หะดีษที่ 33 การสาบานและเป็นพยาน (4)

Submitted by admin on Mon, 10/11/2014 - 12:18
الحَدِيثُ الثَّالِثُ وَالثَّلاَ ثُونَ 
 
عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ رضي اللهُ عنهُمَا : أَنَّ رسولَ الله صلى الله عليه وسلم قَالَ : 
(( لَوْ يُعْطَى النَّاسُ بِدَعْوَاهُمْ لادَّعَى رِجَالٌ أَمْوَالَ قَوْمٍ  وَدِمَاءَ هُمْ  ؛  لَكِنِ الْـبَيِّنَةُ عَلَى الْمُدَّعِي ، وَالْيَمِينُ عَلَى مَنْ أَنْكَرَ )). 
حديث حسَنٌ، رَوَاهُ الْبَيْهَقِيُّ وَغَيْرُهُ هَكَذَا ، وَبَعْضُهُ فِي الصَّحِيْحَيْنِ .
รายงานจากอิบนุอับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา (อับดุลลอฮฺและอับบาส เป็นเศาะฮาบะฮฺทั้งคู่) ว่า
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"ถ้าผู้คนได้รับตามคำเรียกร้อง ก็จะมักง่ายสำหรับหลายคนที่จะเรียกร้องสิทธิด้านทรัพย์สิน หรือสิทธิในการ(ตอบโต้)ละเมิดชีวิตด้วยเพียงข้ออ้าง,
แต่ทว่าผู้อ้างต้องมีหลักฐาน(บัยยินะฮฺ; คือพยาน, มุอัดดิล-ผู้รับรองพยาน)
กรณีที่ไม่หลักฐาน(หรือหลักฐานอ่อนหรือพยานขาดคุณสมบัติ,หรือผู้ถูกกล่าวปฏิเสธ) ให้ผู้ถูกกล่าวหาสาบาน(ว่าข้อกล่าวหานี้เป็นเท็จ)"
 
วีดีโอ