ตัฟซีร ซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ 2 (อายะฮฺ 1-3)

Submitted by dp6admin on Thu, 15/09/2022 - 11:46
หัวข้อเรื่อง
- ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐอิสลามกับต่างศาสนิกที่อยู่บนแผ่นดินอิสลาม
- การบิดเบือนคำสอนอิสลาม ที่เกิดขึ้นหลัง 911
- ความเชื่อที่ว่า "มุสลิมส่วนมากหัวรุนแรง" ?
- ความสำคัญของการศึกษาซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ - เพื่อชี้แจงการบิดเบือนหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักการอิสลาม
- อธิบายอายะฮฺ 1-3
- ให้เวลา 4 เดือนเพื่ออะไร ? 4 เดือนไหน ? นับตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
- ภารกิจของอิสลามคือ "ประกาศ" ให้ผู้คนรับรู้ก่อน
- การเริ่มใส่สระและจุดในอัลกุรอาน เกิดในยุคท่านอะลี เนื่องจากอายะฮฺที่ 3 มีผู้อ่าน "วะเราะซูลิฮี" ซึ่งหมายถึง และ(อัลลอฮฺตัดข้อผูกพันกับ)ร่อซูลด้วย -- ที่ถูกต้องคือต้องอ่านว่า "วะเราะซูลุฮู"
สถานที่
มุศ็อลลาไวท์แชนแนล
วันที่บรรยาย
18 เศาะฟัร 1444
วันที่บรรยาย
ขนาดไฟล์
74.00 mb
ความยาว
70.00 นาที
มีวีดีโอ
มี
รายละเอียด

بَرَاءَةٌ مِّنَ اللَّهِ وَرَسُولِهِ إِلَى الَّذِينَ عَاهَدتُّم مِّنَ الْمُشْرِكِينَ ‎﴿١﴾‏

9:1 (นี่คือประกาศ) การพ้นข้อผูกพันใดๆ (1)จากอัลลอฮและร่อซูลของพระองค์ แก่บรรดาผู้สักการะเจว็ด (มุชริกีน) ที่พวกเจ้า (2)ได้ทำสัญญาไว้ 

   (1) คือข้อผูกพันอันเป็นพันธสัญญาที่ร่อซูลได้กระทำไว้แก่พวกมุชริกนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พ้นจากการรับผิดชอบจากอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาละเมิดสัญญาอยู่เป็นประจำ
   (2) พวกเจ้า หมายถึง พวกมุอฺมิน ตามคำสั่งผู้ที่ทำสํญญานั้นคือท่านนะบีในฐานะที่เป็นผู้นำ แต่ก็หมายรวมถึงบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายกระทำด้วย ในการนี้จึงได้ระบุว่า บรรดามุอฺมินเป็นผู้กระทำ

"บรรดาผู้สักการะเจว็ด(มุชริกีน)" - เจาะจงมุชริกีนอาหรับในคาบสมุทรอาหรับ ไม่รวมศาสนิกอื่น (เช่น อะฮฺลุลกิตาบ คริสต์ ยิว พวกบูชาไฟ ฯลฯ) ในช่วงเวลานั้น -- แต่ในการนำไปใช้ เศาะฮาบะฮฺหมายรวมถึงต่างศาสนิกอื่นๆด้วย
"..ที่พวกเจ้าได้ทำสัญญาไว้" - ผู้ที่มีสัญญากับรัฐอิสลาม คือ
1- สัญญาสันติภาพทั่วไป ไม่กำหนดเวลา
2- กลุ่มที่ระบุเวลา เช่น สัญญาสันติภาพอัลฮุดัยบียะฮฺ มีกำหนด 10 ปี, กลุ่มที่มีสัญญาน้อยกว่า 10 ปี,...
อายะฮฺนี้ตัดข้อผูกพันกับทุกกลุ่ม (กลุ่มที่ไม่ได้ทำสัญญามีน้อยมาก)

ปี ฮ.ศ. 6 สัญญาสันติภาพฮุดัยบียะฮฺ
ปี ฮ.ศ. 8 ชาวกุเรชผิดสัญญา นบีจึงยกเลิกสัญญา และไปพิชิตมักกะฮฺ
ปี ฮ.ศ. 9 ประกาศตัดข้อผูกพัน (ในซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ)
อัลฆ็อดรฺ - การผิดสัญญา เป็นสัญลักษณ์ของมุนาฟิก

فَسِيحُوا فِي الْأَرْضِ أَرْبَعَةَ أَشْهُرٍ وَاعْلَمُوا أَنَّكُمْ غَيْرُ مُعْجِزِي اللَّهِ ۙ وَأَنَّ اللَّهَ مُخْزِي الْكَافِرِينَ ‎﴿٢﴾‏ 

9:2 ดังนั้นพวกท่าน(1) จงท่องเที่ยวไปในแผ่นดินสี่เดือน(2) และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกท่านนั้นมิใช่ผู้ที่จะทำให้อัลลอฮ์หมดความสามารถ(3)ก็หาไม่ และแท้จริงอัลลอฮ์จะทรงให้ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลายอัปยศ

   (1) คือใช้ให้บรรดาผู้ศรัทธาประกาศแแก่พวกมุชริกว่าจงท่องเที่ยว
   (2) หมายถึง เปิดโอกาสให้ใช้ชีวิตในแผ่นดินด้วยความปลอดภัยภายในสี่เดือน เพื่อพิจารณาตัวเอง ว่าจะกำหนดวิถีชีวิตของตนเองอย่างไร ถ้าจะอยู่ในสันติก็จงรับนับถืออิสลาม หรือไม่ก็อยู่ภายใต้กฎหมาย อิสลามโดยมีอิสระในการนับถือศาสนา แต่ถ้าจะตั้งตนเป็นผู้บ่อนทำลายก็จงเตรียมตัวไว้ เพื่อจะได้ไม่กล่าวหาฝ่ายมุสลิมว่าปฏิบัติการโดยไม่ประกาศให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้หลังจากครบกำหนดเวลาสี่เดือน นับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป คือวันที่ 10 ของชุลฮิจญะฮฺ ปีที่ 9 ของฮิจญเราะฮฺอันเป็นวันเชือดกุรุบาน และจะสิ้นสุดในวันที่ 10 เดือนเราะบีอุลอาคิร ปีที่ 10 ของฮิจญเราะฮฺ
   (3) คือหมดความสามารถที่จะลงโทษพวกท่านได้ จะเป็นการลงโทษในโลกนี้หรือปรโลกก็ตาม

"9:2 ดังนั้นพวกท่าน จงท่องไปในแผ่นดินสี่เดือน"
- ให้เวลา 4 เดือน เพื่ออะไร ? เพื่อให้ต่างศาสนิก(มุชริกีน)พิจารณาตนเองว่าจะอยู่บนแผ่นดินอิสลามอย่างไร จะอยู่ที่นี่ก็ต้องเข้ารับอิสลาม หรือจะอยู่ศาสนาเดิม แต่ต้องออกไปที่อื่น (สำหรับอะฮฺลุลกิตาบที่อยู่ในคาบสมุทรอาหรับ มีกฎหมายของเฉพาะสำหรับพวกเขา)
- 4 เดือนไหน ? นับตั้งแต่เมื่อไหร่ ? นบีให้ท่านอะลีไปประกาศ โดยท่านออกเดินทางเดือนเชาวาล ไปถึงมักกะฮฺเดือนซุลฮิจญะฮฺ อุละมาอฺเห็นว่าเริ่มนับตั้งแต่ 10 ซุลฮิจจะฮฺ (ซุลฮิจจะฮฺ-มุฮัรรอม-เศาะฟัร-ร่อบีอุ้ลเอาวัล) จบถึง 10 ร่อบีอุ้ลเอาวัล (รวม 4 เดือน)

"9:2 และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกท่านนั้นมิใช่ผู้ที่จะทำให้อัลลอฮ์หมดความสามารถก็หาไม่ และแท้จริงอัลลอฮ์จะทรงให้ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลายอัปยศ" -- หมายถึง อย่าคิดว่าเมื่ประวิงเวลาให้แล้วพวกท่านก็เร่ร่อนบนคาบสมุทรอาหรับ แล้วอัลลอฮฺจะติดตามไม่ได้ จะหนีกฎหมายอิสลามไปไม่ได้ อัลลอฮฺจะให้เขาอัปยศด้วน้ำมือของเขาเอง

وَأَذَانٌ مِنَ اللَّهِ وَرَسُولِهِ إِلَى النَّاسِ يَوْمَ الْحَجِّ الْأَكْبَرِ أَنَّ اللَّهَ بَرِيءٌ مِنَ الْمُشْرِكِينَ ۙ وَرَسُولُهُ ۚ فَإِنْ تُبْتُمْ فَهُوَ خَيْرٌ لَكُمْ ۖ وَإِنْ تَوَلَّيْتُمْ فَاعْلَمُوا أَنَّكُمْ غَيْرُ مُعْجِزِي اللَّهِ ۗ وَبَشِّرِ الَّذِينَ كَفَرُوا بِعَذَابٍ أَلِيمٍ ﴿٣﴾‏

9:3 และเป็นประกาศจากอัลลอฮฺ และรอซูลของพระองค์ แด่ประชาชนทั้งหลายในวันฮัจญ์อันใหญ่ยิ่ง(4)  ว่าแท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงพ้นข้อผูกพัน(5)จากมุชริกทั้งหลาย และรอซูลของพระองค์ก็พ้นข้อผูกพันนั้นด้วย 
และหากพวกเจ้า(6)สำนึกผิดและกลับตัว(7) มันก็เป็นสิ่งดีแก่พวกเจ้า และหากพวกเจ้าผินหลังให้ก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกเจ้านั้นมิใช่ผู้ที่จะทำให้อัลลอฮฺหมดความสามารถ(8)ได้ และจงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นเถิดด้วยการลงโทษอันเจ็บแสบ

   (4) คือวันแห่งการประกอบพิธีฮัจญ์ อันหมายถึงวันเชือดกุรบาน ซึ่งตรงกับวันที่ 10 เตือนซุลฮิจญะฮฺ ปีที่ 9 ของฮิจญเราะฮฺ
   (5) คือพันจากพันธสัญญาที่เป็นข้อผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น (6) หมายถึงพวกมุชริก (7) 1คือรับนับถืออิสลาม (8) คือหมดความสามารถที่จะลงโทษ

"จงประกาศ" ทำให้ผู้คนรับรู้ ถ้าไม่รับรู้ก็ไม่มีผล - ภารกิจของอิสลามคือ "ประกาศ" ให้ผู้คนรับรู้ก่อน
- คนที่ไม่รับรู้ หรือได้รับข้อมูลที่บิดเบือน ก็ถือว่ายังไม่รับรู้หลักการศาสนาที่แท้จริง
บุลูฆุลฮุจจะฮฺ - รับรู้, ได้ถึง
ฟะฮมุลฮุจจะฮฺ - เข้าใจหลักฐาน
เช่น เหล้าหะรอม - คนส่วนมากรู้, สิ่งเสพติดอื่นๆก็หะรอมด้วย - บางคนไม่รู้ ; การแบ่งมรดกกรณีผู้เสียชีวิต ไม่มีลูก ไม่มีพ่อแม่, ปู่จะมีสิทธิเหมือนพ่อแม่หรือไม่ ?

สังคมบ้านเราปัจจุบันคนไม่ได้รับรู้ข้อมูลหลักการศาสนาที่ถูกต้อง เมื่อเกิดเรื่องใหญ่ที่ผิดหลักการศาสนา เราต้องเห็นใจคนทั่วไปว่าอาจเกิดจากการไม่รับรู้หลักการศาสนาบางประการ เช่น การเดินพาเหรดที่มีป้ายสนับสนุนุ lgbtq
- วันฮัจญุลอักบัร (ฮัจญฺอันยิ่งใหญ่ คือ 10 ซุลฮิจจะฮฺทุกปี), ความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องนี้ ทำให้เกิดการลงทุนที่ไม่เกิดผลบุญมากอย่างที่เข้าใจ คือไปทำฮัจญฺในปีที่วันอะเราะฟะฮฺตรงกับวันศุกร์ เพราะเข้าใจว่าได้ผลบุญเท่ากับทำฮัจญฺ 70 ครั้ง (เช่นเดียวกับการทำอิซีกุโบร์)

- "แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงพ้นข้อผูกพันจากมุชริกทั้งหลาย และรอซูลของพระองค์ก็พ้นข้อผูกพันนั้นด้วย" เนื้อหาซ้ำอายะฮฺแรก ฮิกมะฮฺของการกล่าวข้อความซ้ำในอัลกุรอาน เพื่อแสดงถึงความสำคัญว่าเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ

- การเริ่มใส่สระและจุดในอัลกุรอาน ในยุคท่านอะลี อิบนุอบีฏอลิบ - ในยุคท่านอะลี อิบนุอบีต่อลิบ ตรงวรรค "วะเราะซูลุฮู" มีผู้อ่านผิดเป็น "วะเราะซูลิฮี" ทำให้ความหมายผิดมหันต์
อบุลอัสวัด อัดดุอะลี (ตาบิอีน, ทันยุคนบี แต่ไม่ทันเข้ารับอิสลามในยุคนั้น) ทราบเรื่องจึงไปรายงานท่านอะลี ท่านอะลีจึงให้เพิ่มสระและจุดในอัลกุรอาน

 at-tawbah   at-tawbah    at-tawbah

 

 

WCimage
ตัฟซีรซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ 2 (อายะฮฺ 1-3)