18.3 มุสลิมจะแสวงหาคืนอัลก็อดรฺได้อย่างไร ?
ความจริงในคืนอันประเสริฐนี้ ผู้ใดถูกห้ามจากการได้รับเกียรติในคืนนี้ แน่นอนเขาจะถูกห้ามจากการได้รับความดีต่าง ๆ และจะไม่มีผู้ใดถูกห้ามจากความดีของมัน เว้นแต่ผู้ที่ถูกห้ามเท่านั้น ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเป็นซุนนะฮฺของมุสลิมที่จะต้องขวนขวายในการจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ โดยฟื้นฟูคืนอัลก็อดรฺให้มีชีวิตชีวาด้วยความศรัทธามั่นและหวังผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่ เพราะหากเขาปฏิบัติเช่นนั้นอัลลอฮฺ จะทรงอภัยโทษในความผิดของเขาที่ได้กระทำมาในอดีต
( مَنْ قَامَ لَيْلَةَ القَدْرِ إِيْمَانَاً وَاحْتِسَابَاً غُفِرَلَهُ مَا تَقَدَّمَ مَنْ ذَنْبِهِ ) رواه البخاري ومسلم
ความว่า “ผู้ใดธำรงรักษาคืนอัลก็อดรฺด้วยความศรัทธามั่นและด้วยความหวังในการตอบแทน เขาจะได้รับการอภัยจากบาปกรรมในอดีต”
ซุนนะฮฺให้มีการวิงวอนขอดุอาอฺมาก ๆ ในคืนวันนั้น มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺว่า
( قُلْتُ : يَا رَسُولَ الله . أَرَأَيْتَ إِنْ عَمِلْتُ أَيَّ لَيْلَةٍ لَيْلَةُ القَدْرِ ، مَا أَقُوْلُ فِيْهَا ؟ قَالَ : قُوْلِيْ : اللَّهُمَّ إِنَّكَ عَفُوٌّ تُحِبُّ العَفْوَ فَاعْفُ عَنِّي )رواه الترمذي وابن ماجة عن عائشة بسند صحيح
ความว่า “ฉันได้กล่าวกับท่านร่อซูลว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ท่านจะเห็นเป็นอย่างไรหากฉันรู้ว่าคืนไหน ๆ ก็ตามเป็นคืนอัลก็อดรฺ ฉันจะวิงวอนกล่าวว่าอย่างไร ? ท่านร่อซูลกล่าวตอบว่า “เธอจงกล่าวว่า อัลลอฮุมมะ อินนะกะ อะฟูวุน ตุฮิบบุลอัฟวะ ฟะอฺฟุ อันนียฺ (โอ้พระเจ้าแห่งข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงอภัย พระองค์ท่านชอบที่จะให้อภัย ดังนั้นขอพระองค์ทรงอภัยให้แก่ข้าพระองค์)”