ญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 10 (หะดีษที่ 3/1)

Submitted by dp6admin on Thu, 29/11/2018 - 07:50
หัวข้อเรื่อง
หะดีษที่ 3 อิสลามถูกสร้างบน 5 หลักคือ เปรียบเสมือนเสา(หลักของอาคาร) อธิบายโดย เชคริฎอ อะหมัด สมะดี
حكم تارك الصلاة โทษของการทิ้งละหมาด
حكم تارك الزكاة والصوم والحج - หุกุ่มของผู้ที่ทิ้งซะกาต ศีลอด ฮัจญฺ (เช่นเดียวกับผู้ทิ้งละหมาดไหม)
الأركان مرتبطة ببعضها
5 รุกุ่นนี้เกี่ยวพันกัน (เกี่ยวข้องประสานกัน อยู่ด้วยกัน)
สถานที่
บ้านทองทา บางกอกน้อย
วันที่บรรยาย
ขนาดไฟล์
10.60 mb
ความยาว
90.00 นาที
มีวีดีโอ
ไม่มี
รายละเอียด

الحدِيْثُ الـثّـَا لِثُ
عَنْ أَبِي عَبْدِالرَّحْمنِ عَبْدِ اللهِ بْنِ عُمَرَ بْنِ الْخَطَّابِ رَضِيَ اللهُ عَنْهُمَا  قَالَ : سَمِعْتُ رَسُولَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ  يَقُوْلُ :  
(( بُنِيَ الإِسْلاَمُ عَلَى خَمْسٍ  :  شَهَادَةِ أَنْ لاَ إِلهَ إِلاَّ اللهُ  وَأَنَّ مُحَمَّدًا وَسُوْلُ اللهِ ،  وَإِقَامِ الصَّلاَةِ ،  وَإِيْتَاءِ الزَّكَاةِ ، وَحَجِّ الْبَيْتِ ،  وَصَوْمِ رَمَضَانَ )) رَوَاهُ الْبُخَاريُّ وَمُسْلِمٌ .

จากอบูอับดุรเราะหฺมาน (อับดุลลอฮฺ บุตรของอุมัร บิน อัลค็อฏฏ๊อบ) ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า  :  
ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลลอฮฺ  กล่าวว่า “อิสลามถูกสร้างบน 5 หลัก คือ ปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดนั้นคือร่อซูล (ศาสนทูต / ผู้สื่อ) แห่งอัลลอฮฺ, ดำรงการละหมาด (เศาะลาฮฺ), จ่ายซะกาต, บำเพ็ญฮัจญฺ ณ บัยตุลลอฮฺ, ถือศีลอด (เศาว์ม) ในเดือนรอมฎอน”  หะดีษนี้บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม

- แต่ละสายรายงาน เรียงลำดับแตกต่างกัน
- เนื้อหาหะดีษนี้มีอยู่แล้วในหะดีษที่ 2 ฉะนั้นเนื้อหาหลักไม่ใช่การอธิบายแต่ละรุกุ่น แต่จะอธิบาย "“อิสลามถูกสร้างบน 5 หลัก" เป็นสำคัญ
- อิบินุร่อจับเริ่มอธิบายเรื่องการละหมาดเป็นอันดับแรก เพราะเป็นเรื่องที่อาจมีข้อสงสัยหรือขัดแย้งกัน

حكم تارك الصلاة  หุกุ่มของการทิ้งละหมาด
•    والمرادُ من هذا الحديث أنَّ الإسلام مبنيٌّ على هذه الخمس ، فهي كالأركان والدعائم لبنيانه ، وقد خرَّجه محمدُ بنُ نصر المروزي في " كتاب الصلاة ولفظه : (( بُني الإسلام على خمسِ دعائم)) فذكره.
•    وأما إقام الصَّلاة ، فقد وردت أحاديثُ متعددةٌ تدلُّ على أنَّ من تركها ، فقد خرج من الإسلام ، ففي " صحيح مسلم " عن جابر ، عنِ النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم - ، قال :(( بَيْنَ الرجل وبَينَ الشِّركِ والكفرِ تركُ الصلاة )) ،
 .
เกี่ยวกับเรื่องการละหมาด
มีหะดีษหลายบทหลายกระแสสื่อให้เข้าใจว่า ใครที่ละทิ้งละหมาดถือว่าได้ออกนอกกรอบอิสลาม
หะดีษ 1 ท่านนบีกล่าวว่า "ระหว่างคนๆหนึ่ง กับการเป็นมุชริกนั้น คือ การละหมาด

 وخرَّج محمد بنُ نصر المروزيُّمن حديث عُبادة بنِ الصامت، عَنِ النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم -، قال : (( لا تتركِ الصَّلاةَ متعمداً ، فمن تركها متعمداً ، فقد خرج من الملة )) .وفي حديث معاذ ، عنِ النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم - : (( رأسُ الأمر الإسلام ، وعمودُه الصَّلاةُ)) فجعل الصلاة كعمود الفسطاط الذي لا يقوم الفسطاطُ ولا يثبتُ إلا به ، ولو سقط العمودُ ، لسقط الفسطاط ، ولم يثبت بدونه
หะดีษ 2 ท่านนบีกล่าวว่า "โอ้อุบาดะฮฺเจ้าอย่าทิ้งละหมาดโดยเจตนา ใครตั้งใจทิ้งละหมาด ถือว่าได้ออกนอกศาสนา"
หะดีษ 3 ท่านนบีกล่าวว่า "หัวหน้าของกิจการต่างๆคือ อิสลาม, เสาหลักของอิสลามคือการละหมาด"
หะดีษนี้เปรียบการละหมาดประหนึ่งเสาของเต๊นท์ ซึ่งมันไม่สามารถกางอยู่ได้ เว้นแต่ต้องมีเสาที่มั่นคง...

อุละมาอฺส่วนมากเห็นว่า คนที่ทิ้งละหมาดไม่ใช่กาฟิร แต่ตามความเห็นศ่อฮาบะฮฺเห็นว่าไม่ใช่มุสลิม
ปัจจุบันให้ความสำคัญกับทัศนะนักวิชาการเหนือทัศนะของเศาะฮาบะฮฺ

•    وقال عمر : لا حظَّ في الإسلام لمن تركَ الصلاة ، وقال سعد وعليُّ بنُ أبي طالبٍ : من تركها فقد كفر . وقال عبد الله بنُ شقيق : كانَ أصحابُ رسول الله - صلى الله عليه وسلم - لا يَرَونَ من الأعمال شيئاً تركه كفر غير الصلاة .
อุมัร "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอิสลามเลย สำหรับคนที่บอกว่าเป็นมุสลิมแต่ไม่ละหมาด"
ซะอดฺและท่านอะลี "ใครทิ้งละหมาด เป็นกุฟุร"
อับดุลลอฮฺ อิบนีชะกี๊ก (ตาบิอีนรุ่นกลาง พบศ่อฮาบะฮฺ 20-30 ท่าน)) "เหล่าเศาะฮาบะฮฺไม่เห็นว่าอะไรเป็นกุฟรฺชัดๆ นอกจากการละหมาด"

•    وقد استدلَّ أحمد وإسحاق على كفرِ تاركِ الصَّلاةِ بكفر إبليسَ بترك السجودِ لآدمَ ، وتركُ السُّجود لله أعظم .
อิมามอะหมัดและอิสฮาก - การทิ้งละหมาดเป็นกุฟรฺ เทียบกับอิบลีสที่ทิ้งการสุจุด เมื่ออัลลอฮฺสั่ง เพราะหยิ่ง

ใครที่สมควรเป็นอิมาม ?
- มีความรู้ในกุรอานมากกว่า ถ้าเท่าเทียมกัน ก็ให้ดูว่าใครมีความรู้ในซุนนะฮฺมากกว่ากัน ถ้าเท่าเทียมกันอีก ก็ให้ดูว่าใครอพยพก่อน (มีบทบาทในการต่อสู้เพื่ออิสลามมากกว่า)

•    وفي " صحيح مسلم "  عن أبي هريرة ، عنِ النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم - ، قال : (( إذا قرأ ابنُ آدم السَّجدةَ فسجدَ ، اعتزل الشيطان  يبكي ويقول : يا ويلي أُمِرَ ابنُ آدمَ بالسُّجود ، فسجد ، فله الجنة ، وأُمرت بالسجود فأبيت ، فلي النار ))
ท่านนบี "เมื่อลูกหลานอาดัมได้อ่านกุรอานถึงสะจะดะฮฺหนึ่ง แล้วเขาได้สุจุด ชัยฏอนที่กำลังเฝ้าลูกหลานอาดัมขณะละหมาด มันจะห่างออกจากเขาและออกไปร้องไห้ และกล่วว่า หายนะประสบแก่ฉันแล้ว ลูกหลานอาดัมถูกสั่งให้สุจุด เขาก็สุจูดและจะได้เข้าสวรรค์ ส่วนฉันถูกสั่งให้สุจูด แต่ฉันไม่สุจุดก็จะต้องเข้านรก"
- อิมามอะหมัด คนที่รู้ว่าอัลลอฮฺให้ละหมาด แต่ไม่ยอมละหมาด ก็เช่นเดียวกับชัยฏอน
-----------

حكم تارك الزكاة والصوم والحج
หุกุ่มของผู้ที่ทิ้งซะกาต ศีลอด ฮัจญฺ (เช่นเดียวกับผู้ทิ้งละหมาดไหม)

•    وذهبَ طائفةٌ من العلماء إلى أنَّ منْ تركَ شيئاً من أركان الإِسلام الخمسة عمداً أنَّه كافر بذلك 
อุละมาอฺกลุ่มหนึ่งมีทัศนะว่า ใครทิ้ง 1 ใน 5 รุกุ่น ใครตั้งใจละทิ้ง ไม่ใช่มุสลิมเลย

•    وخرَّج الدَّارقطني وغيرُه من حديثِ أبي هريرة قال : قيل : يا رسولَ الله الحج في كلِّ عام ؟ قال : ((لو قلتُ : نعم ، لوجب عليكم ، ولو وجب عليكم ، ما أطقتُموه ، ولو تركتموه لكفرتُم )) .
15 มีผู้ถามท่านนบีว่า "เราต้องทำฮัจญฺทุกปีไหม ?
ท่านนบีตอบว่า "ถ้าฉันตอบว่า ใช่ ก็จะเป็นวาจิบสำหรับพวกเจ้า และถ้ามันเป็นวาจิบแล้ว พวกเจ้าก็ไม่ไหวหรอก และถ้ามันเป็นวาจิบแล้วพวกเจ้าไม่ทำ ก็เป็นผู้ปฏฺิเสธแล้ว"

•    وخرَّج اللالكائي من طريق مؤمَّل ، قال : حدثنا حمادُ بنُ زيد ، عن عمرو ابن مالك النُّكري ، عن أبي الجوزاء ، عن ابن عباس ، ولا أحسبه إلا رفعه قال :
(( عُرى الإسلامِ وقواعدُ الدِّين ثلاثةٌ ، عليهن أُسِّسَ الإسلامُ : شهادةُ أنْ لا إله إلاَّ الله وأنَّ محمداً رسولُ اللهِ والصَّلاةُ ، وصومُ رمضانَ . من ترك منهنَّ واحدةً ، فهو بها كافرٌ ، حلالُ الدَّمِ  وتجدُه كثير المال لم يحجَّ ، فلا يزالُ بذلك كافراً ولا يحلُّ دمه ، وتجده كثيرَ المال فلا يزكِّي ، فلا يزالُ بذلك كافراً ولا يحلُّ دَمُهُ )) ورواه قتيبة بنُ سعيدٍ ، عن حماد بنِ زيد موقوفاً مختصراً ، 
ورواه سعيدُ بنُ زيد أخو حماد ، عن عمرو بنِ مالك ، بهذا الإسناد مرفوعاً، وقال : (( من ترك منهنَّ واحدةً، فهو باللهِ كافرٌ ، ولا يُقبَلُ منه صرفٌ ولا عدلٌ ، وقد حلَّ دمُه ومالُه )) ولم يذكر ما بعده .

16 อิบนุอับบาส "บ่วงเชือกของอิสลาม(หลักของอิสลาม) 3 ประการ บนรากฐานนั้น อิสลามได้ถูกก่อขึ้นมา คือ ชะฮาดะฮฺ, ละหมาด, ศีอลดเดือนรอมะฎอน ใครทิ้ง 1 ใน 3 ก็ถือว่ากาฟิร ชีวิตของเขามไม่สามารถคุ้มครองได้ (ประหารได้) 
- บางคนฐานะดี แต่ไม่ทำฮัจญฺ เป็นกาฟิร แต่ประหารฃีวิตไม่ได้, มีทรัพย์สิน แต่ไม่ซะกาต เป็นกาฟิร แต่ยังประหารไม่ได้
- มีอีกสายรายงานที่บอกว่านี่เป็นคำพูดของท่านนบี และตอนท้ายมีข้อความ "ใครทิ้ง 1 ใน 3 (ชะฮาดะฮฺ ละหมาด ศีลอด) ถือว่าเป็นผู้ปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ การกระทำดีงามของเขาจะไม่ถูกตอบรับ ชีวิตและทรัพย์สินของเขาหะล้าล (ประหารและยึดทรัพย์ได้)"

•    وقد رُويَ عن عمر ضربُ الجزية على من لم يحجَّ، وقال : ليسوا بمسلمين. وعن ابن مسعود : أنَّ تارك الزَّكاة ليس بمسلم، وعن أحمد رواية : أنَّ ترك الصلاة والزكاة خاصَّةً كفرٌ دونَ الصيام والحج .
19 มีรายงานว่าท่านอุมัรตั้งใจจะเก็บญิซยะฮฺ(ภาษีที่เก้ฐจากต่างศาสนิก) จากคนที่อ้างว่าเป็นมุสลิม แต่ไม่ทำฮัจญ, อุมัรบอกว่า พวกนี้ไม่ใช่มุสลิม....
อิมามอะหมัด - ใครทิ้งละหมาดและซะกาตเป็ฯกุฟรฺ แต่ถ้าทิ้งศีลอดและฮัจญฺ ไม่ถึงขั้นเป็นกาฟิร

•    وقال ابن عيينة : المرجئة سَموا تركَ الفرائض ذنباً بمنزلة ركوبِ المحارم ، وليس سواء ؛ لأنَّ ركوب المحارم متعمداً من غير استحلالٍ معصيةٌ ، 
وتركَ الفرائض من غير جهلٍ ولا عذرٍ هو كفر . وبيان ذلك في أمر إبليس وعلماء اليهودِ الذين أقرُّوا ببعث النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم - بلسانهم ، ولم يعملوا بشرائعه.
- พวกมุรจิอะฮฺ ถือว่าการปฏิบัติคุณงามความดี ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอีมาน อีมานคือความศรัทธาเท่านั้น, ทิ้งละหมาดเหมือนทำซินา ถ้าทำ ไม่กระทบอีมาน -- มันไม่เหมือนกัน การทำชั่วโดยเชื่อว่ามันหะรอมนั้นคือกุฟุร...
- การทิ้งฟัรฎูเลย (ละหมาด ซะกาต ฮัจย) ทั้งที่รู้ว่าเป็นวาจิบและไม่มีอุปสรรค 
- ความประจักษ์ในเรื่องนี้ (รู้แต่ไม่ทำ) ปรากฏในเรื่องของอิบลีสและนักปราชญ์ยิว ที่เชื่อว่านบีมุฮัมมัดเป็นร่อซูล แต่ไม่ยอมรับศาสนาอิสลาม

สรุป
ตั้งใจทิ้งละหมาด เศาะฮาบะฮฺส่วนมากเห็นว่าเป็นกาฟิร
ทิ้งซะกาต ศีลอด ฮัจญฺ โดยไม่มีอุปสรรค มีทัศนะว่าเป็นกาฟิร
----------

الأركان مرتبطة ببعضها 
5 รุกุ่นนี้เกี่ยวพันกัน (เกี่ยวข้องประสานกัน อยู่ด้วยกัน)

•    . واعلم أنَّ هذه الدعائم الخمسَ بعضُها مرتبطٌ ببعض ، وقد روي أنَّه لا يُقبل بعضُها بدون بعض كما في "مسند الإمام أحمد" عن زياد بن نُعيم الحضرمي، قال: قال رسول الله - صلى الله عليه وسلم - : (( أربعٌ فرضهنّ الله في الإسلام ، فمن أتى بثلاثٍ لم يُغنين عنه شيئاً حَتّى يأتي بهنّ جميعاً: الصَّلاةُ، والزكاةُ، وصومُ رمضان، وحَجُّ البيتِ )) وهذا مرسل ، وقد روي عن زياد، عن عُمارةَ بن حزم، عنِ النَّبيِّ - صلى الله عليه وسلم – كما رُوي نحو هذا عن عطاء الخراساني  .
5 หลักนี้เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน มีรายงานบอกว่า จะไม่รับซะกาต ศีลอด ฮัจญฺ จนกระทั่งได้ทำอย่างอื่นด้วย (ละหมาด ชะฮาดะฮฺ)
ท่านนบีกล่าวว่า "4 ประการ อัลลอฮฺได้บัญญัติเป็นฟัรฎู ใครกระทำ 3 ประการก็จะไม่ได้ผล (ไม่เพียงพอ) จนกระทั่งต้องปฏิบัติทั้งหมดคือ ละหมาด ซะกาต ศีลอดเดือนร่อมะฎอน ทำฮัจญฺ" -- หะดีษมุรซัล มีการตกเศาะฮาบะฮฺ ระหว่างตาบิอีนกับท่านนบี เป็นหะดีษอ่อน

•    وقال ابنُ مسعود : من لم يزكِّ ، فلا صلاةَ له . ونفيُ القبولِ هنا لا يُراد به نفيُ الصِّحَّةِ ، ولا وجوب الإعادة بتركه ، وإنما يُراد بذلك انتفاء الرِّضا به ، ومدح عامله ، والثناء بذلك عليه في الملأ الأعلى ، والمباهاة به للملائكة .
29 อิบนิมัสอู๊ด - ใครที่ละหมาดแต่ไม่ซะกาต การละหมาดของเขาใช้ไม่ได้ ไม่ได้หมายรวมว่าการละหมาดนั้นโมฆะ และไม่ใช่ว่าต้องละหมาดใช้ (ละหมาดเศาะหฺ) แต่หมายถึงอัลลอฮฺไม่พอพระทัย ไม่สรรเสริญผู้กระทำ อัลลอฮฺจะไม่ยกย่องการทำดีของเขาต่อมะลาอิกะฮฺ

•    فمن قام بهذه الأركان على وجهها ، حصل له القبول بهذا المعنى ، ومن قام  ببعضها دُونَ بعضٍ ، لم يحصل له ذلك ، وإنْ كان لا يُعاقَبُ على ما أتى به منها عقوبةَ تاركه ، بل تَبرَأُ به ذمته ، وقد يُثابُ عليه أيضاً .
28 คนที่กระทำรุกุ่น 5 ประการนี้อย่างสมบูรณ์ อัลลอฮฺจะตอบรับการกระทำของเขา ใครได้ทำบางส่วน ทิ้งบางส่วน การตอบรับก็จะไม่เป็นเช่นนั้น 
- 27 ละหมาดแต่ไม่ซะกาต อัลลอฮฺไม่พอพระทัย การละหมาดนั้นก็ไม่มีประโยชน์ แต่อัลลอฮฺจะไม่ลงโทษเค้าเหมือนคนไม่ละหมาด ถือว่าได้ทำหน้าที่ละหมาดแล้วและอาจได้ผลบุญบางส่วน

•    ومن هنا يُعلَمُ أنَّ ارتكابَ بعضِ المحرماتِ التي ينقص بها الإيمانُ تكونُ مانعةً من قبول بعض الطاعات ، ولو كان من بعض أركان الإسلام بهذا المعنى الذي ذكرناه ، كما قال النَّبيُّ - صلى الله عليه وسلم - : (( مَنْ شرِبَ الخمرَ لم يقبل الله له صلاة أربعين يوماً )) حسنه الترمذي. وقال : (( مَنْ أتى عرَّافاً فصدَّقه بما يقولُ ، لم تُقبل له صلاة أربعين يوماً )) رواه أحمد ومسلم .
30 ทำบาปบางประการที่ทำให้อีมานลดลง อาจจะเป็นสาเหตุให้อัลลอฮฺไม่รับการงานดีก็ได้ เช่น กินดอกเบี้ย
เช่นที่นบีบอกว่า "ใครดื่มเหล้าแล้ว อัลลอฮฺจะไม่รับการละหมาดของเขา 40 วัน"
"ใครที่ไปหาหมอดูและเชื่อในสิ่งที่เขาพูด อัลลอฮฺไม่รับการละหมาดของเขา 40 วัน"

33 บาปที่เราทำ ย่อมมีผลกระทบต่อคุณงามความดี
- มุสลิมต้องมีจุดยืน
- อิมามบุคอรียฺถูกใส่ร้ายว่ามีอะกีดะฮฺของพวกมุอฺตะซิละฮฺ โดยอิมามอัซซุหฺรี อิมามมุสลิม(ซึ่งเป็นลูกศีษย์อิมามบุคอรียฺ) จึงประกาศไม่เป็นลูกศิษย์อัซซุหฺรี

 

WCimage
ญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 10 (หะดีษที่ 3/1)