- มนุษย์อาจมีความตระหนี่ได้ แต่ถ้ามากจนก่อให้เกิดปัญหาแก่คนรอบข้างในด้านศาสนา (เช่น ไม่จ่ายนะฟะเกาะฮฺให้พอเพียง) เป็นความผิด
- การมีภรรยามากกว่าหนึ่ง, ความยุติธรรมในบรรดาภรรยา, อย่าปล่อยทิ้งภรรยาเหมือนแขวนนางไว้,
- สิทธิของภรรยา, หน้าที่ของสามีและภรรยา,
- สิทธิของแต่ละฝ่ายหลังจากหย่า, การจ่ายนะฟะเกาะฮฺหลังหย่า,
128. และหากหญิงใด เกรงว่าจะมีการปึ่งชาหรือมีการผินหลังให้ (*1*) จากสามีของนางแล้วก็ไม่มีบาปใดๆ แก่ทั้งสองที่จะตกลงประนีประนอมกันอย่างใดอย่างหนึ่ง (*2*) และการประนีประนอมนั้นเป็นสิ่งดีกว่า และจิตใจคนนั้นถูกให้มีความตระหนี่มาด้วย (*3*) และหากพวกเจ้ากระทำดี และมีความยำเกรงแล้ว แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงรู้อย่างถี่ถ้วนในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำกัน
(1) ไม่ยอมเลี้ยงดู หรือจ่ายค่ายังชีพให้
(2) เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่เคยให้แก่นางลงบ้าง หรือลดเวลาการอยู่ร่วมกันกับนาง หรืออย่างหนึ่งอย่างใดก็ตามที่สามารถประนีประนอมกันได้ แล้วสามีก็จะต้องเลิกปึ่งชากับนางและเลิกผินหลังให้นาง
(3) มนุษย์นั้นถูกบังเกิดมาในสภาพที่มีความตระหนี่ เป็นคุณสมบัติติดตัวมาด้วย
وَلَن تَسْتَطِيعُوا أَن تَعْدِلُوا بَيْنَ النِّسَاءِ وَلَوْ حَرَصْتُمْ ۖ فَلَا تَمِيلُوا كُلَّ الْمَيْلِ فَتَذَرُوهَا كَالْمُعَلَّقَةِ ۚ وَإِن تُصْلِحُوا وَتَتَّقُوا فَإِنَّ اللَّـهَ كَانَ غَفُورًا رَّحِيمًا ﴿١٢٩﴾
129. และพวกเจ้าไม่สามารถที่จะให้ความยุติธรรมในระหว่างบรรดาหญิง(*1*)ได้เลย และแม้ว่าพวกเจ้าจะมีความปรารถนาอันแรงกล้าก็ตาม ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่าเอียงไปหมด(*2*) แล้วพวกเจ้าก็จะปล่อยให้บรรดานาง (ที่ถูกทอดทิ้ง) นั้นประหนึ่งผุ้ที่ถูกแขวนไว้(*3*) และหากพวกเจ้าประนีประนอมกัน และมีความยำเกรงแล้ว แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
(1) บรรดาภรรยา
(2) อย่าได้ทุ่มเทความรักให้แก่คนใดคนหนึ่งจนหมดหัวใจ หรือหลงจนขาดสติ แล้วทอดทิ้งอีกคนหนึ่งไว้โดยไม่เอาใจใส่ดูแล
(3) จะอยู่ในฐานะภรรยาก็ไม่เชิง จะเป็นผู้ถูกหย่าก็ไม่ใช่
وَإِن يَتَفَرَّقَا يُغْنِ اللَّـهُ كُلًّا مِّن سَعَتِهِ ۚ وَكَانَ اللَّـهُ وَاسِعًا حَكِيمًا ﴿١٣٠﴾
130. และหากทั้งสองจะแยกกัน อัลลอฮฺก็จะทรงให้ความพอเพียงแก่เขาทั้งหมด จากความมั่งมีของพระองค์ และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงปรีชาญาณ
وَلِلَّـهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ ۗ وَلَقَدْ وَصَّيْنَا الَّذِينَ أُوتُوا الْكِتَابَ مِن قَبْلِكُمْ وَإِيَّاكُمْ أَنِ اتَّقُوا اللَّـهَ ۚ وَإِن تَكْفُرُوا فَإِنَّ لِلَّـهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ ۚ وَكَانَ اللَّـهُ غَنِيًّا حَمِيدًا ﴿١٣١﴾
131. และสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮฺ และแท้จริงเราได้สั่งเสียไว้แก่บรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ก่อนจากพวกเจ้า และพวกเจ้าด้วย(*1*) ว่าจงยำเกรง อัลลอฮฺเถิด และหากว่าพวกเจ้าปฏิเสธศรัทธา ก็แท้จริงสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้า และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงมั่งมีผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ
(1) หมายถึงบรรดามุสลิม
وَلِلَّـهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ ۚ وَكَفَىٰ بِاللَّـهِ وَكِيلًا ﴿١٣٢﴾
132. และสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้า และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ และพอเพียงแล้วที่อัลลอฮฺได้รับมอบหมายได้คุ้มครองรักษา(*1*)
(1) ผู้ใดมอบหมายให้อัลลอฮฺดูแลทรัพย์สินของเขา หลังจากที่เขาได้ป้องกันจนหมดความสามารถของเขาแล้ว ก็เป็นการพอเพียงแล้วที่ให้พระองค์ดูแลแทนเขา
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 70 views
