หัวข้อเรื่อง
"..จงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺอย่างเป็นพี่น้องกัน มุสลิมกับมุสลิมเป็นพี่น้องกัน..",
สิ่งที่จะทำให้เรารักกัน, สิทธิระหว่างมุสลิม, การเลี้ยงวะลีมะฮฺ, อะกีเกาะฮฺ,
ความสำคัญของการสลาม มารยาทในการให้และรับสลาม
สิทธิต่อพี่น้องมุสลิมได้แก่ รับสลาม, รับจาม, เยี่ยมเยียนผู้ป่วย, สนับสนุนญะนาซะฮฺ (กระบวนการญะนาซะฮฺทั้งหมด อาบน้ำจนกระทั่งฝัง), ตอบรับคำเชิญ(ทานอาหาร), เริ่มสลามเมื่อพบปะกัน, ให้มีความบริสุทธิ์ใจ(แม้อยู่)ลับหลัง
จงให้หะดียะฮฺกันและกัน
สิ่งที่จะทำให้เรารักกัน, สิทธิระหว่างมุสลิม, การเลี้ยงวะลีมะฮฺ, อะกีเกาะฮฺ,
ความสำคัญของการสลาม มารยาทในการให้และรับสลาม
สิทธิต่อพี่น้องมุสลิมได้แก่ รับสลาม, รับจาม, เยี่ยมเยียนผู้ป่วย, สนับสนุนญะนาซะฮฺ (กระบวนการญะนาซะฮฺทั้งหมด อาบน้ำจนกระทั่งฝัง), ตอบรับคำเชิญ(ทานอาหาร), เริ่มสลามเมื่อพบปะกัน, ให้มีความบริสุทธิ์ใจ(แม้อยู่)ลับหลัง
จงให้หะดียะฮฺกันและกัน
สถานที่
มุศ็อลลา White Channel
วันที่บรรยาย
7 มุฮัรรอม 1436
วันที่บรรยาย
วันที่อัพ
ขนาดไฟล์
24.80 mb
ความยาว
104.00 นาที
มีวีดีโอ
มี
คลิ้กเพื่อรับฟัง/ดาวน์โหลด (คลิ้กขวา บันทึกเป็น.../Save as...)
วีดีโอ
รายละเอียด
วีดีโอ
จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ท่านทั้งหลายอย่าได้อิจฉาริษยากันและกัน อย่าแย่งผลประโยชน์กัน อย่าโกรธกัน อย่าหันหลังให้แก่กัน อย่าซื้อขายโดยหักหลังซึ่งกันและกัน(ตัดหน้า) จงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺอย่างเป็นพี่น้องกัน มุสลิมกับมุสลิมเป็นพี่น้องกัน จะไม่อธรรมกัน จะไม่ทิ้งกัน และจะไม่โกหกกัน และจะไม่ดูถูกกัน “ตักวาอยู่ที่นี่” – ท่านนบีชี้ไปที่อก(หัวใจ)ของท่านและกล่าว 3 ครั้ง – เป็นความเลวเพียงพอแล้ว คนที่ดูถูกพี่น้องมุสลิม มุสลิมต่อมุสลิมทั้งหมดเป็นที่ต้องห้ามละเมิดเป็นอันขาด ได้แก่ เลือด(ทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต), ทรัพย์สมบัติของเขา และเกียรติของเขา”
หะดีษนี้บันทึกโดยมุสลิม
وفيه أمرٌ باكتساب ما يصيرُ المسلمون به إخواناً على الإطلاق ، وذلك يدخلُ فيه أداءُ حقوقِ المسلم على المسلم مِنْ رَدِّ السلامِ ، وتشميت العاطس ، وعيادة المريض ، وتشييع الجنازة ، وإجابةِ الدَّعوة ، والابتداء بالسَّلام عندَ اللِّقاء ، والنُّصح بالغيب .
สิทธิต่อพี่น้องมุสลิมได้แก่ รับสลาม, รับจาม, เยี่ยมเยียนผู้ป่วย, สนับสนุนญะนาซะฮฺ, ตอบรับคำเชิญ(ทานอาหาร), เริ่มสลามเมื่อพบปะกัน, ให้มีความบริสุทธิ์ใจ(แม้อยู่)ลับหลัง
وفي " الترمذي " ( ) عن أبي هُريرة ، عن النَّبيِّ ، قال : (( تَهادَوا ، فإنَّ الهديةَ تُذهِبُ وَحَرَ الصَّدر )) .
(หะดีษเฎาะดีฟ) “จงให้ฮะดียะฮฺ(ของขวัญ) แท้จริงการให้ฮะดียะฮฺจะลบล้างความโกรธในหัวใจ”
وخرَّجه غيرُه ( ) ، ولفظه : (( تهادُوا تحابُّوا )) .
“จงให้ฮะดียะฮฺกันและกัน เพื่อจะได้รักกันและกัน”
وفي " مسند البزار " ( ) عن أنس ، عن النَّبيِّ ، قال : (( تهادوا ، فإنَّ الهدية تَسُلُّ السَّخيمة )) .
จงให้ฮะดียะฮกัน เพราะมันจะถอดถอนความโสโครกภายใน (หะดีษเฎาะอีฟ)
ويُروى عن عمر بن عبد العزيز - يرفعُ الحديثَ - قال : (( تصافحوا ، فإنَّه يُذهِبُ الشَّحناء ، وتهادُوْا )) ( ) .
อุมัร อิบนุอับดิลอะซีซ “จงจับมือกัน(สลาม) เพราะมันจะทำให้สิ้นสุดซึ่งความโกรธแค้น และจงให้ฮะดียะฮฺกัน
وقال الحسن : المصافحةُ تزيد في الودِّ ( ) .
อัลหะซัน อัลบัศรี – การให้สลามโดยจับมือจะเพิ่มพูนซึ่งความรัก
وقال مجاهد ( ) : بلغني أنه إذا تراءى المتحابّان ، فضحك أحدُهما إلى الآخر ،
وتصافحا ، تحاتت خطاياهما كما يتحاتُّ الورقُ من الشجر ، فقيل له : إنَّ هذا ليسيرٌ
มุญาฮิด* – ข้าพเจ้าได้ยิน(จากเศาะฮาบะฮฺ)ว่า เมื่อสองคนรักกันในหนทางของอัลลอฮฺเจอกันแล้วดีใจ(ว่าจะได้ผลประโยชน์ด้านศาสนา)ยิ้มให้กัน แล้วจับมือสลามกัน ความผิดของเขาจะร่วงลง ประหนึ่งใบไม้ที่ร่วง
มุญาฮิดถูกถามว่า ง่ายเหลือเกิน (แค่นี้เหรอที่จะลบล้างความผิด)
มุญาฮิดตอบว่า ท่านคิดว่าง่ายหรือ อัลลอฮฺตรัสว่า
[*อัลมุค็อดเราะมีน – ตาบิอีนที่ทันยุคของนบี แต่ไม่ได้เห็นท่านนบี (มุญาฮิดเป็นตาบิอีนรุ่นกลาง)]
مِنَ العمل ، قال : تقولُ يسيرٌ والله يقولُ : لَوْ أَنْفَقْتَ مَا فِي الأَرْضِ جَمِيعاً مَا أَلَّفْتَ بَيْنَ قُلُوبِهِمْ وَلَكِنَّ اللهَ أَلَّفَ بَيْنَهُمْ إِنَّهُ عَزِيزٌ حَكِيمٌ ( ) .
8:63 และได้ทรงให้สนิทสนมระหว่างหัวใจของพวกเขา หากเจ้าได้จ่ายสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหมด เจ้าก็ไม่สามารถให้สนิทสนมระหว่างหัวใจของพวกเขาได้
---
รายงานจากอะบีฮุรอยเราะห์ จากท่านนบี กล่าวว่า :
"อาหารที่เลวที่สุดคืออาหารที่เลี้ยงในงานแต่งงาน ซึ่งห้ามผู้ที่อยากจะมา และเชิญผู้ที่ไม่อยากจะมา ผู้ใดไม่ตอบรับคำเชิญ แท้จริงเขาได้ฝ่าฝืนอัลเลาะห์ และรอซูลของพระองค์"
บันทึกโดยมุสลิม (ดูในมุสลิม หะดีษ เลขที่ 1432)
وخرَّج الإمام أحمد ( ) والترمذي ( ) من حديث الزُّبير بن العوَّام ، عن النَّبيِّ : (( دبَّ إليكم داءُ الأمم من قبلكم : الحسدُ والبغضاءُ ، والبغضاءُ هي الحالقة ، حالقة الدين لا حالقةُ الشعر ، والذي نفس محمد بيده لا تُؤمنوا حتى تحابُّوا ، أولا أُنبئكم بشيءٍ إذا فعلتموه تحابَبْتُم ؟ أفشوا السَّلام بينكم )) .
หะดีษนี้มีปัญหานิดนึง (อิลละฮฺ) จากอัซซุบัยรฺ อิบนุลเอาวาม (เป็นลูกพี่ลูกน้องกับท่านนบี สามีของอัสมา อิบนุอบีบักรฺ ท่านรับอิสลามเมื่ออายุ 13 ปี ได้รับฉายาว่า ฮะวารียี) มีลูกชายคนหนึ่งชื่อ อุรวะฮฺ เป็นลูกชายของมุฮาญิรีนคนแรกที่เกิดที่มะดีนะฮฺ
ท่านได้รายงานหะดีษจากนบีว่า “โรคของประชาชาติยุคก่อนได้คืบคลานมายังพวกท่านแล้ว อิจฉาริษยาและความโกรธ ความโกรธนั้นคือสิ่งที่มันโกน(โค่น)ศาสนา ขอสาบานด้วยพระผู้ที่วิญญาณของมุฮัมมัดอยู่ที่พระหัตถ์ของพระองค์ว่า พวกเจ้าจะไม่ศรัทธาจนกว่าจะรักกันและกัน พวกเจ้าอยากทราบมั้ย อะไรที่ทำแล้วพวกเจ้าจะรักกัน จงแพร่สลามกันและกัน(อย่างกว้างขวาง สม่ำเสมอ บ่อยครั้ง)"
- การทักทายด้วยมือโดยไม่กล่าวสลาม เป็นการทักทายของยิว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 116 views