...ชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺและชาวสะลัฟ จึงเป็นคำจำกัดความของคนกลุ่มเดียวกัน (เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้เราฟื้นคืนชีพอยู่ในกลุ่มของพวกเขาในวันกิยามะฮฺด้วยเทอญ
แนวทางของอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺและสะละฟุศศอและฮฺ 1
ข้อหนึ่ง : ใครคือชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ
อัลกุรอานุลกรีมได้ชี้แนะให้แก่เรา และซุนนะฮฺเองก็ได้บอกให้เราทราบและได้วางมาตรการเกี่ยวกับลักษณะของชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺไว้ ดังที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 137 ว่า
﴿ فَإِنْ آمَنُواْ بِمِثْلِ مَآ ءَامَنْتُم بِهِ فَقَدِ اهْتَدَواْ وَّإِنْ تَوَلَّوْا فَإِنَّمَاهُمْ فِي شِقَاقٍ ﴾
อัลลอฮฺตะอาลาทรงชี้แจงไว้ว่า ผู้ใดที่ศรัทธาเช่นเดียวกับที่บรรดาศ่อฮาบะฮฺศรัทธาแล้ว เขาก็อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง และผู้ใดต่อต้านขัดขวางแนวทางของพวกเรา เขาก็คือผู้แตกออกจากแถว เป็นผู้ต่อต้านเป็นปรปักษ์ต่อสัจธรรม ดังที่พระองค์ตรัสไว้ว่า
﴿ وَالسّابِقُونَ الأَوَّلُونَ مِنَ الْمُهَاجِرِينَ وَالأَنْصَارِ وَالَّذِينَ اتَّبَعُو هُمْ بِإِحْسَانٍ رَّضِىَ اللهُ عَنهُمْ وَرَضُواْ عَنهُ وَأَعَدَّلَهُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِي تَحْتِهَا الأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَآ أَبَدًا ذلِكَ الْفَوزُ الْعَظِيمُ ﴾
และท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวย้ำยืนยันความหมายดังกล่าวนี้ไว้ว่า
فَعَلَيْكُمْ بِسُنَّتِيْ الخُلَفَاءِ الرَّاشِدِيِّيْنَ مِنْ بَعْدِي ، عُضُّوا عَلَيْهَا بِالنَّوَاحِذِ ، وَإِيَّاكُمْ وضمُحْدَثَاتُ الأُمُوِرِ ، فَإِنَّ كُلَّ مَحْدَثَةٍ بِدْعَةٌ ، وَكُلُّ بِدْعَةٍ ضَلاَلَةٍ وَكُلُّ ضَلاَلَةٍ فِي النَّارِ .
และท่านยังได้กล่าวชมเชยบรรดาสาวกของท่านว่า
لاَتَسُبُّوْا أَصْحَابِيْ فَإِنَّ أَحَدَكُمْ لَوْ أَنْفَقَ مِثْلَ أُحُدٍ ذَهَبًا مَابَلَغَ مُدَّ أحد هُمْ وَلاَنَصِيْفَه
ความว่า “พวกท่านอย่าประณามต่อว่าบรรดาสาวกของฉัน เพราะแม้นว่าคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจะบริจาคทองขนาดเท่าภูเขาอุฮุด ก็จะไม่ได้ผลบุญเท่ากับ 1 มุด ของคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขา หรือแม้แต่เพียงครึ่งมุด”
اقْتَدُوْا بِلذَيْنِ مِنْ بَعْدِي
ความว่า “ท่านทั้งหลายจงเลียนแบบทั้งสอง (อบูบักรและอุมัร) หลังจากฉัน”
رَضِيْتُ لأُمُّتِيْ مَارَضِيَ لَهَا ابْنُ أُمِّ عَبْدٍ
ความว่า “ฉันพอใจให้แก่ประชาชาติของฉันในสิ่งที่อิบนฺอุมมิอับดฺ มีความพอใจ (หมายถึง อับดุลลอฮฺอิบนฺมัสอู๊ด)” คือ ท่านได้สนับสนุนผู้คนให้ปฏิบัติตาม อับดุลลอฮฺ อิบนฺมัสอู๊ด ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ
أَمِيْنٌ هَذِهِ الأُمَّةِ أَبُوْ عُبَيْدَة
ความว่า “ผู้ซื่อสัตย์ของประชาชาตินี้คือ อบูอุบัยดะฮฺ”
أَعْلَمُ أُمَّتِيْ بِالحَلالِ وَالحَرَامِ مُعَاذٌ
ความว่า “ผู้ที่มีความรู้ดียิ่งแห่งประชาชาติของฉันในเรื่องของหะล้าลและหะรอม คือ มุอ๊าซ”
ดังกล่าวทั้งหมดนั้นเป็นการประกาศรับรองและชี้แนะถึงความจำเป็นที่จะต้องยึดถือแนวทางของบรรดาศ่อฮาบะฮฺในการเข้าใจกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺ ทั้งนี้เพราะพวกเขาเป็นบุคคลที่มีความจริงใจ มีความบริสุทธิ์ใจและให้ความยิ่งใหญ่ต่ออัลกุรอานและซุนนะฮฺ และเป็นบุคคลที่ปฏิบัติตามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มากกว่าผู้อื่น
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวชมเชยชนชั้นตาบิอีน (รุ่นหลังบรรดาศ่อฮาบะฮฺ) ในความดีของพวกเขาซึ่งได้ดำเนินตามแนวทางของบรรดาศ่อฮาบะฮฺ โดยท่านได้กล่าวไว้ว่า
خَيْرُ النَّاسِ قَرْنِي ثُمَّ الَّذِيْنَ يَلُوْنَهُمْ ثَمَّ الَّذِيْن يَلُوْنَهُمْ
ความว่า “ประชาชนที่ดียิ่งก็คือ ผู้ที่อยู่ในยุคของฉัน แล้วก็บรรดาผู้ที่อยู่ในยุคใกล้กับพวกเขา แล้วก็ในยุคที่ใกล้กับพวกเขา (หมายถึงชนชั้นตาบิอีน)”
การยืนยันรับรองจากท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดังกล่าวนี้ เป็นการชมเชยความดีมีคุณธรรมของพวกเขา จากหะดีษข้างต้น บุคคลสองลำดับชั้นนี้หมายถึง บรรดาศ่อฮาบะฮฺและบรรดาตาบิอีนนั้น มาจากยุคแห่งความดีมีคุณธรรม ซึ่งท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวชมเชยพวกเขาไว้ว่า เป็นบุคคลที่ประเสริฐยิ่ง จำเป็นที่เราจะต้องเลียนแบบพวกเขาในการทำความเข้าใจกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺ
อะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺ ( َاهلُ السُّنَّةِ وَالْجَمَاعَةِ ) ก็คือ ผู้ที่ยึดมั่นในซุนนะฮฺ และยึดมั่นในสิ่งที่บรรดากลุ่มชนมุสลิมยึดมั่น (บุคคลเหล่านั้นคือ บรรดาศ่อฮาบะฮฺ และบรรดาตาบิอีน) และพวกเขารวมตัวกัน (เป็นญะมาอะฮฺ ) บนพื้นฐานของซุนนะฮฺ
สะละฟุศศอและฮฺ ( السَّلَفُ الصَّالِح ) คือ กลุ่มคนยุคแรกที่ยึดมั่นในอัลกุรอานและซุนนะฮฺ ได้แก่ บรรดาศ่อฮาบะฮฺ ตาบิอีน (คนรุ่นถัดจากศ่อฮาบะฮฺ) และตาบิอิตตาบิอีน (คนรุ่นถัดจากตาบิอีน)
ดังนั้น ชาวอะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮฺและชาวสะลัฟ จึงเป็นคำจำกัดความของคนกลุ่มเดียวกัน (เราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้เราฟื้นคืนชีพอยู่ในกลุ่มของพวกเขาในวันกิยามะฮฺด้วยเทอญ)
ที่มา : หนังสือ "กลุ่มต่างๆในอิสลาม (منهج الفراق)", เชคริฎอ อะหมัด สมะดี
- Log in to post comments
- 93 views
