หิญาบของมุอฺมินาต 1

Submitted by dp6admin on Tue, 01/12/2009 - 15:40

สำหรับมุสลิมีนและมุสลิมะฮฺที่แสวงหาความถูกต้องและความสมบูรณ์แห่งบทบัญญัติของอิสลามนั้น  การพัฒนาปรับปรุงความเป็นมุสลิมไม่มีวันสิ้นสุด เนื่องจากความศรัทธา(อีมาน) ศีลธรรม จริยธรรมของมุสลิมไม่มีข้อจำกัด สามารถพัฒนาเพิ่มพูนซึ่งความดีตลอดไปและศาสนาอิสลามได้ส่งเสริมในเรื่องการเพิ่มพูนอีมานอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้กล่าวไว้ในเรื่องนี้ว่า

لِيَزْدَادُوا إِيمَانًا مَّعَ إِيمَانِهِمْ 

ความว่า “เพื่อบรรดาผู้ศรัทธาจะได้เพิ่มพูนอีมานของพวกเขา” (อัลฟัตหฺ 48:4)

เช่น วันนี้เราเป็นมุสลิม ๒๐ เปอร์เซนต์ พรุ่งนี้เราจะต้องพยายามเพิ่มพูนอีมานของตนเองให้มากขึ้น  วันนี้เรามีข้อเกี่ยวข้องกับศาสนา ๒๐ ประเด็น พรุ่งนี้เราต้องหาเรื่องอื่นที่เป็นเรื่องของศาสนาเอามาเกี่ยวพันกับชีวิต ของเราให้มากขึ้น

ทั้งนี้ การพัฒนาหรือเพิ่มเติมอีมานของตนนั้น จะต้องไม่ปล่อยปละละเลยความสวยงามหรือความสง่างามแห่งอีมานเพราะเป็น เอกลักษณ์ที่จะบ่งบอกถึงอีมานของตน มีต่างศาสนิกบางคนเข้าใจว่าอีมานเป็นเรื่องที่ทำให้มุสลิมเป็นคนแข็งกระด้าง ไม่นิ่มนวล หรือไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แสดงว่าเรามีข้อบกพร่องในการที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจอิส ลามอย่างแท้จริงหรือมีความบกพร่องในการนำเสนอหลักการอิสลาม (ตราบใดที่คนนั้นไม่ได้เกลียดหลักการของอิสลาม)

คนดีคนที่เคร่งครัด ยึดมั่นในหลักการอย่างสมบูรณ์มีมากมาย แต่สังคมไม่ชอบหรือไม่นิยม ซึ่งข้อนี้ทุกคนต้องประเมินตนเอง หากการที่คนอื่นๆ ไม่ชอบเพราะเกลียดหลักการ  เช่น ไม่ชอบมุสลิมะฮฺคนนี้เหลือเกินเพราะคลุมหิญาบคลุมหน้าเป็นการอวดคนอื่นว่าเคร่งครัด การคิดเช่นนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้  หรือบางคนไม่ได้รังเกียจหลักการอิสลาม  แต่รังเกียจมารยาทหรือพฤติกรรมของเรา ซึ่งเราก็ต้องมาปรับปรุง ปรับนิสัยใจคอ พฤติกรรมและมารยาทของเราให้สอดคล้องกับมารยาทของอิสลาม

ปรัชญาของอิสลามสำหรับเรื่องการคลุมหิญาบนั้นคือ การประดับประดาของมุสลิมะฮฺ ทรรศนะของอิสลามต่อเรื่องต่างๆในโลกนี้อาจจะดูเหมือนแปลกประหลาดสำหรับคนที่ ไม่ศรัทธา เช่น คนอื่นมีความสุขกับการดูละคร การเล่นบอล แต่สำหรับมุสลิมจะมีความสนุกสนานในการทำความดีหรือทำสิ่งที่มีประโยชน์ และความสุขของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน เช่นเดียวกัน เมื่อมองดูสตรีที่คลุมหิญาบกับสตรีที่ไม่คลุมหิญาบ คนที่ไม่มีหลักการหรือใช้มุมมองอื่นที่ไม่ใช่อิสลาม ก็จะมองคนที่แต่งกายเปิดเผยเรือนร่างอย่างชื่นชมยินดี แต่ในทางกลับกัน เขาก็จะมองมุสลิมะฮฺที่คลุมหิญาบว่า ไม่ดี ไม่เข้าท่า นั่นคือมาตรฐานของแต่ละคน

ย้อนกลับมาดูมาตรฐานของเรา หากตระหนักแล้วว่า “หิญาบ” คือเครื่องประดับของมุสลิมะฮฺ มุสลิมะฮฺนั้นจะสวยงามและสง่างามต่อเมื่อรักษาหิญาบของตนเอง ซึ่งความสวยงามมิได้ขึ้นอยู่ที่การประดับประดา มุสลิมะฮฺยิ่งเคร่งครัดในการปิดบังความสวยงาม ยิ่งแสดงถึงความสวยงามของอีมานของเธอ ทั้งนี้ความสวยงามของการปกปิดไม่ได้อยู่ที่การปิดบังเอาเราะฮฺเท่านั้น หากแต่ความสวยงามหรือความสง่างามของมนุษย์นั้นมีหลายมิติที่แสดงสู่สายตาคนอื่นได้ ซึ่งเราต้องศึกษาว่าในหลักการศาสนาอิสลามมีมิติอะไรบ้างที่เป็นความสวยงามใน ตัวหิญาบของมุสลิมะฮฺ   เพราะไม่ใช่การคลุมหิญาบของมุสลิมะฮฺเท่านั้นที่แสดงความเคร่งครัด ความถูกต้อง ความดีงามของสตรี แต่มีอะไรที่อยู่ในหิญาบอันเป็นเอกลักษณ์ของมุสลิมะฮฺ  เปรียบเทียบกับการที่เราทานขนมที่หน้าตาสวยงามแต่ไม่มีรสชาติอะไรเลย นั่นแสดงว่าความเอร็ดอร่อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่ภาพที่เห็นอย่างเดียว แต่ความสวยงานหรือความเอร็ดอร่อยมันมีองค์ประกอบอื่น ที่เราสามารถค้นหาได้และทำเป็นมาตรฐานได้ในการประดับประดาชีวิตเรา

การประดับประดา(อัตตะหฺลิยะฮฺ) เราทราบกันมาว่าสตรีมุสลิมไม่สามารถประดับประดาร่างกายหรือหน้าตาของเธอด้วย การเอาเครื่องสำอางมาทาสีสันแต่งแต้มได้ แต่มีมิติในการที่จะประดับสภาพชีวิตของมุสลิมะฮฺให้น่ารักมีความสวยงาม โดยที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นซึ่งส่วนหนึ่งของร่างกายของเธอ การประดับประดาตรงนี้คือ มิติแห่งความสวยงามของบุคลิกภาพ ที่จะทำให้มุสลิมะฮฺนั้นเป็นผู้ที่มีบทบาทในสังคม มีมนุษยสัมพันธ์ มีมารยาทสมบูรณ์ และมีความละเอียดในการดำรงชีวิต ซึ่งขึ้นอยู่กับ ๒ ประเด็นคือ ความละเอียดและความสมบูรณ์ (ที่เราต้องสะสม) และ มารยาทและมนุษยสัมพันธ์ ซึ่งในเรื่องนี้อัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺ 195 ว่า

أَنْفِقُوا فِي سَبِيلِ اللَّهِ وَلا تُلْقُوا بِأَيْدِيكُمْ إِلَى التَّهْلُكَةِ وَأَحْسِنُوا إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ 

ความว่า “และพวกเจ้าจงบริจาคในหนทางของอัลลอฮฺ และอย่าโยนตัวของพวกเจ้าสู่ความหายนะ และจงปฏิบัติการงานของพวกเจ้าอย่างดี แท้จริงนั้น อัลลอฮฺนั้นทรงรักผู้ที่ปฏิบัติการงานของเขาอย่างดี  ”

มุสลิมทั่วไปนั้นละหมาด แต่หากว่าเราละหมาดอย่างดีสมบูรณ์ นั่นคือเอี๊ยะซาน(การกระทำอtมั้ลให้ดีให้สมบูรณ์)  ในการบันทึกของอิมามอะหมัด (เชคอัลบานียฺว่าหะซัน) ท่านหญิงอาอิชะฮฺได้รายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า 

إِنَّ اللهَ يُحِبُّ إِذَا عَمِلَ أَحَدُكُمْ عَمَلاً أَنْ يُتْقِنَهُ

“แท้จริงอัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงรักคนๆหนึ่งเมื่อได้ปฏิบัติการงานชิ้นหนึ่งหรืออย่างหนึ่งเขาจะปฏิบัติงานนั้นให้ดีให้สมบูรณ์ที่สุด”

หมายถึง เราจะมีการงานหรือกิจกรรมใดก็ตามพยายามทำให้ละเอียดให้ดีอย่างสมบูรณ์ รอบคอบ สวยงามที่สุด  อัลมุหฺซินีน (การมีอิหฺซาน) ในอายะฮฺข้างต้นคือคนที่ปฏิบัติอย่างดีสวยงาม สมบูรณ์ (ไม่ใช่ปฏิบัติอย่างเดียว) [ในศาสนาของเราประกอบด้วย ๑) อิสลาม    ๒) อีมาน    ๓) อิหฺซาน]

 


เรียบเรียงจากการบรรยายของ เชคริฎอ อะหมัด สมะดี

เรื่อง หิญาบของมุอฺมินาต