พระหัตถ์ของอัลลอฮฺจะอยู่เหนือมือของเขา (15 รอมฎอน)

Submitted by dp6admin on Sun, 13/07/2014 - 16:24
 
เราเริ่มกุนูตในค่ำคืนนี้ (15 รอมฎอน) และปัจจุบันนี้เราก็ประสบสถานการณ์ที่ทำให้การกุนูตในละหมาดฟัรฎูเป็นที่ถูกบัญญัติด้วย คือสถานการณ์การเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิมเราที่กาซ่า อยากให้พี่น้องช่วยกันพูดและรณรงค์ นี่เป็นกุนูตนะวาซิล คือกุนูตในสถานการณ์ที่มีภัยอันตรายต่างๆ ที่มุสลิมประสบ โดยเฉพาะการเข่นฆ่าพี่น้องมุสลิม ตามที่มีบันทึกในบุคอรีและมุสลิม ท่านนบีเคยกุนูตในละหมาดที่อ่านเสียงดังเช่น ศุบฮิ มักริบ อิชาอฺ และมีบางรายงานว่ากุนูตทุกเวลา ในสถานการณ์ที่เผ่าซักวานฆ่าเศาะฮาบะฮฺนบีที่ส่งไปสอนศาสนาในตำบลของเขา พวกเขาได้ฆ่าเศาะฮาบะฮฺที่เป็นนักท่องจำกุรอ่านและผู้รู้ 70 กว่าคน
 
ซึ่งการขอดุอาอฺนะวาซิลแบบนี้เป็นการแสดงความเป็นเอกภาพ เป็นประชาชาติอิสลามเดียวกัน และขณะเดียวกันเศาะฮาบะฮฺก็จะขอดุอาอฺกุนูตใน 15 คืนหลังของเดือนรอมฎอน ซึ่งในกุนูตมีการขอดุอาอฺช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมและลงโทษผู้ปฏิเสธศรัทธา ผู้ต่อต้านอัลลอฮฺและศาสนาของพระองค์ด้วย เป็นบทบัญญัติที่พี่น้องมุสลิมของชุโกรต่ออัลลอฮฺตะอาลาที่ให้พวกเรามีความรู้สึกร่วมกับพี่น้องมุสลิมทั่วโลก มีใครที่ไหนเดือดร้อน เราต้องเดือดร้อนด้วย นี่คืออุปมาที่ท่านนบีกล่าวไว้ ความเป็นประชาชาติ อุมมะฮฺเดียวกันจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีความรู้สึกแบบนี้ นี่เป็นความรู้สึกสำคัญ วาญิบจะต้องมี ไม่มีก็ต้องฟื้นขึ้นมา ขุดคุ้ยขึ้นมา เพิกเฉยไม่ได้
 
พี่น้องมุสลิมกำลังถูกฆ่า ถูกรังแก แล้วเราเฉย ไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้ ต้องแสดงแล้วแต่ความสามารถ ซึ่งความสามารถก็แล้วแต่คน และมันจะส่งผลต่อการทำอิบาดะฮฺของเราด้วย อัลลอฮฺจะทรงช่วยเหลือมุสลิมที่มีอุดมการณ์แห่งความสามัคคี ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว
 
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า  يَدُ اللَّهِ فَوْقَ أَيْدِيهِمْ ในเมื่อเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มือจับมือกัน พระหัตถ์ของอัลลอฮฺก็จะอยู่เหนือมือของเขา นั่นหมายถึงอัลลอฮฺจะสนับสนุนเขา 
 
และไม่เพียงพอที่เราจะขอดุอาอฺเฉพาะในกุนูต มีดุอาอฺส่วนตัวด้วย เราขอดุอาอฺในตอนสุญูด ยามกลางคืน เวลาไหนก็ตาม ขอดุอาอฺให้เรา ครอบครัว ลูกหลาน ทรัพย์สิน ธุรกิจของเรา แล้วก็อย่าลืมขอให้พี่น้องของเรา นี่เป็นหน้าที่ที่ผมต้องพูด พี่น้องก็มีหน้าที่ต้องพูดต่อ พูดคุยให้พี่น้องที่ยังไม่รู้เรื่องของกาซ่าให้รู้
 
พี่น้องที่ติดตามข่าวก็จะรู้ ช่วงค่ำวันนี้ เสียชีวิตไปแล้วร้อยยี่สิบหกคน บาดเจ็บเกือบพันแล้ว มันมีบาดเจ็บหลายที่นะครับ ไม่ใช่กาซ่าที่เดียว ที่ซีเรียก็มีทุกวัน ที่อัฟกานิสถานก็ยังไม่หายจากความเจ็บปวด ที่พม่า หลายที่ ทั้งหมดนี่มันเป็นบาดแผล เป็นความเจ็บปวดที่เราต้องรำลึกเสมอ ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมของเรา
 
ยามที่เราได้ทำอิบาดะฮฺเดือนรอมฎอน ถือศีลอดอย่างสุขสบาย ละหมาดตะรอเวียหฺอย่างสุขสบาย นั่นเป็นความโปรดปรานของอัลลอฮฺตะอาลา ก็อย่าลืมพี่น้องของเราที่เดือดร้อน จะถือศีลอดก็ไม่ได้ จะละหมาดกิยามุลลัยลฺก็ไม่ได้ จะอยู่กับครอบครัวอย่างสุขสบายก็ไม่ได้
 
พี่น้องลองจินตนาการความรู้สึก พี่น้องที่กาซ่า นั่งทุกที่ก็รอจรวดระเบิดจะมาถล่มบ้าน ถล่มที่ทำงานของเรา ไปไหนก็รอ ทั้งกลางวันและกลางคืน 24 ชั่วโมง เป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างสาหัสนะครับ เจ็บปวดมาก
 
ความรู้สึกนี้ต้องทำให้เรามองในอนาคตด้วยว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อฟื้นฟูประชาชาติอิสลามของเรา ให้มีความแข็งแกร่ง มีพลัง มีอำนาจต่อรอง มีอำนาจบังคับศัตรูของเราให้เคารพและให้เกียรติชีวิตของเรา ตอนนี้เท่ากับชีวิตมุสลิมไม่มีเกียรติไม่มีราคา เพราะเราแตกแยก ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 
 
ขอดุอาอฺให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เปิดหัวใจผู้นำมุสลิม เปิดหัวใจมุสลิมทั่วโลกให้อยู่ในแนวทางของศาสนา ได้ปฏิบัติตามคำสั่งสอน ชัยชนะของอัลลอฮฺก็จะมาอย่างแน่นอน
 
นะศีหัตหลังละหมาดตะรอวีหฺ
โดย เชคริฎอ อะหมัด สมะดี
15 รอมฎอน 1435 (13 ก.ค.57)
ณ มุศ็อลลาอัซซุนนะฮฺ บางกอกน้อย