ตัฟซีรซูเราะตุลมาอิดะฮฺ 19 (อายะฮฺ 19)

Submitted by admin on Wed, 20/11/2013 - 13:08
หัวข้อเรื่อง
แนวทางการทำงานดะอฺวะฮฺของท่านนบี, บิชาเราะฮฺ-แจ้งข่าวดี นิซาเราะฮฺ-ตักเตือน
สถานที่
มุศ็อลลาอัซซุนนะฮฺ บางกอกน้อย
วันที่บรรยาย
16 มุฮัรรอม 1435
วันที่บรรยาย
วันที่อัพ
ขนาดไฟล์
20.00 mb
ความยาว
112.00 นาที
มีวีดีโอ
มี
รายละเอียด

يَا أَهْلَ الْكِتَابِ قَدْ جَاءَكُمْ رَسُولُنَا يُبَيِّنُ لَكُمْ عَلَىٰ فَتْرَةٍ مِّنَ الرُّسُلِ أَن تَقُولُوا مَا جَاءَنَا مِن بَشِيرٍ وَلَا نَذِيرٍ ۖ فَقَدْ جَاءَكُم بَشِيرٌ وَنَذِيرٌ ۗ وَاللَّـهُ عَلَىٰ كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ ﴿١٩﴾

19. บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย ! แท้จริงร่อซูล ของเราได้มายังพวกเจ้าแล้ว โดยที่เขาจะได้ชี้แจงแก่พวกเจ้า ตามวาระสมัยที่ได้ว่างเว้นบรรดาร่อซูลมา ทั้งนี้เนื่องจากการที่พวกเจ้าจะกล่าวว่า มิได้มีผู้แจ้งข่าวดีคนใด และผู้ตักเตือนคนใดมายังพวกเรา แท้จริงได้มีผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าแล้ว และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

-- วีดีโอ --

 

---- บางส่วนจากการบรรยาย ---

ตัฟซีร ซูเราะห์ อัลมาอีดะห์ อายะห์ที่ 19
อธธิบายโดย ชัยคฺ ริฎอ อะหมัด สมะดี 
 
يَا أَهْلَ الْكِتَابِ قَدْ جَاءَكُمْ رَسُولُنَا يُبَيِّنُ لَكُمْ عَلَىٰ فَتْرَةٍ مِّنَ الرُّسُلِ أَن تَقُولُوا مَا جَاءَنَا مِن بَشِيرٍ وَلَا نَذِيرٍ ۖفَقَدْ جَاءَكُم بَشِيرٌ وَنَذِيرٌ ۗ وَاللَّـهُ عَلَىٰ كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ ﴿١٩
19. บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย! แท้จริงร่อซูล ของเราได้มายังพวกเจ้าแล้ว โดยที่เขาจะได้ชี้แจงแก่พวกเจ้าตามวาระสมัยที่ได้ว่างเว้นบรรดาร่อซูลมา ทั้งนี้เนื่องจากการที่พวกเจ้าจะกล่าวว่ามิได้มีผู้แจ้งข่าวดีคนใด และผู้ตักเตือนคนใดมายังพวกเรา แท้จริงได้มีผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนมายังพวกเจ้าแล้วและอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
 
*ในช่วงต้นของอายะห์นั้น อัลลอฮฺได้ใช้คำว่า ชาวคัมภีร์ในที่นี้อาจรวมถึงคัมภีร์อื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึงในอัลกุรอาน เพื่อเป็นการยืนยันว่าอัลลอฮฺนั้นได้ส่งรอซูลแก่มนุษยชาติแล้ว จึงทำให้มีทัศนะที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับว่าระหว่างนบีอีซา(อลัยฮิสลาม) กับ นบีมูฮัมหมัด(ซอลลอฮุอลัยฮิวซัลลัม)นั้นมีนบีหรือไม่ ในช่วง 620 ปีที่ว่างเว้น(*) 
 
ทัศนะที่ 1 มีทัศนะอยู่ว่ามีนบีอยู่ 4 ท่าน โดยอ้างหลักฐานจากรายงานของอิบนุ อับบาส(รอฏียัลลอฮุอันฮุม) ที่บอกว่า ระหว่างระหว่างนบีอีซา(อลัยฮิสลาม)กับ นบีมูฮัมหมัด(ซอลลอฮุอลัยฮิวซัลลัม)นั้น มีนบีอยู่ 4 ท่าน 3 ท่านถูกระบุในซูเราะห์ยาซีน “เมื่อเราส่งทูตสองคนไปยังพวกเขาพวกเขาได้ปฏิเสธเขาทั้งสอง ดังนั้น เรา (อัลลอฮฺ)จึงเพิ่มพลังด้วยการส่งทูตคนที่สามแล้วพวกเขา (บรรดาทูต) ได้กล่าวว่า“แท้จริงพวกเราถูกส่งมายังพวกท่าน[ยาซีน:14] “ส่วนคนที่ 4 ฉันไม่รู้ 
 
และอีกรายงานนึงจากอิบนุอับบาส เช่นเดียวกัน คือ มีนบีอยู่คนนึง ชื่อ คอลิด อิบนุ ซินาน  ที่มีอภิหาร ดับภูเขาไฟ แต่เสียชีวิตเพราะกลุ่มชนของท่านฝ่าฝืนแต่ทั้งสองรายงานนี้ อุลามาอฺกล่าวว่า เป็นฮาดีษเฏาะอีฟ 
แต่ก็มีอีกรายงานที่ สถานะฮาดีษฮะซัน คือ เคยมีชนเผ่านึง มาหาท่านนบี(ซอลฯ)เพื่อเข้ารับอิสลาม และได้เห็นผู้หญิงแก่คนนึ จึงเข้าไปถามนางถึงพ่อของนาง(คอลิด อิบนุ ซีนานนั้นเอง) และท่านนบี จึงกล่าวว่านี่คือ กลุ่มชนที่ผู้นำของเขา(นบี)ถูกทอดทิ้ง(ให้เสียชีวิต)
 
ส่วนทัศนะที่ 2 ก็กล่าวว่าไม่มีนบี อยู่ระหว่างนบีอีซา(อลัยฮิสลาม) กับ นบีมูฮัมหมัด(ซอลลอฮุอลัยฮิวซัลลัม)
               การเผยแพร่ของท่านนบี(ซอลฯ)นั้นบางครั้งจะเป็นการแจ้งข่าวดีอย่างเดียว ดังเช่นที่ว่า ใครเสียชีวิต โดยที่กล่าวไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ผู้นั้นเข้าสวรรค์หรือบางครั้งก็เป็นการเตือนอย่างเดียว เช่น ใครที่ใส่เสื้อผ้าเลยตาตุ่ม ตกนรกทั้งนี้ คำเตือนหรือแจ้งข่าวดี ในบางครั้งนั้น อาจไม่ได้หมายความตามตรงแต่เป็นการส่งเสริม มากกว่า.
 
(*) บางทัศนะบอกว่า 600 ปี อิบนุกาซีร กล่าวว่าทัศนะทั้งสองถูกต้อง คือ ถ้านับแบบสุริยะคติ ก็ได้ 600 ปี(ที่ว่างเว้น) แต่ถ้านับแบบจันทรคติ ก็ได้ 620 ปี
 
- ประเด็นอื่นๆ
ไม่มีใครที่สามารถวิจารณ์อุละมาอฺคนนั้นๆได้จนกว่าจะศึกษาที่มา ประวัติ สาเหตุของทัศนะนั้นๆมาอย่างดีแล้ว
 ระหว่างนบีอดัมกับ นบี นูฮฺ นั้น อิบนุอับบาสกล่าวว่า นาน 10 ศตรวรรต จึงเป็นเหตุให้เกิด ชิริกฺ ที่เริ่มต้นมาจาก การกระซิบของชัยตอนที่ให้สร้างอนุเสาวรีย์ให้กับคนดีคนนึง เพื่อเป็นการระลึกให้หมั่นทำความดีและนานๆเข้าจึงเลยเถิด กลายเป็นการสักการะบูชา
เรื่องของเอารัตของผู้หญิงนั้นมีอายะห์โดยเฉพาะที่ห้ามเกี่ยวกับเครื่องประดับของนางว่าให้ปกปิดแม้กระทั่งเสียงกระดิ่งที่เท้าของนางก็ห้าม แล้วนับประสาอะไรกับเครื่องประดับบนใบหน้า(เครื่องสำอาง) จะไม่ต้องห้าม.
 
ญะซากุมุลลอฮุค็อยร็อน kumobarick-achiroki