แห้งแล้ง ท่านหญิงฮาญัรซึ่งเป็นมารดาของท่านไปหาน้ำ ขึ้นบนภูเขาอัศเศาะฟาไม่มี ก็เดินมุ่งหน้าไปยังภูเขาอัลมัรวะฮฺ เดินไป วิ่งไปวิ่งมา 7 เที่ยว(เรื่องการประกอบพิธีฮัจญ์ดั้งเดิมมาจากตั้งแต่สมัยท่านนบีอิบรอฮีม ผู้ที่ฟื้นฟูอาคารกะอฺบะฮฺท่านแรกคือ ท่านนบีอิบรอฮีม เพราะกะอฺบะฮฺเดิมมีมาตั้งแต่สมัยมลาอิกะฮฺยังอยู่ แต่อิบรอฮีมมาฟื้นฟูและปรับปรุงให้ขึ้นสูงไป) จนสุดท้ายนางฮาญัรสิ้นหวังแล้ว ได้ยินเสียงลูกร้องไห้จึงกลับไปดู ปรากฏว่ามีน้ำพุ่งจากเท้าท่านนบีอิสมาอีล ท่านหญิงฮาญัรจึงใช้ทรายกันน้ำไม่ให้ไหล แล้วบอกว่า ซิม ซิม เลยเรียกกันว่า ซัม ซัม
ซัมซัมกลายเป็นน้ำที่มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่สมัยนบีอิบรอฮีมถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่หมด และนักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยเรื่องนี้ ปรากฏว่าน้ำซัมซัมยิ่งดูดยิ่งเยอะขึ้น มหัศจรรย์จริงๆ ท่านนบีบอกว่าน้ำซัมซัมมีบะร่อกัต คนที่ใช้เป็นอาหารกินก็อิ่ม คนที่ใช้เป็นเครื่องดื่มก็ไม่กระหาย (إنها مباركة إنها طعام طعمة) อิหม่ามอิบนุลกอยยิมบอกว่า ท่านเคยอิอฺติกาฟที่มัสยิดหะรอมเป็นเดือนโดยไม่กินอะไรเลยนอกจากดื่มน้ำซัมซัมจนลงพุง
เมื่อมีน้ำซัมซัมเกิดขึ้น ชาวชนบทเร่ร่อนที่เดินทางเลี้ยงแพะเลี้ยงแกะหาน้ำ ไม่มีที่อยู่ ก็มาอาศัยอยู่กับท่านหญิงฮาญัรและลูกชายของนาง เผ่านี้เรียกว่า ญุรฮุม เป็นเผ่าเร่ร่อนที่อยู่ในเกาะอาหรับ มาอาศัยอยู่กับท่านหญิงฮาญัรเพราะเห็นว่ามีแหล่งน้ำ ต่อมาภายหลังท่านนบีอิสมาอีลได้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งจากเผ่าญุรฮุม ลูกหลานของท่านนบีอิสมาอีลทั้งปวงก็มาจากญุรฮุม แสดงว่าอาหรับมาจากท่านนบีอิสมาอีล และยึดในศาสนาของท่านนบีอิบรอฮีม เผ่าอาหรับทั่วเกาะอาหรับก็ประกอบศาสนกิจที่มาจากท่านนบีอิบรอฮีม เวลาละหมาดหรือฮัจญฺก็เหมือนท่านนบีอิบรอฮีม เมื่ออิบาดะฮฺก็ผินไปทางกิบละฮฺและอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺองค์เดียว
มาถึงยุคก่อนท่านนบีมุฮัมมัดประมาณ 200 กว่าปี มีอาหรับคนหนึ่งจากเผ่าคุซาอะฮฺเป็นนักธุรกิจอยู่เมืองมักกะฮฺ เขาได้เดินทางไปทำธุรกิจแถวอิหร่าน เปอร์เชีย ชาม อียิปต์ เยเมน ฯลฯ ทั้งๆ ที่เขายึดในศาสนาท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม แต่เมื่อเดินทางไปที่อื่นก็เห็นรูปเจว็ดที่คนกราบไหว้กันและมีคนแนะนำว่ารูปเจว็ดเหล่านี้มีสิริมงคล(บะร่อกัต) อัมรฺ อิบนุ ลุหัยยฺ ซึ่งเป็นนักธุรกิจต่างประเทศคนนี้ ก็นำรูปเจว็ดมาตั้งที่มักกะฮฺเพื่อแสวงหาสิริมงคล จนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนสมัยของท่านนบีนูหฺ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงได้สาปแช่ง อัมรฺ อิบนุ ลุหัยยฺ และกล่าวว่าวันกิยามะฮฺเขาจะเข้านรกลากไส้ของเขา เนื่องจากผลงานของเขาที่นำชิริกมาสอนชาวอาหรับ
เชื่อเหลือเกินว่าสังคมที่มีคุณธรรม มีความมั่นคง ของเลวต้องมาจากข้างนอก ยึดตรงนี้เป็นทฤษฎีที่ถูกต้อง ครอบครัวที่พ่อดี แม่ดี ลูกต้องดีเสมอ ถ้าหากมีอะไรเลวเกิดขึ้น ต้องมีอะไรมาจากข้างนอก โทรทัศน์ก็ดี เพื่อนก็ดี ญาติก็ดี ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ปกครอง คนดูแล ต้องรักษาความมั่นคง อะไรที่มาจากข้างนอก มาทางสื่อ มักทำลายความมั่นคงในสิ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา
อัมรฺ อิบนุ ลุหัยยฺ เป็นคนแรกที่นำชิริกมาเผยแพร่ในเกาะอาหรับ จนชาวอาหรับส่วนมากกลายเป็นผู้บูชารูปเจว็ด จนกลายเป็นศาสนาที่เป็นทางการของชาวอาหรับ รูปเจว็ดเต็มมักกะฮฺไปหมด ชาวอาหรับ ต่างคนต่างก็เอารูปเจว็ดมาตั้ง จนสุดท้ายรูปเจว็ดที่แขวนบริเวณกะอฺบะฮฺ 365 ตัว เท่ากับทั้งปี วันละตัว คิดดูว่าชิริกขนาดไหน ชิริกอยู่ที่กะอฺบะฮฺเลย คนที่มาละหมาดมาเฏาะวาฟเขารู้จักอัลลอฮฺ อิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ภายหลังเมื่อนบีถามว่ารู้จักอัลลอฮฺแล้วตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺได้อย่างไร พวกเขาบอกว่า เราไม่ได้บูชาสักการะพวกมัน เว้นแต่พวกมันจะเป็นสื่อระหว่างเรากับอัลลอฮฺ ดังที่อัลลอฮฺตรัสไว้ว่า
وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ لَيَقُولُنَّ اللَّهُ
แต่เขาเอารูปเจว็ดมาเป็นภาคี นั่นคือปัญหา คือสาเหตุที่นบีมุฮัมมัดต้องมาเทศนาเรียกร้องสู่อะกีดะฮฺที่ถูกต้อง ชาวอาหรับอยู่ในลักษณะเร่ร่อนเป็นเรื่องปกติ เพราะคนชนบทตั้งแต่ท่านนบีอิบรอฮีมจนถึงท่านนบีมุฮัมมัดก็ยังมีคนที่อนุรักษ์ศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่ได้ทำชิริก แต่ปัญหาคือเรื่องศาสนาอย่างอิบาดะฮฺและจริยธรรมต่าง ๆ ที่มันแทรกเข้ามาทำลายศาสนาของผู้ศรัทธาตั้งแต่ท่านนบีอิบรอฮีม จึงต้องมีนบีท่านหนึ่งที่มาสอนเป็นนบีสุดท้าย เพื่อได้เทศนาทั่วโลกไปด้วย
เรียบเรียงจากการบรรยายของ เชคริฎอ อะหมัด สมะดี
2547-01-02 ชีวประวัติท่านนบีมุฮัมมัด 01 (ทับช้าง)
วันที่ลงบทความ : 11 เม.ย. 50
- Log in to post comments
- 190 views