ดินแดนแห่งการอภัยโทษ (2)

Submitted by dp6admin on Sat, 07/11/2009 - 22:39

ผู้รู้ซึ่งเป็นผู้รู้ที่แท้จริงได้บอกกับฆาตกรคนนี้ว่าเตาบัตได้ แต่ต้องเตาบัตจริงๆ  ซึ่งภาคปฏิบัติแห่งการเตาบัตจะต้องปรากฏเป็นรูปธรรม ผู้รู้ก็ได้ให้เงื่อนไขที่จะบ่งชี้ว่าคนๆ นี้จริงใจที่จะเตาบัต ไม่ใช่เป็นเพียงการอ้างเท่านั้น  ผู้รู้จึงได้บอกกับฆาตกรนี้ว่า  ให้มุ่งไปสู่ดินแดนหนึ่งซึ่งมีกลุ่มชนที่เคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ไปทำความดีร่วมกับพวกเขา และอย่าไปอยู่ในแผ่นดินเดิมที่เคยทำความชั่วอีก เพราะมันเป็นแผ่นดินแห่งความชั่ว จงไปสู่แผ่นดินแห่งความดี แผ่นดินแห่งการอภัยโทษ

... قال : فخرج إلى القرية الصالحة ، فعرض له أجله في ( بعض ) الطريق ، ( فناء بصدره نحوها ) ، قال : فاختصمت فيه ملائكة الرحمة وملائكة العذاب ، قال : فقال إبليس : أنا أولى به ؛ إنه لم يعصني ساعة قط ! قال : فقالت ملائكة الرحمة : إنه خرج تائبا ( مقبلا بقلبه إلى الله ، وقالت ملائكة العذاب : إنه لم يعمل خيرا قط ) _ فبعث الله عز وجل ملكا ( في صورة آدمي ) فاختصموا إليه _ قال : فقال : انظروا أي القريتين كان أقرب إليه فألحقوه بأهلها ، ( فأوحى الله إلى هذه أن تقربي ، وأوحى إلى هذه أن تباعدي ) ، ( فقاسوه فوجدوه أدنى إلى الأرض التي أراد ( بشبر ) ، فقبضته ملائكة الرحمة ) ( فغفر له ) . قال : الحسن : لما عرف الموت احتفز بنفسه ( وفي رواية : ناء بصدره ) فقرب الله عز وجل منه القرية الصالحة ، وباعد منه القرية الخبيثة ، فألحقوه بأهل القرية الصالحة ) . ( إسناده صحيح ) . وقد أخرجه البخاري ومسلم وغيرهما . انظر الروايات المختلفة في الكتاب .

ฆาตกรคนนี้ก็ปฏิบัติ โดยตระเตรียมสัมภาระ เดินทางมุ่งสู่ดินแดนแห่งการอภัยโทษ เมื่อถึงกลางทางระหว่างดินแดนแห่งความชั่วที่ฆ่าคนมา 100 ชีวิต กับดินแดนที่ตั้งใจจะไปทำความดี ณ ดินแดนนั้น  เขาก็ตายโดยที่ยังไม่ได้ทำอิบาดะฮฺ หรือความดีใดๆ กับชาวบ้าน เพียงแต่ตั้งใจมุ่งที่จะไปทำความดี มะลาอิกะตุรเราะฮฺมะฮฺ (มะลาอิกะฮฺแห่งความเมตตา) ก็ลงมาบอกว่า เราต้องเอาวิญญาณของคนนี้ไปเสนอต่ออัลลอฮฺ เพราะเขาเป็นคนดีเตาบัตตัวแล้ว มุ่งที่จะไปหาอัลลอฮฺยังดินแดนแห่งความดีด้วยหัวใจ แต่มะลาอิกะฮฺอะซาบ (มะลาอิกะฮฺแห่งการลงโทษ) ก็ลงมาบอกว่า เขาไม่เคยทำความดีเลย บันทึกอะมั้ล(การกระทำ)ของเขามีแต่ความชั่ว เรามีสิทธิที่จะนำวิญญาณของคนชั่วไปเสนอต่ออัลลอฮฺ   อัลลอฮฺ

จึงได้ส่ง มะลาอิกะฮฺท่านหนึ่งแปลงรูปเป็นคนมาเป็นผู้ตัดสินระหว่าง 2 กลุ่ม  โดยให้วัดระยะทางระหว่าง 2 ดินแดน แล้วดูจุดกลางของชายคนนี้ว่าอยู่ใกล้ดินแดนไหนมากกว่า ถ้าอยู่ใกล้กับดินแดนแห่งความดีมากกว่าก็ถือว่า เป็นชาวเมืองดี  แต่ถ้าอยู่ใกล้กับดินแดนแห่งความชั่วมากกว่า ก็ถือว่าเป็นชาวเมืองชั่ว มะลาอิกะฮฺจึงได้วัดระยะทาง และปรากฏว่าชายคนนี้อยู่ใกล้กับดินแดนแห่งความดีมากกว่า มะลาอิกะฮฺแห่งความเมตตาจึงมีสิทธิยึดวิญญาณของเขา

บันทึกในศอเฮียะฮฺมุสลิม มีสำนวนระบุว่า  เมื่อวัดระยะทางระหว่าง 2 เมือง ปรากฎว่าชายคนนี้อยู่ใกล้กับดินแดนแห่งความดี ดินแดนแห่งการอภัยโทษ 1 ศอก จึงเรียกว่าเป็นชาวเมืองแห่งความดี  ซึ่งสอดคล้องกับหะดีษบุคอรีอีกบทหนึ่ง ที่ท่านนบี   ได้กล่าวว่า คนๆ หนึ่งอาจมีการกระทำภายนอกเป็นการกระทำของชาวนรก จนกระทั่งเหลืออีกเพียง 1 ศอกก็จะเข้านรกแล้ว แต่พระประสงค์ของอัลลอฮฺ   ที่ทรงช่วยเหลือให้เขาได้ทำความดีก่อนเสียชีวิต และเสียชีวิตในสภาพแห่งความดีจนได้เข้าสวรรค์เนื่องด้วยความดีนั้น

มีอีกสำนวนซึ่งเป็นจุดหมายในการบรรยายครั้งนี้ คือ สำนวนบันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม ว่า อัลลอฮฺ   ได้ทรงสั่งให้ดินแดนแห่งความชั่วขยายไกลออกไป และดินแดนแห่งความดีหดใกล้เข้ามา และเมื่อมะลาอิกะฮฺมาวัดระยะทาง จึงปรากฎว่า เขาอยู่ใกล้กับดินแดนแห่งความดี 1 ศอก เขาจึงได้รับการอภัยโทษ  ชี้ให้เห็นว่าการที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ที่จะให้คนหนึ่งคนใดประสบความสำเร็จในความดีของเขา แม้ว่าเขาจะมีข้อบกพร่อง อัลลอฮฺ   ก็จะทรงจัดการให้ ถึงขั้นที่ทรงสั่งดินแดนให้ชายคนนี้ได้เป็นชาวเมืองดีได้ จึงเป็นบทเรียนสำหรับเราว่า ถ้าเราตั้งใจทำความดี ตั้งใจเตาบัตตัว แม้มีอุปสรรคมากมายประการใดก็ตาม ให้มั่นใจว่า อัลลอฮฺจะทรงจัดการให้อย่างแน่นอน

อีกสำนวนหนึ่ง อิหม่ามนะวะวียฺได้กล่าวว่า เหตุที่วัดระยะทางได้ใกล้ดินแดนแห่งความดี 1 ศอก เพราะเขาคลานด้วยหน้าอกไปสู่ดินแดนแห่งความดี นั่นคือ แม้วิญญาณใกล้จะออกจากร่างแล้วแต่ตัวเองตั้งใจเตาบัตตัว เมื่อยังคงมีลมหายใจอยู่ ก็ไม่ละความพยายามในการมุ่งมั่นที่จะทำความดี

เป็นไปได้ว่า มีเหตุการณ์ทั้ง 2 เรื่องเกิดขึ้น คือ ตัวเองพยายามคลานไปถึงดินแดนแห่งความดี ดินแดนแห่งการอภัยโทษ และอัลลอฮฺ   ทรงสั่งให้ดินแดนแห่งความดีหดลง เพื่อให้สามารถวัดระยะทางได้ใกล้กว่า

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ย่อมแสดงให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนอยู่ในเดชานุภาพของอัลลอฮฺ    เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ    หากเรามีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำความดีตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺ   แล้ว สิ่งแวดล้อม บรรยากาศ และสรรพสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ก็จะถูกใช้ให้สนองต่อความประสงค์ของเรา

ดินแดนแห่งความดี คือส่วนหนึ่งจากปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้ชีวิตของเราอยู่ในความถูกต้อง ฉะนั้นผู้รู้จึงได้บอกฆาตกรคนนี้ว่า ถ้าตั้งใจเตาบัตตัวจริง ก็ต้องทิ้งดินแดนแห่งความชั่วนี้และมุ่งไปสู่ดินแดนแห่งความดี ซึ่งอัลลอฮฺ   ได้ทรงให้เขาเป็นชาวเมืองแห่งความดีแล้ว แม้เพียงมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะไปอยู่ในดินแดนแห่งความดี ทั้งๆ ที่เขายังไปไม่ถึงเมืองนั้นเลย