ซูเราะตุลบะเกาะเราะฮฺ 8 (อายะฮฺที่ 30-39 )

Submitted by dp6admin on Thu, 29/11/2018 - 11:11
หัวข้อเรื่อง
กำเนิดนบีอาดัมและเฮาวาอฺ, การล่อลวงของอิบลีส, ความผิดพลาดของทั้งสองและการออกจากสวนสวรรค์, คุณสมบัติผู้ปกครอง, (บทเรียน - อัลลอฮฺให้นบีอาดัมออกจากสวรรค์ด้วยความผิดครั้งเดียว แล้วเราทำผิดเท่าไร จะได้เข้าสวรรค์หรือ ให้รำลึกและเตาบัตอยู่เสมอ)
สถานที่
บ้านพงษ์พรรฦก บางกอกน้อย
วันที่บรรยาย
ความยาว
109.00 นาที
มีวีดีโอ
มี
รายละเอียด

30. และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่มะลาอิกะฮฺว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง(*1*) ในพิภพ  มะลาอิกะฮฺได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพ ซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือด ในพิภพกระนั้นหรือ(*2*)?  ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์  และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์  พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้(*3*)  
     (1)  คือนะบีอาดัม ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรก และเป็นบิดาของมนุษย์ชาติมิใช่คนใดคนหนึ่งที่ชื่อาดัม ตามที่พวกก็อดยานีได้บิดเบือนไว้
     (2)  การที่มะลาอิกะฮฺกล่าวเช่นนั้น อาจเข้าใจได้ว่าเมื่อก่อนโน้นอัลลอฮฺเคยบังเกิดสิ่งที่มีชีวิต และมีปัญญามาในโลก แล้วพวกเขาเหล่านั้นประหัตประหารกัน จนกระทั่งสูญพันธุ์ ทั้งนี้ด้วยพระประสงค์ของพระองค์แล้วพระองค์ก็ทรงบังเกิดอาดัมขึ้นมาใหม่จากเดิม เพื่อเป็นผู้แทนของพระองค์ในพิภพ ซึ่งจะมีลูกหลานแพร่สะพัดไปทั่วโลกในการนี้ให้มะลาอิกะฮฺเข้าใจว่า ลูกหลานของอาดัมจะประหัตประหารกัน และหลั่งเลือด จึงได้ถามพระองค์เพื่อต้องการทราบ ใช่ว่าเป็นการคัดค้านแต่อย่างใดไม่
     (3)  อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง ถึงเป้าหมายในการบังเกิดท่านนะบีอาดัม แต่มลาอิกะฮฺไม่รู้  
 
31. และพระองค์ได้ทรงสอนบรรดานามของทั้งปวงให้แก่อาดัม(*1*) ภายหลังได้ทรงแสดงสิ่งเหล่านั้นแก่มะลาอิกะฮฺ แล้วตรัสว่า จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่ข้า หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง  
     (1)  อัลลอฮฺทรงสอนบรรดาชื่อทั้งปวงของสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ในพิภพ ให้แก่นะบีอาดัมทราบ  
 
32. พวกเขา(บรรดามะลาอิกะฮฺ)ทูลว่า มหาบริสุทธิ์พระองค์ท่านไม่มีความรู้ใด ๆ แก่พวกข้าพระองค์นอกจากสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนพวกข้าพระองค์เท่านั้น แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ  
33. พระองค์ตรัสว่า โอ้อาดัม! จงบอกบรรดาชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาที (บรดามะลาอิกะฮฺ) ครั้นเมื่ออาดัมได้บอกชื่อของสิ่งเหล่านั้นแก่พวกเขาแล้ว พระองค์จึงตรัสว่า ข้ามิได้บอกแก่พวกเจ้าดอกหรือว่า แท้จริงข้าเป็นผู้รู้ยิ่งซึ่งความเร้นลับแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและเป็นผู้รู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าเปิดเผยและสิ่งที่พวกเจ้าปกปิด  
34. และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มะลาอิกะฮฺว่า พวกเจ้าจงสุยูด(*1*) แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุยูดกัน นอกจากอิบลีส(*2*) โดยที่มันไม่ยอมสุยูด และแสดงโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา (กาฟิรฺ)  
     (1)  หมายถึงการโน้มศรีษะลงด้วยความนอบน้อม เป็นการคารวะและเคารพนับถือ มิใช่หมายถึงการวางใบหน้าลงบนพื้นแต่อย่างใด เพราะปฉิบัติการดังกล่าวนี้ จะกระทำได้เฉพาะอัลลอฮฺเท่านั้น
     (2)  เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฉอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน  
35. และเราได้กล่าว่า โอ้ อาดัม ! เจ้าและคู่ครองของเจ้าจงพำนักอยู่ในสวนสวรรค์นั้นเถิดและเจ้าทั้งสองจงบริโภคจากสวนนั้นอย่างกล้างขวาง ณ ที่ที่เจ้าทั้งสองปรารถนา และอย่าเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนี้(*1*) (มิเช่นนั้นแล้ว) เจ้าทั้งสองจะกลายเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเอง  
     (1)  ต้นไม้ต้นหนึ่งในสวนสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงชี้ให้อาดัมและเฮาวาดฺ ดู  
36. ภายหลังจากชัยฎอนได้ทำให้ทั้งสองนั้นพลั้งพลาดไป เนื่องจากต้นไม้ต้นนั้น(*1*) แล้วได้ทำให้ทั้งสองออกจากที่ที่เคยพำนักอยู่(*2*) และเราได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงออกไป โดยที่บางส่วนของพวกเจ้าต่างเป็นศัตรูต่อกัน(*3*) และ(สำหรับพวกเจ้าในผืนแผ่นดินนั้น) มีที่พำนัก และมีสิ่งอำนวยประโยชน์จนถึงระยะเวลาหนึ่ง(*4*)  
     (1)  เนื่องจากเข้าใกล้ต้นไม้ต้นนั้น และบริโภคผลของมัน
     (2)  ออกจากสวนสวรรค์
     (3)  บางส่วนของลุกหลานอาดัม กับผู้ที่สืบเชื้อสายจขากอิบลีสที่จะมีต่อไป
     (4)  จนกว่าจะถึงวาระแห่งการสิ้นชีวิต  

37. ภายหลังดาอัมได้เรียนรู้คำวิงวอนจากพระเจ้าของเขา(*1*) แล้วพระองค์อภัยโทษแก่เขา แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ  
     (1)  แล้วได้วิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์  
 
38. เราได้กล่าว่า พวกเจ้าจงออกไปทั้งหมด(*1*) จากสวนนั้น แล้วหากมีคำแนะนำจากข้ามายังพวกเจ้าแล้ว ผู้ใดที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า ก็ไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา(*1*) และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ  
     (1)  เมื่อพวกเขาฟื้นคืนชีพในวันปรโลก พวกเขาจะไม่มีความกลัวใด ๆ ที่จะถูกลงโทษ และจะไม่เสียใจในสิ่งตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับ  
 
39. และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา และไม่เชื่อบรรดาโองการของเรานั้น ชนเหล่านี้คือชาวนรก โดยที่พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้นตลอดกาล  

 

30