ผู้มีความคุชูอฺในละหมาด (สู่อีมานที่มั่นคง 44)

Submitted by dp6admin on Tue, 27/08/2019 - 10:10
เนื้อหา

“บรรดาผู้ศรัทธาจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน คือ บรรดาผู้ที่มีความนอบน้อมในขณะที่เขาละหมาด (ปฏิบัติศาสนกิจต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา)” (อัลมุอฺมินูน อายะฮฺที่ 1-2)

พี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพทั้งหลายครับ อัสสลามุอลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ 

อัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ระบุถึงคุณลักษณะของบรรดาผู้ศรัทธาที่จะประสบความสำเร็จในสูเราะฮฺอัลมุอฺมินูน ซึ่งมีดำรัสของอัลลอฮฺที่ตรัสไว้ว่า

قَدْ أَفْلَحَ الْمُؤْمِنُونَ ﴿١﴾ الَّذِينَ هُمْ فِي صَلَاتِهِمْ خَاشِعُونَ ﴿٢﴾
ความว่า “บรรดาผู้ศรัทธาจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน คือ บรรดาผู้ที่มีความนอบน้อมในขณะที่เขาละหมาด (ปฏิบัติศาสนกิจต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา)” (อัลมุอฺมินูน อายะฮฺที่ 1-2)

การที่บรรดามุอฺมินีนปฏิบัติศาสนกิจหรือประกอบอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลานั้น เป็นลักษณะหลักพื้นฐานของบรรดาผู้ศรัทธา เพราะฉะนั้นพี่น้องผู้ศรัทธาต้องเข้าใจว่า การที่มุอฺมินละหมาดนั้นต้องเป็นเรื่องปกติของเรา เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบรรดามุอฺมินีนที่จะรักษาการละหมาด เคารพให้เกียรติต่อการละหมาด อันเป็นศาสนกิจต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่ส่วนที่เป็นลักษณะอันดีงามที่เด่นสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาคือพวกเขาไม่ได้มีแต่การละหมาดเท่านั้น แต่การละหมาดของพวกเขานั้นจะมีลักษณะที่มากกว่าการปฏิบัติศาสนกิจของผู้อื่น

การละหมาดของมุอฺมินีน(ผู้ศรัทธา) เป็นการปฏิบัติศาสนกิจโดยมีจิตใจมุ่งสู่พระผู้เป็นเจ้า มีความนอบน้อมต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา มีวิญญาณแห่งการละหมาด ดังที่อุละมาอฺของเราพูดไว้ว่า “การนอบน้อม มีความรู้สึกต่ำต้อยต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา นั้นเป็นวิญญาณของการละหมาด” เพราะฉะนั้นการที่อัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้เริ่มคุณลักษณะของบรรดาผู้ศรัทธาในสูเราะฮฺนี้ด้วยการระบุถึงลักษณะการละหมาดของบรรดาผู้ศรัทธา

الَّذِينَ هُمْ فِي صَلَاتِهِمْ خَاشِعُونَ ﴿٢﴾
“23:2 บรรดาผู้ที่มีความนอบน้อมขณะที่เขากำลังละหมาด(ต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา)” 

สัญลักษณ์แห่งอีหม่าน เป็นสัญลักษณ์แห่งความตักวา (ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ) คือ บรรดาผู้ที่มีความสงบ (สะกีนะฮฺ) ในการละหมาด มีความนอบน้อมต่ำต้อยต่ออัลลอฮฺ (คุชูอฺ) ไม่เหมือนบรรดาผู้ที่ละหมาดแต่ไม่มุ่งสู่อัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ตั้งใจทำอิบาดะฮฺอย่างเคร่งครัด แต่ทำไปเพียงแค่ทำหน้าที่ให้รอดจากความรับผิดชอบ แต่บรรดาผู้ศรัทธานั้นจะมีความรู้สึกว่าการละหมาดของเขามีความสุขสบาย มีความสงบ ความสุขที่เขาต้องการนั้นจะอยู่ในการละหมาดดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สอนบรรดาเศาะหาบะฮฺ อันเป็นบทเรียนสำหรับบรรดาสาวกของท่านนบี สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง และสอนประชาคมโลกให้รู้สำหรับบรรดาผู้ศรัทธานั้นเมื่อละหมาดและปฏิบัติศาสนกิจต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา พวกเขาจะมีความสุข บรรดาเศาะหาบะฮฺได้กล่าวว่า

كان رسول الله صلى الله عليه وسلم إذا حزبه أمر فزع إلى الصلاة
ความว่า “เมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อประสบกับปัญหาหนึ่งปัญหาใด ท่านนบีจะรีบเร่งไปสู่การละหมาด” (บันทึกโดยอบูดาวูด)

และนี่คือบทเรียนที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้สอนบรรดาเศาะหาบะฮฺ เช่นที่ท่านนบีเคยพูดกับบิลาลซึ่งเป็นมุอัซซินของท่านนบี โดยกล่าวว่า

أرحنا بها يا بلال
ความว่า “โอ้บิลาล ขอให้เรามีความสุขสบาย ขอให้เราได้พักผ่อนด้วยการละหมาด” (บันทึกโดยอบูดาวูด)

หมายถึงความสุขหรือการพักผ่อนของท่านนบีนั้นจะอยู่ในการละหมาด ไม่เป็นภาระ ไม่เป็นสิ่งที่มีน้ำหนักมากที่จะแบกบนหลัง หรือลำบากที่จะปฏิบัติ แต่เป็นสิ่งที่จะทำให้มีความสุข การละหมาดนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้มีความสงบ มีสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจที่ดีงาม นั่นคือคุณค่าการละหมาดของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และบรรดาผู้ศรัทธาก็ต้องมีมุมมองเดียวกันนี้กับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
การละหมาดสำหรับเรานั้นต้องเป็นความสุขเท่านั้น การละหมาดที่เราต้องปฏิบัติทุกเวลาต้องมีความสงบ ความนอบน้อมต่อัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างสม่ำเสมอ เพราะนั่นเป็นคุณลักษณะของบรรดาผู้ศรัทธาที่ต้องมีความคุชูอฺต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา คุชูอฺด้วยทุกอวัยวะ ทั้งศีรษะ มือ แขน เท้า ขา และอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายของเรา และสำคัญที่สุดคือคุชูอฺด้วยหัวใจและจิตใจ มีคุชูอฺด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่จะนำมาถวายแก่อัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา เราจะถวายเวลา ทรัพย์สิน ร่างกาย ชีวิตให้แก่พระผู้เป็นเจ้า เพื่อแสดงความเป็นบ่าวต่อพระองค์ ดังที่พระผู้เป็นเจ้าของเราได้สั่งใช้ไว้ในดำรัสของพระองค์ที่ว่า

قُلْ إِنَّ صَلَاتِي وَنُسُكِي وَمَحْيَايَ وَمَمَاتِي لِلَّـهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ ﴿الأنعام: ١٦٢﴾
ความว่า “จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด แท้จริงการละหมาดของฉัน ศาสนกิจของฉัน ชีวิตของฉัน ความตายของฉัน เป็นกรรมสิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าของฉันเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคีกับอัลลอฮฺ” (อัลอันอาม อายะฮฺที่ 162)

ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา เราต้องมีเจตนารมณ์ที่จะถวายแก่พระผู้เป็นเจ้า การละหมาดก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น หากจะปฏิบัติศาสนกิจ หากจะละหมาดหรืออิบาดะฮฺชนิดใดก็ตาม เราต้องมีความคุชูอฺเพื่อแสดงความสมัครใจ เพื่อแสดงความเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่บุคคลที่ละหมาดแล้วไม่มีคุชูอฺนั้น แสดงว่าจิตใจของเขาไม่มีความสมัครใจ ไม่มีความจริงใจในการถวายอิบาดะฮฺของเขาแด่อัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา
พี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพทั้งหลายครับ การละหมาดเป็นกิจกรรมสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา เป็นเรื่องที่เราจะต้องให้ความสำคัญด้านการศึกษาถึงวิธีการละหมาดเช่นที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ปฏิบัติ ดังที่ท่านกล่าวว่า

صلوا كما رأيتموني أصلي
ความว่า “พวกท่านทั้งหลายจงละหมาดเสมือนที่พวกท่านเห็นฉันละหมาด”

แน่นอนครับว่าเราไม่ได้เห็นว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ละหมาดอย่างไร แต่เรามีข้อมูลมหาศาลจากบรรดาเศาะหาบะฮฺที่ได้แจ้งวิธีละหมาดของท่านนบีอย่างละเอียด ตั้งแต่ท่านยืนเตรียมเข้าสู่สภาวะการปฏิบัติศาสนกิจด้วยความคุชูอฺ ลักษณะตั้งแต่การยกมือกล่าวตักบีเราะตุลอิหฺรอมจนกระทั่งการนั่งเพื่อเลิกการละหมาดด้วยคำกล่าวว่า “อัสสลามุอะลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮฺ” ซึ่งมีรายละเอียดทุกขั้นตอนของการละหมาดถูกรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้เราจะนำมาเสนออย่างต่อเนื่อง เพื่อบ่งบอกถึงลักษณะอันดีงามและสวยงามในการปฏิบัติอิบาดะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม 

อันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่เราบรรดาผู้ศรัทธานั้นต้องศึกษากันอย่างเคร่งครัด เพราะข้อมูลที่เราจะนำมาจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตรงนี้จะทำให้เราปฏิบัติอิบาดะฮฺได้อย่างถูกต้อง โดยมีความคุชูอฺ ความนอบน้อมต่ออัลลอฮฺ สุบฮานะฮูวะตะอาลา อันจะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ตามคุณลักษณะของบรรดาผู้ศรัทธาที่จะประสบความสำเร็จ
ฝากกับพี่น้องไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ พบกันตอนหน้า อินชาอัลลอฮฺ วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ
 



เรียบเรียงจาก สู่อีมานที่มั่นคง ครั้งที่ 44, ชัยคฺริฎอ อะหมัด สมะดี
ผู้เรียบเรียง อบูซัยฟุลลอฮฺ-อุมมุซัยฟุลลอฮ

ผู้มีความคุชูอฺในละหมาด