ตัฟซีร ซูเราะฮฺอัลอันฟาล 1 (อายะฮฺ 1)

بِسْمِ اللَّـهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ

يَسْأَلُونَكَ عَنِ الْأَنفَالِ ۖ قُلِ الْأَنفَالُ لِلَّـهِ وَالرَّسُولِ ۖ فَاتَّقُوا اللَّـهَ وَأَصْلِحُوا ذَاتَ بَيْنِكُمْ ۖ وَأَطِيعُوا اللَّـهَ وَرَسُولَهُ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ ﴿١﴾

18:1 พวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับบรรดาทรัพย์สินเชลย จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า บรรดาทรัพย์สินเชลยนั้นเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺและของรอซูล ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่าน และจงเชื่อฟังอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์เถิด หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา

- ความประเสริฐของการร่วมศึกษาในมะญาลิส
- ปัญหาการงดละหมาดมัสญิดช่วงโรคระบาด(โควิด19)
- ซูเราะฮฺ อัลอันฟาล เป็นหนึ่งใน 7 ซูเราะฮฺยาว (อัสสับอุฏฏิวาล) มี 75 อายะฮฺ - อัลมิอีน มีร้อยกว่าหรือน้อยกว่า 100 อายะฮฺ
- 36.5 พูดถึงการต่อสู้เชิงรูปธรรมหรือนามธรรมในโลกนี้ ระหว่างความเท็จกับความจริง การบริหารการต่อสู้ให้เกิดชัยชนะจะทำอย่างไร นี่เป็นอัตลักษณ์ของอิสลาม- มารยาทในการทำสงคราม ทำด้วยความจำเป็น 
- ญิฮาดมีเป้าหมายเพื่อให้สัจธรรมนั้นประจักษ์ ให้มีมนุษย์(ทั้งมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม)มีสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะในด้านการนับถือศาสนา
- 44.3 ไม่มีการบังคับในการนับถือศาสนา
فَلْيُؤْمِن وَمَن شَاءَ فَلْيَكْفُرْ
18:29 ดังนั้น ผู้ใดประสงค์ก็จงศรัทธา และผู้ใดประสงค์ก็จงปฏิเสธ
- 45.28 หะดีษที่ท่านนบีกล่าวว่า "ใครออกจากศาสนา ให้ประหารชีวิต" ท่านนบีกล่าวในช่วงที่เวลานั้นมีสองค่าย ผู้ศรัทธา(มุสลิม) กับผู้ปฏิเสธ(ไม่เอาอิสลาม และต่อต้านมุสลิม บังคับให้คนออกจากอิสลามด้วย)

- 53 อนุญาตให้เอาทรัพย์เชลยมาแบ่งกันได้ แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลักของการทำสงคราม -- 
-1.04 เป้าหมายของซูเราะฮฺ - เกิดความขัดแย้งในการแบ่งทรัพย์สินในหมู่เศาะฮาบะฮฺ (ปัจจุบันก็เกิดปัญหาจากทรัพย์สินเยอะมาก) 
อัลลอฮฺประทานซูเราะฮฺนี้มาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในการแบ่งทรัพย์เชลย (มี 3-4 อายะฮฺที่พูดเรื่องนี้ นอกนั้นเกี่ยวกับการดูแลโลกนี้ให้สัจธรรมประจักษ์)
- การศึกษาอัลกุรอานตามตัวบทและตัวอักษรอย่าเดียว ไม่ตะดับบุร(ใคร่ครวญ) เป็นสาเหตุให้ความผูกพันของมุสลิมกับกุรอานอ่อนลง
- 1.09 ชื่อซูเราะฮฺ ทำไมเรียก "อัลอันฟาล" ? - ทำให้ ศฮบ เข้าใจว่าทรัพย์เชลยไม่ใช่เรื่องสำคัญ มีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น คือบทเรียนจากมาตรการในการแบ่งทรัพย์เชลย
ในกุรอาน มีอายะฮฺเกี่ยวกับเชลยศึก ประมาณ 10 อายะฮฺ แต่นโยบายที่นบีปฏิบัติกับเชลยมีมากกว่านั้น นบีทำหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสังคมที่ไปพิชิต 
- 1.15 อายะฮฺนี้ถูกประทานมาหลังสงครามบัดรฺ

18:1 พวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับบรรดาทรัพย์สินเชลย จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า บรรดาทรัพย์สินเชลยนั้นเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺและของรอซูล  -

อัลลอฮฺให้นบีเป็นผู้ตัดสินใจในการแบ่งทรัพย์เชลย ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (แสดงว่าเป็นสิทธิของผู้นำ โดยมีการชูรอ แล้วผู้นำตัดสิน) ตอนนบีพิชิตฏออิฟ นบีปรึกษามุสลิมีนว่าจะปล่อยเชลยศึกมั้ย ก็ตกลงกันว่ายอมปล่อย
- แบ่งเป็น 5 ส่วน  4 ส่วนแบ่งให้นักรบ อีก 1 ส่วนผู้นำจัดการบริหาร 

1.18
18:1 ดังนั้นพวกท่าน "จงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด" และจงปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่าน 

- ทำอิบาดะฮฺในศาสนาเพื่อ "ความยำเกรง" (แบ่งถูกต้องตามหลักการศาสนาหรือไม่) ถ้าแบ่งทรัพย์เชลย(หรือแบ่งมรดก) แล้วไม่ยำเกรง ก็ไม่บรรลุเป้าหมาย
-  "และจงปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่าน" อย่าให้จิตใจเปลี่ยนไป เพราะการแบ่งทรัพย์สิน ได้ไม่เท่าคนอื่น ศฮบ. ชาวอันศอร ได้น้อยกว่าคนอื่น (ตลอดทุกสงคราม) ก็น้อยใจ นบีจึงบอกว่า พวกท่านได้อัลลอฮฺและร่อซูล - นบีจะดุอาอฺให้พวกเขา ชะฟาอะฮฺให้พวกเขา นบีให้น้อยเพราะอยากให้พวกเขาบริสุทธิใจในการสนับสนุนนบีและอิสลามจริงๆ และตลอดมาชาวอันศอรก็ไม่เคยมีคนจนเลยฃ

1.25
18:1 และจงเชื่อฟังอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์เถิด หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา