เราได้ใช้มันสมองของเราอย่างเต็มที่หรือยัง !! ??

Submitted by admin on Sun, 14/12/2014 - 22:25
อันที่จริงแล้วมันสมองของมนุษย์นั้นสามารถค้นหาคำตอบให้กับข้อสงสัยและปัญหาที่ยากสลับซับซ้อนต่างๆมากมาย แล้วเหตุใดมนุษย์กลับไม่สามารถที่จะค้นพบสัจธรรมง่ายๆนี้ได้???
 
มันสมองของมนุษย์ได้ค้นพบทฤษฏีและกฎเกณฑ์ต่างๆของจักรวาลมากมาย ทั้งทางด้านฟิสิกส์ ทางด้านเคมี ทางด้านดาราศาสตร์ ทำให้มนุษย์สามารถอธิบายสิ่งต่างๆที่ปรากฏรอบๆตัวมนุษย์ และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในจักรวาลได้ อันเป็นความภาคภูมิใจของมนุษยชาติทั้งมวล 
 
ฝนเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ดวงดาว ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ต่างๆเคลื่อนไหวอย่างไร?
สสารและสิ่งต่างๆรวมตัวกันได้อย่างไรบนโลกนี้?
ดวงดาวต่างๆในจักรวาลสามารถโคจรและอยู่ด้วยกันอย่างเป็นระบบได้อย่างไร?
อะตอมและโมเลกุลของสสารรวมตัวอย่างสมดุลได้อย่างไร?
 
มนุษย์ได้ใช้มันสมองอันปราดเปรื่องในการค้นพบคำตอบและข้อเท็จจริงอันน่าทึ่งของคำถามต่างๆเหล่านี้แล้ว แต่ไฉนเล่ามันสมองของมนุษย์กลับล้มเหลวที่จะค้นพบสัจธรรมและความจริงที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ ความจริงของการเกิดสรรพสิ่งต่างๆ ความจริงของชีวิต ความจริงที่ว่าผู้อ่อนแอไม่สร้างผู้แข็งแรงได้ ความจริงที่ว่าผู้ที่ขอความช่วยเหลือไม่สามารถช่วยเหลือผู้ที่ขอความช่วยเหลือด้วยกันได้ ความจริงที่ว่าผู้ที่ไม่มีนั้นไม่สามารถให้สิ่งต่างๆแก่ผู้ที่มีได้
 
เหตุใดความรู้ต่างๆที่มนุษย์มี ยังไม่สามารถทำให้มนุษย์ค้นพบหลักฐานอันชัดแจ้งของสัจธรรมได้?
 
จากทุกๆทฤษฏีของสรรพสิ่ง จากทุกๆการค้นพบ จากทุกๆการคิดค้น เหตุใดมนุษย์จึงยังคงห่างไกลจากการค้นพบความจริงที่ว่าโลกนี้ไม่ถาวร ความจริงที่ว่าจักรวาลนี้ถูกสร้างโดยผู้มีอำนาจ ความจริงที่ว่าชีวิตนี้ไม่จีรังยั่งยืน ความจริงที่ว่าทุกสรรพสิ่งต้องล่มสลาย ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพึ่งอำนาจของพระเจ้าที่ทรงเดชานุภาพ ไม่ใช่พึ่งรูปปั้นที่ประดิษฐ์โดยน้ำมือมนุษย์ ไม่ใช่พึ่งเทวรูปที่ถูกปั้นขึ้นโดยมือของศิลปิน ไม่ใช่พึ่งพามนุษย์ที่อ่อนแอที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นโดยจินตนาการของนักคิด แท้จริงแล้วมนุษยชาติต้องพึ่งพาพระเจ้าที่มีอำนาจสมบูรณ์ มีเดชานุภาพอันกว้างขวาง พระเจ้าที่ไม่มีข้อจำกัดและอุปสรรคใดๆที่จะขัดขวางความรู้และอำนาจบารมีของพระองค์ มนุษยชาติจำเป็นต้องพึ่งพาพระเจ้าที่มีอำนาจอันล้นเหลือและไร้ขอบเขต ต้องพึ่งพาพระเจ้าที่แท้จริงที่สามารถอภิบาลทุกสรรพสิ่งได้ในทุกกรณีทุกสถานการณ์ทุกเวลา
 
เรายอมรับแล้วว่าความมหัศจรรย์และการมีอยู่ของสรรพสิ่งทั้งหลายนั้นมิได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ ทฤษฏีและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่างๆได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าความบังเอิญนั้นเป็นสิ่งไร้สาระอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถที่จะปล่อยให้เรื่อง “การมีอยู่ของพระเจ้าและการสร้างสรรพสิ่ง” ผ่านไปเฉยๆโดยปราศจากการค้นหาคำตอบที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้
 
“ดังนั้น ผู้สร้างย่อมไม่เหมือนกับผู้ที่ถูกสร้าง พวกเจ้าไม่ใคร่ครวญดอกหรือ”(16:17)
 
เรื่องที่เกี่ยวข้อง