- อิมามอิบนุก็อยยิม เขียนหนังสือพูดถึงคุณสมบัติและเครื่องมือของผู้วินิจฉัยตัวบทหลักฐาน ผู้ชี้ขาดปัญหา โดยให้ฉายาแก่ผู้รู้ที่ฟัตวาว่าเป็น ผู้ลงนาม(แทนอัลลอฮฺ) - อัลมุวักกิอีน
- ข้อควรระวังในการตามผู้รู้
- ไม่มีใครสามารถท้าทายอัลกุรอานได้
- อิสลามจะไปถึงทุกพื้นที่
- ใกล้วันกิยามะฮฺ เจว็ดจะกลับมา และสุดท้ายจะไม่มีผู้ศรัทธาเหลืออยู่เลย
9:31 พวกเขาได้ยึดเอาบรรดานักปราชญ์ของพวกเขา และบรรดาบาทหลวงของพวกเขาเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮฺ และยึดเอาอัล-มะซีหฺบุตรของมัรยัมเป็นพระเจ้าด้วย ทั้งๆที่พวกเขามิได้ถูกใช้นอกจากเพื่อเคารพสักการะผู้ที่สมควรได้รับการเคารพสักการะ แต่เพียงองค์เดียว ซึ่งไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพสักการะนอกจากพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกเขาให้มีภาคีขึ้น
- อิสลามห้ามกำหนดอะไรหะล้าล-หะรอม สวนทางกับหลักการศาสนา จึงรักษาหลักการศาสนาไว้ได้
- อิมามอิบนุก็อยยิม เขียนหนังสือพูดถึงคุณสมบัติและเครื่องมือของผู้วินิจฉัยตัวบทหลักฐาน ผู้ชี้ขาดปัญหา โดยให้ฉายาแก่ผู้รู้ที่ฟัตวาว่าเป็น ผู้ลงนาม(แทนอัลลอฮฺ) - อัลมุวักกิอีน
ข้อควรระวังในการตามผู้รู้
- การเชื่อฟังผู้นำหรือผู้รู้ด้วยเหตุผลของตัวบทหลักฐานที่ได้อ้างถึงนั้นไม่มีปัญหา แต่การเชื่อฟังโดยไม่มีตัวบทหลักฐานเลย หรือตามผู้รู้ทั้งๆที่เรารู้ว่ามีหลักฐานอื่นที่ถูกต้องกว่า
- การปกป้องมัซฮับ สถาบัน องค์กร อาจารย์ของตน
- ตามผู้รู้และต้องคิด ใช้สติปัญญาไตร่ตรองด้วย
يُرِيدُونَ أَنْ يُطْفِئُوا نُورَ اللَّهِ بِأَفْوَاهِهِمْ وَيَأْبَى اللَّهُ إِلَّا أَنْ يُتِمَّ نُورَهُ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ
9:32 พวกเขาต้องการเพื่อจะดับแสงสว่างของอัลลอฮฺด้วยปากของพวกเขา และอัลลอฮฺนั้นไม่ทรงยินยอม นอกจากจะทรงให้แสงสว่างของพระองค์สมบูรณ์เท่านั้น และแม้ว่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะชิงชังก็ตาม
- ไม่มีใครสามารถท้าทายอัลกุรอานได้
هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَىٰ وَدِينِ الْحَقِّ لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَلَوْ كَرِهَ الْمُشْرِكُونَ
9:33 พระองค์นั้นคือผู้ที่ได้ส่งรอซูลของพระองค์มาพร้อมด้วยคำแนะนำ และศาสนาแห่งสัจจะ เพื่อที่จะทรงให้ศาสนาแห่งสัจจะนั้นประจักษ์เหนือศาสนาทุกศาสนา และแม้ว่าบรรดามุชริกจะชิงชังก็ตาม
- อัลฮุดา - สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ(เล่มแดง)แปลว่า "คำแนะนำ" เพื่อให้แตกต่างจากกุรอานมะญีด ของ อ.ดิเรก ที่ถูกต้องควรแปลว่า "ทางนำ"
وقال الإمام أحمد : حدثنا أبو المغيرة ، حدثنا صفوان ، حدثنا سليم بن عامر ، عن تميم الداري - رضي الله عنه - قال : سمعت رسول الله - صلى الله عليه وسلم - يقول : ليبلغن هذا الأمر ما بلغ الليل والنهار ، ولا يترك الله بيت مدر ولا وبر إلا أدخله هذا الدين ، بعز عزيز ، أو بذل ذليل ، عزا يعز الله به الإسلام ، وذلا يذل الله به الكفر ، فكان تميم الداري يقول : قد عرفت ذلك في أهل بيتي ، لقد أصاب من أسلم منهم الخير والشرف والعز ، ولقد أصاب من كان منهم كافرا الذل والصغار والجزية .
ท่านนบีกล่าวว่า "กิจการศาสนานี้(อิสลาม) ไปถึงทุกพื้นที่ อัลลอฮฺจะไม่ปล่อยให้มีบ้าน แม้ว่าสร้างจากก้อนหินหรือขนสัตว์ (ชนบทหรือในเมือง) เว้นแต่อัลลอฮฺจะให้ศาสนานี้เข้าไปในบ้านนั้น ด้วยอำนาจของผู้มีอำนาจ หรือด้วยการบังคับให้คนต่ำต้อย เพื่ออำนวยให้อิสลามเข้าถึง..."
وقال مسلم : حدثنا أبو معن زيد بن يزيد الرقاشي ، حدثنا خالد بن الحارث ، حدثنا عبد الحميد بن جعفر ، عن الأسود بن العلاء ، عن أبي سلمة ، عن عائشة - رضي الله عنها - قالت : سمعت رسول الله - صلى الله عليه وسلم - يقول : لا يذهب الليل والنهار حتى تعبد اللات والعزى . فقلت : يا رسول الله ، إن كنت لأظن حين أنزل الله - عز وجل - : ( هو الذي أرسل رسوله بالهدى ودين الحق ) إلى قوله : ( ولو كره المشركون ) أن ذلك تام ، قال : إنه سيكون من ذلك ما شاء الله - عز وجل - ثم يبعث الله ريحا طيبة [ فيتوفى كل من كان في قلبه مثقال حبة خردل من إيمان ] فيبقى من لا خير فيه ، فيرجعون إلى دين آبائهم
ใกล้วันกิยามะฮฺ เจว็ดจะกลับมา
ท่านนบีกล่าวว่า "กลางคืนและกลางวันจะไม่สิ้นสุด จนกว่าอัลลาตและอัลอุซซา (เจว็ดที่ผู้คนนับถือมากที่สุดทั่วคาบสมุทรอาหรับ)...)
อาอิชะฮฺถามท่านนบีว่า...
"ฉันกับวันกิยามะฮฺถูกส่งมาเสมือนนิ้วชี้กับนิ้วกลาง" (ใกล้มากแล้ว)
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 161 views