- อย่าแก้ตัวแทนให้แก่คนทำผิดหรือผู้บิดพลิ้ว
- บิดพลิ้ว คือบิดเบือน เปลี่ยนแปลงส้จธรรม
- เป็นหน้าที่ของเราต้องปกป้องความจริง(สัจธรรม) แม้เราจะได้รับผลกระทบก็ตาม
- อะฮฺลุซซุนนะฮฺเมื่อโต้เถียงกันในเรื่องศาสนา จะยกหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะสนับสนุนเหตุผลของเองหรือฝ่ายตรงข้ามก็ตาม ผิดกับชีอะฮฺ
إِنَّا أَنزَلْنَا إِلَيْكَ الْكِتَابَ بِالْحَقِّ لِتَحْكُمَ بَيْنَ النَّاسِ بِمَا أَرَاكَ اللَّـهُ ۚ وَلَا تَكُن لِّلْخَائِنِينَ خَصِيمًا ﴿١٠٥﴾
105. แท้จริง เราได้ให้คัมภีร์ลงมาแก่เจ้าเป็นความจริง เพื่อเจ้าจะได้ตัดสินระหว่างผู้คน ด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงให้เจ้ารู้เห็น และเจ้าจงอย่าเป็นผู้เถียงแก้ให้แก่ผู้บิดพลิ้วทั้งหลาย(*1*)
(1) อย่าได้เถียงแก้ต่างให้แก่พวกของเจ้าที่เป็นผู้บิดพลิ้ว กล่าวคือสาเหตุแห่งการลงมาอายะฮ์นี้นั้น เนื่องจากมุสลิมชาวอันซอรคนหนึ่งชื่อ ฏัวะมะฮ์ บินอุบัยริก ได้ขโมยเสื้อเกราะของชาวยิวคนหนึ่งซึ่งฝากไว้ที่บ้านของตน เมื่อยิวผู้นั้นสงสัยตนเขาจึงเอาเสื้อเกราะนั้นโยนเข้าไปในบ้านเพื่อนบ้านของเขาชื่อ อบูมุไลก์ เป็นชาวอันซอร ครั้นเมื่อได้ค้นบ้านกัน ก็พบว่าเสื้อเกราะอยู่ในบ้านอบูมุไลก์ แล้วฎัวะมะฮ์จึงกล่าวหาว่าอบูมุไลก์เป็นขโมย แล้วเรื่องก็ไปถึงท่านนะบี ﷺ โดยมีชาวอันซอรกลุ่มหนึ่งไปเป็นพยานให้แก่ฎัวะมะฮ์ ในการนี้ทำให้ท่านนะบีเกือบคล้อยตามไปแล้วว่า ฏัวะมะฮ์เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่แล้วอายะฮ์นี้ก็ถูกประทานลงมา ท่านนะบีจึงได้รู้ว่าขโมยตัวจริงนั้นคือ ฏัวะมะฮ์
وَاسْتَغْفِرِ اللَّـهَ ۖ إِنَّ اللَّـهَ كَانَ غَفُورًا رَّحِيمًا ﴿١٠٦﴾
106. และเจ้า(*1*)จงขอภัยโทษต่ออัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
(1) ท่านนะบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
وَلَا تُجَادِلْ عَنِ الَّذِينَ يَخْتَانُونَ أَنفُسَهُمْ ۚ إِنَّ اللَّـهَ لَا يُحِبُّ مَن كَانَ خَوَّانًا أَثِيمًا ﴿١٠٧﴾
107. และเจ้าจงอย่าโต้เถียงแทนบรรดาผู้ที่บิดพลิ้วต่อตัวของพวกเขาเอง(*1*)เลย แท้จริงอัลลอฮฺไม่ทรงชอบผู้ที่เคยบิดพลิ้ว ที่เคยทำบาป
(1) หมายถึง ฏัวะมะฮ์ และพวกของเขา
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 95 views