- การละหมาดขณะทำสงคราม, เศาะลาตุลเคาฟฺ (ละหมาดเมื่อมีความหวาดกลัวหรือขณะทำสงคราม),
- ความสำคัญของการละหมาด, อิสลามไม่ใช่เพียงแค่ละหมาด
وَإِذَا كُنتَ فِيهِمْ فَأَقَمْتَ لَهُمُ الصَّلَاةَ فَلْتَقُمْ طَائِفَةٌ مِّنْهُم مَّعَكَ وَلْيَأْخُذُوا أَسْلِحَتَهُمْ فَإِذَا سَجَدُوا فَلْيَكُونُوا مِن وَرَائِكُمْ وَلْتَأْتِ طَائِفَةٌ أُخْرَىٰ لَمْ يُصَلُّوا فَلْيُصَلُّوا مَعَكَ وَلْيَأْخُذُوا حِذْرَهُمْ وَأَسْلِحَتَهُمْ ۗ وَدَّ الَّذِينَ كَفَرُوا لَوْ تَغْفُلُونَ عَنْ أَسْلِحَتِكُمْ وَأَمْتِعَتِكُمْ فَيَمِيلُونَ عَلَيْكُم مَّيْلَةً وَاحِدَةً ۚ وَلَا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ إِن كَانَ بِكُمْ أَذًى مِّن مَّطَرٍ أَوْ كُنتُم مَّرْضَىٰ أَن تَضَعُوا أَسْلِحَتَكُمْ ۖ وَخُذُوا حِذْرَكُمْ ۗ إِنَّ اللَّـهَ أَعَدَّ لِلْكَافِرِينَ عَذَابًا مُّهِينًا ﴿١٠٢﴾
102. และเมื่อเจ้า(*1*)อยู่ในหมู่พวกเขา แล้วเจ้าได้ให้มีการปฏิบัติละหมาดขึ้นแก่พวกเขา ดังนั้น กลุ่มหนึ่งจากพวกเจาก็จงยืนละหมาดร่วมกับเจ้า และก็จงเอาอาวุธของพวกเขาถือไว้ด้วย ครั้นเมื่อพวกเขาสุญูดแล้ว(*2*) พวกเขาก็จงอยู่เบื้องหลังของพวกเจ้า(*3*) และอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังมิได้ละหมาดก็จงมา และจงละหมาดร่วมกับเจ้า และจงยึดถือไว้ซึ่งการระมัดระวัง(*4*)ของพวกเขา และอาวุธของพวกเขา บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธานั้น หากว่าพวกเจ้าละเลยอาวุธของพวกเจ้า และสัมภาระของพวกเจ้าแล้ว พวกเขาก็จะจู่โจมพวกเจ้าอย่างรวดเร็ว และไม่มีบาปใด ๆ แก่พวกเจ้า หากว่าที่พวกเจ้ามีความเดือดร้อน เนื่องจากฝนตกหรือพวกเจ้าป่วย-ในการที่พวกเจ้าจะวางอาวุธ(*5*)ของพวกเจ้า และพวกเจ้าจงยึดถือไว้ ซึ่งการระมัดระวังของพวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮฺทรงเตรียมไว้แล้ว ซึ่งการลงโทษที่ยังความอัปยศแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย
(1) หมายถึงท่านนะบี มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
(2) เมื่อกลุ่มหนึ่งละหมาดตามท่านนะบีได้ร็อกอะฮฺหนึ่งแล้ว
(3) ให้ถอยไปอยู่เบื้องหลังเพื่อระมัดระวังมิให้ฝ่ายศัตรูถือโอกาสโอบเข้าด้านหลังเพื่อโจมตีขณะทำการละหมาด
(4) ให้กลุ่มที่สองซึ่งกำลังทำการละหมาดร่วมกับท่านนะบีอยู่นั้นได้ยึดถือไว้ซึ่งการระมัดระวัง เพราะในขณะนี้ฝ่ายศัตรูอาจจะรู้แล้วว่าฝ่ายมุสลิมกำลังละหมาด พวกเขาอาจจะถือโอกาสนี้โจมตีก็ได้ ส่วนที่มิได้ให้กลุ่มแรกระมัดระวังขณะที่ทำการละหมาดนั้น ก็เพราะว่าในขณะที่ฝ่ายมุสลิมเข้าแถวเพื่อทำการละหมาดนั้น ฝ่ายศัตรูย่อมเข้าใจว่าเป็นการเตรียมตัวเพื่อทำการรบ
(5) ไม่ถืออาวุธขณะทำการละหมาด
فَإِذَا قَضَيْتُمُ الصَّلَاةَ فَاذْكُرُوا اللَّـهَ قِيَامًا وَقُعُودًا وَعَلَىٰ جُنُوبِكُمْ ۚ فَإِذَا اطْمَأْنَنتُمْ فَأَقِيمُوا الصَّلَاةَ ۚ إِنَّ الصَّلَاةَ كَانَتْ عَلَى الْمُؤْمِنِينَ كِتَابًا مَّوْقُوتًا ﴿١٠٣﴾
103. ครั้นเมื่อพวกเจ้าเสร็จจากการละหมาดแล้ว(*1*) ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮฺ ทั้งในสภาพยืนและนั่งและในสภาพนอนเอกเขนกของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าปลอดภัยแล้ว ก็จงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด(*2*) แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นบัญญัติที่ถูกกำหนดเวลา(*3*)ไว้แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย
(1) คือละหมาดสองร็อกอะฮฺ ในขณะที่ทำการสู้รบกับฝ่ายศัตรู ละหมาดดังกล่าวนี้เรียกว่า “ซ่อลาตุลเคาฟ์”
(2) ทำละหมาดให้ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติตามปกติ
(3) ถูกกำหนดไว้ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 5 เวลาดังที่ทราบกันแล้ว
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 72 views