อรัมภบท (หนังสือ การรับใช้ศาสนาฯ)

Submitted by dp6admin on Fri, 28/12/2018 - 12:32

بسم الله الرحمن الرحيم

الحمد لله الذي خلق لنا من أنفسنا أزواجا لنسكن إليها وجعل بيننا مودة ورحمة ، والصلاة والسلام الأتمان الأكملان على نبينا القائل : "خياركم خياركم لنسائكم" وعلى آله وأزكاجه وأصحابه وأتباعه بإحسان إلى يوم الدين

 

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาองค์เดียว ผู้ทรงสร้างพวกเราจากตัวของพวกเราให้เป็นคู่ครอง เพื่อพวกเราจะได้มีความสุขอยู่กับนาง และทรงให้มีความรักใคร่และความเมตตาระหว่างพวกเรา การวิงวอนและความศานติอย่างสมบูรณ์จงมีแด่ท่านนบีของเรา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ผู้ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า "คนที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่าน คือคนที่ดีที่สุดแก่ภรรยาของพวกท่าน" และจงมีแด่วงศ์วานของท่านและบรรดาสาวกของท่าน ตลอดจนผู้ที่ดำเนินตามแนวทางของท่านด้วยความดีจวบจนกระทั่งวันแห่งการตอบแทน

 
ในวงสังคมมุสลิมแห่งยุคโลกาภิวัฒน์นี้จะเห็นได้ว่าพิธีการสมรสของพี่น้องมุสลิมีน มีกิจกรรมและการเฉลิมฉลองกันในรูปแบบของชนต่างศาสนิก ยิ่งไปกว่านั้นเราจะพบอีกว่าการดำเนินชีวิตและการครองเรือนก็ได้เจริญรอยตามขนบธรรมเนียมและประเพณีของพวกที่มิใช่มุสลิม อันเป็นเหตุให้ประเพณีที่แปลกปลอมเข้ามาแพร่หลายสู่สังคมมุสลิมโดยที่เราไม่รู้สึกตัว ดังนั้นจึงจำเป็นแก่มุสลิมและมุสลิมะฮฺทุกคนจะต้องมีความใส่ใจในการเรียนรู้และให้ความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับมรรยาทและวัฒนธรรมอิสลาม เพราะสถาบันครอบครัวมุสลิมที่มีความสุขนั้นจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานดังกล่าว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสวงหาความโปรดปรานจากอัลลอฮฺตะอาลา และเชื่อฟังปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งสอนของท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
 
เป็นที่ตระหนักกันดีแล้วไม่ว่าในสังคมมุสลิมหรือสังคมอื่นๆ ว่าสถาบันครอบครัวเป็นเสาหลักแรกของการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานและเยาวชน เพื่อที่จะให้พวกเขาเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม ดังนั้นบิดามารดาจึงเป็นแหล่งกำเนิดแรกของลูกๆ ด้วยเหตุนี้การอบรมเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดีจึงเป็นหน้าที่ของบิดามารดา และการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาเรื่องของศาสนาเข้ามาเป็นบรรทัดฐานในการอบรมสั่งสอนตั้งแต่เยาว์วัย เพื่อที่เขาจะได้เติบโตขึ้นมาบนพึ้นฐานแห่งความเป็นอิสลาม เมื่อเขาได้รับการปลูกฝังความเป็นอิสลามตั้งแต่เริ่มแรกของชีวิตของเขาแล้ว ในระยะต่อมาบิดามารดาของเขายังต้องคอยประคับประคองวิญญาณอิสลามให้แก่เขาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งจะฝังลึกแน่นอยู่ในจิตใจของเขา อินชาอัลลอฮฺ หลังจากนั้นไม่ว่าเขาจะเข้าไปแยู่ในแวดวงใดของสังคม ความเป็นอิสลามของเขาก็จะประทับแน่นอยู่ในจิตใจของเขา และถ้าหากเขาให้ความสนใจและจิตใจหมกมุ่นอยู่กับศาสนาด้วยแล้ว แน่นอนการดำรงชีวิตของเขาก็จะดำเนินไปด้วยการรับใช้ศาสนา ซึ่งรายละเอียดในเรื่องนี้เราได้นำมาเป็นชื่อของหนังสือเล่มนี้ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านที่รักการอ่านบ้างไม่มากก็น้อย
 
อนึ่ง ข้อเขียนของหนังสือเล่มนี้ เราได้นำมาจากบางส่วนของต้นฉบับภาษาอาหรับชื่อ ثلاثون طريقة لخدمة الدين - สามสิบแนวทางเพื่อรับใช้ศาสน  ซึ่งเขียนโดย เชคริฎอ อะหมัด สมะดี พิมพ์ในประเทศอียิปต์สองครั้ง จำนวนทั้งสิ้น 10,000 เล่ม และได้นำมาจำหน่ายเผยแผ่ในซาอุดิอาระเบียด้วย
 
ในโอกาสที่เจ้าภาพได้จัดให้มีงานอันนิกาหฺระหว่าง เชคริฎอ อะหมัด สมะดี กับนางสาวอัสนา พงษ์พรรฦก ในวันเสาร์ที่ 6 ชะอฺบาน ฮ.ศ.1423 ตรงกับวันที่ 12 ตุลาคม 2545 นี้นั้น ทางเจ้าภาพได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มเล็กนี้ โดยย่อมาจากต้นฉบับภาษาอาหรับเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมในการอันนิกาหฺครั้งนี้ โดยขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานความจำเริญแด่คู่บ่าวสาว และทรงรวมคู่บ่าวสาวให้อยู่ในความดี และอยู่ในความคุ้มครองของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตลอดไปเทอญ อามีน
 
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته
เจ้าภาพ