- อายะฮฺที่ 29 นี้มักถูกนำไปโจมตีอิสลาม "พวกเจ้าจงต่อสู้บรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อวันปรโลก..."
- ภารกิจของมุสลิมทุกคน : เปลี่ยนแปลงความชั่ว
- สงครามมุอฺตะฮฺ (มุสลิม-โรมัน) ปี ฮ.ศ.8
- การศึกษาอัลกุรอานในสถานการณ์ที่มีผู้โจมตีอิสลาม
- ความสัมพันธ์ มุสลิม-คริสต์ ในสมัยท่านนบี, จดหมายจากท่านนบีถึงฮิร้อกลฺ(เฮเรกริส) ผู้ปกครองโรม
- การเก็บ "อัลญิซยะฮฺ" (คล้ายภาษี) จากต่างศาสนิก (อะฮฺลุลกิตาบ), ทำไมต้องเก็บ ?, ต่างจากภาษีอย่างไร ?
- อายะฮฺที่ 29 นี้มักถูกนำไปโจมตีอิสลาม
- ภารกิจของมุสลิมทุกคน : เปลี่ยนแปลงความชั่ว
- สงครามมุอฺตะฮฺ (มุสลิม-โรมัน) เกิดขึ้นในปีที่ 8 ก่อนพิชิตมักกะฮฺ
- การศึกษาอัลกุรอานในสถานการณ์ที่มีผู้โจมตีอิสลาม
قَاتِلُوا الَّذِينَ لَا يُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَلَا بِالْيَوْمِ الْآخِرِ وَلَا يُحَرِّمُونَ مَا حَرَّمَ اللَّهُ وَرَسُولُهُ وَلَا يَدِينُونَ دِينَ الْحَقِّ مِنَ الَّذِينَ أُوتُوا الْكِتَابَ حَتَّىٰ يُعْطُوا الْجِزْيَةَ عَنْ يَدٍ وَهُمْ صَاغِرُونَ
9:29 พวกเจ้าจงต่อสู้บรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อวันปรโลก และไม่งดเว้นสิ่งที่อัลลอฮฺและรอซูลห้ามไว้ และไม่ปฏิบัติตามศาสนาแห่งความสัจจะ อันได้แก่บรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ จนกว่าพวกเขาจะจ่ายอัล-ญิซยะฮฺจากมือของพวกเขาเอง ในสภาพที่พวกเขาเป็นผู้ที่ต่ำต้อย
9:29 พวกเจ้าจงต่อสู้บรรดาผู้ที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อวันปรโลก
- "ผู้ไม่ศรัทธา" ในเวลานั้นส่วนมากประกาศตนเป็นศัตรูอิสลาม
9:29 และไม่งดเว้นสิ่งที่อัลลอฮฺและรอซูลห้ามไว้
- สิ่งที่อัลลอฮฺและรอซูลห้ามไว้ เช่น ห้ามดื่มสุรา อบายมุข โสเภณี (กัญชา) ฯลฯ หมายถึงเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อสังคม
- ชาวอาหรับดื่มเหล้ากันเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีบทบัญญัติห้ามกินเหล้า ศฮบ เททิ้งจนท่วมถนน
- สงครามฝิ่นในอดีต, ตาลีบันกวาดล้างฝิ่นได้หมด
9:29 และไม่ปฏิบัติตามศาสนาแห่งความสัจจะ อันได้แก่บรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ -- อะฮฺลุลกิตาบ (ชาวคริสต์โรมัน) ไม่เคยมีปัญหากับนบี
- สงครามมุอฺตะฮฺ (มุสลิม-โรมัน) โรมันเห็นว่าท่านนบีมีอิทธิพลมากขึ้นในคาบสมุทรอาหรับ จึงส่งกองทัพมา(ร่วมกับอาหรับเผ่าฆอซาซีนะฮ เป็นคริสต์) ท่านนบีก็ได้ส่งกองทัพไปที่มุอฺตะฮฺ โดยแต่งตั้งแม่ทัพ 4 คน (ซัยดฺ ญะฟัร อับดุลลอฮฺ อิบนุร่อวาฮะฮฺ -- เสียชีวิต เหลือ คอลิด อิบนุลวะลีด)
นบีส่งกองทัพ 3 พัน สู้กับโรมัน 3 แสน
สุดท้าย คอลิด อิบนุลวะลีด เป็นแม่ทัพ ถอยทัพเพราะจำนวนน้อยกว่าหลายเท่า แต่โดยสรุปมุสลิมเสียหายน้อยกว่า
- นบีเคยส่งจดหมายเชิญชวนเฮเรกริส(ฮิร็อกล์) ผู้นำโรมัน ให้เข้ารับอิสลาม, จดหมายจากท่านนบีถึงฮิร้อกลฺ ผู้ปกครองโรม
9:29 จนกว่าพวกเขาจะจ่ายอัลญิซยะฮฺ(ภาษี)จากมือของพวกเขาเอง(ด้วยความสมัครใจ) ในสภาพที่พวกเขาเป็นผู้ที่ต่ำต้อย(ยอมรับอำนาจของมุสลิม)
การเก็บ "อัลญิซยะฮฺ" (คล้ายภาษี)
- การไม่จ่ายภาษีเป็นอารยะขัดขืน แสดงว่าไม่รับอำนาจของรัฐ
- เดิมซาอุดีไม่เก็บภาษี เพราะอุละมาอฺไม่เห็นด้วย และรัฐมีรายได้จากน้ำมันมหาศาล (ปัจจุบันเก็บแล้ว)
- ญิซยะฮไม่เหมือนภาษี
- การเก็บ อัลญิซยะฮฺ เพื่อให้ความคุ้มครองต่างศาสนิก และแสดงการยอมรับในอำนาจรัฐอิสลาม
ต่างศาสนิกจ่ายแล้วได้รับความคุ้มครอง ไม่ต้องถูกเกณฑ์ทหาร -- เป็นข้อแตกต่างจากภาษี
ในบทบัญญัติไม่กำหนดว่าต้องเก็บเท่าไหร่
จ่ายเฉพาะคนแข็งแรง
- อาหรับ บนูตักริบ เป็นคริสต์ ไม่ยอมจ่ายญิซยะฮ แต่อยากจ่ายเศาะดะเกาะฮฺ (ทั้งที่มูลค่ามากกว่า) เพราะถือว่าตนเป็นชาวอาหรับ (ไม่ใช่คนต่างชาติ)
- สมัยโรมันก็เก็บภาษีกับคนต่างศาสนิกเช่นกัน อาหรับ ยิว ที่ไปค้าขายกับโรมันก็ต้องจ่าย
- ญิซยะฮฺที่ถูกเก็บครั้งสุดท้าย ในสมัยออตโตมันยึดครองอัลจีเรีย - คอยรูดดีน บัรบารูซา เป็นแม่ทัพเรือ เก็บญิซยะจากสหรัฐอเมริกาที่มาค้าขายในเมดิเตอร์เรเนียน
- อาบน้ำละหมาดโดยเช็ดรองเท้า ได้กี่วัน ?
- ยะอฺจูจ - มะอฺจูจ คือใคร ?
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 61 views
