ประวัติของก๊อดยานียะฮฺโดยสังเขป
ก๊อดยานียะฮฺเป็นขบวนการที่ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ.1900 (พ.ศ.2443) ตามแผนของรัฐบาลอังกฤษในยุคนั้นที่ได้ยึดครองประเทศอินเดีย เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงสร้างความแตกแยกในหมู่มุสลิม ต่อต้านการทำญิฮาด และต่อต้านกลุ่มมุญาหิดีนที่ต้องการขับไล่อำนาจของอังกฤษออกไปจากอินเดีย โดยมี มิรซา ฆุลาม อะหมัด อัลก๊อดยานียฺ เป็นเครื่องมือ ที่ได้รับการสนับสนุนและการดูแลจากตัวแทนรัฐบาลอังกฤษในสมัยนั้นอย่างดี ทำให้เขาเป็นผู้สนับสนุนจักรวรรดินิยมและวัฒนธรรมอังกฤษอย่างเต็มที่
ความเชื่อของกลุ่มก๊อดยานียะฮฺ
- พวกก๊อดยานียฺเชื่อว่า พระเจ้านั้นถือศีลอด ละหมาด นอนหลับ บันทึก มีความผิด ร่วมเพศ
- พวกก๊อดยานียฺเชื่อว่า พระเจ้าของพวกเขาเป็นชาวอังกฤษ เพราะเขาพูดด้วยภาษาอังกฤษ
- นบีมุฮัมมัด
มิใช่นบีสุดท้ายของประชาชาติอิสลาม
- มิรซา ฆุลาม อะหมัด เป็นนบีที่ประเสริฐที่สุด โดยยึดเอาเรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานแห่งความเชื่อของพวกเขา
- ญิบรีลได้นำคำสั่งสอนจากพระผู้เป็นเจ้า(อิลฮาม)มายังมิรซาฯ เสมือนอัลกุรอานของท่านนบีมุฮัมมัด
- ก๊อดยานียฺเชื่อในหนังสือที่เป็นคำสอนของมิรซาฯ ว่าเป็นคัมภีร์ของพวกเขา อื่นจากอัลกุรอาน
- สาวกของมิรซา ฆุลาม อะหมัด เหมือนสาวกของนบี
- เมืองก๊อดยาน(เมืองเกิดของมิรซาฯ) เสมือนนครมะดีนะฮฺและมักกะฮฺ โดยถือว่าเมืองก๊อดยานเป็นดินแดนหะรอม เป็นกิบลัตและสถานที่ประกอบพิธีฮัจญฺของพวกเขา
- กลุ่มก๊อดยานียะฮฺ เรียกร้องให้ประชาชาติอิสลามยก เลิกการทำญิฮาดและเชื่อฟังผู้ปกครอง(รัฐบาลอังกฤษ) ตามคำสั่งสอนในอัลกุรอานที่ให้เชื่อฟังผู้นำ
- มนุษย์ทุกคนเป็นกาฟิร(ผู้ปฏิเสธศรัทธา) จนกว่าจะเชื่อในลัทธิก๊อดยานียฺ และใครก็ตามที่สมรสกับผู้ที่มิใช่ก๊อดยานียฺก็เป็นกาฟิรเช่นเดียวกัน
- มิรซา ฆุลาม อะหมัดนั้น เสมือนบุตรของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งกำเนิดโดยไม่มีบิดาเช่นเดียวกับ อีซา บุตรของมัรยัม (จากหนังสือ มาหิยัลกอดิยานียะฮฺ – ก๊อดยานียะฮฺคืออะไร, อบุลอะอฺลา อัลเมาดูดียฺ หน้า 163)
- สุราและสิ่งมึนเมา(เช่น ยาเสพติด) เป็นสิ่งหะล้าล
- มุสลิมที่ไม่ศรัทธาใน มิรซา ฆุลาม อะหมัด เป็นกาฟิรที่ละหมาดตามไม่ได้ ร่วมกิจกรรมและละหมาดญะนาซะฮฺให้ไม่ได้ และผู้ที่ไม่ศรัทธาจะพำนักในนรกตลอดกาล
- ไม่ให้ขออภัยโทษ(ดุอาอฺ)ให้มุสลิมที่มิใช่ก๊อดยานียฺ และไม่ให้ละหมาดญะนาซะฮฺให้ก๊อดยานียฺที่ละหมาดญะนาซะฮฺให้มุสลิม (จากหนังสืออัลกอดิยานียะฮฺ , เอี๊ยะฮฺซาน อิลาฮียฺ ซอฮีร หน้า 34-44)
ก๊อดยานียะฮฺเป็นมุสลิมหรือไม่ ?
ข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อของก๊อดยานียะฮฺข้างต้น ทุกคนที่มีความรู้ระดับพื้นฐานจะทราบอย่างดีว่า ก๊อดยานียะฮฺนั้นเป็นลัทธิที่อยู่นอกกรอบอิสลาม บุคคลที่เชื่อในลัทธิดังกล่าว จะเป็นบุคคลที่ปฏิเสธหลักอีมานที่สำคัญในอิสลาม ทำให้บุคคลนั้นเป็นกาฟิรในทัศนะของนักปราชญ์อิสลามทั้งปวง เพราะฉะนั้นการที่จะกล่าวหาบุคคลหนึ่งว่าเป็นก๊อดยานียฺจะต้องมีการสืบและตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะการกล่าวหาจะเป็นการยืนยันว่าบุคคลนั้นเป็นกาฟิร (คือมิใช่มุสลิม) ซึ่งไม่อนุญาตให้ละหมาดญะนาซะฮฺให้เขา หรือฝังในสุสานของมุสลิม
การพิสูจน์ว่าคนหนึ่งคนใดเป็นก๊อดยานียฺ ต้องมีมาตรฐานในทางวิชาการ เพราะความเชื่อของลัทธิของก๊อดยานียฺบางประเด็นก็เป็นความเชื่อที่ตรงกับกลุ่มหรือนิกายอื่น ถึงแม้ว่าความเชื่อนั้นจะมีลักษณะเดียวกันหรือแตกต่างกันใน บางประเด็น แต่การแยกแยะระหว่างความเชื่อของแต่ละกลุ่ม จำเป็นต้องมีมาตรฐานในการระบุข้อแตกต่างเหล่านี้
ส่วนลัทธิก๊อดยานียฺนี้ บรรดานักปราชญ์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ได้พูดถึงความเชื่อของลัทธิก๊อดยานียฺไว้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราต้องนำมาใช้ในการพิสูจน์ว่าคนหนึ่งคนใดเป็นก๊อดยานียฺหรือไม่ ดังนั้น เมื่อคนหนึ่งคนใดกล่าวหาบุคคลอื่นว่าเป็นก๊อดยานียฺ จึงจำเป็นต้องอ้างอิงตำราเกี่ยวกับลัทธินี้ ซึ่งมีอยู่หลายเล่ม เช่น
หนังสือ อัลเมาซูอะฮฺ อัลมุยัสสะเราะฮฺ (สารานุกรมศาสนา นิกาย และกลุ่มต่างๆ ในศาสนาอิสลาม, WAMY หน้า 419-23) ได้ระบุ สาเหตุที่ทำให้ มิรซา ฆุลาม อะหมัด เป็นกาฟิร คือ
1. การอ้างตนเป็นนบี
2. การยกเลิกบทบัญญัติญิฮาด(ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ)
3. การยกเลิกการประกอบพิธีฮัจญฺ ณ นครมักกะฮฺ โดยเปลี่ยนให้ไปประกอบพิธีฮัจย์ที่เมืองก๊อดยาน
4. การเปรียบเทียบอัลลอฮฺเสมือนมนุษย์
5. การเชื่อใน “อัตตะนาซุคฺ” (การเวียนว่ายตายเกิด) และ “อัลหุลูล” (อัลลอฮฺทรงอยู่ในร่างกายมนุษย์หรือวัตถุต่างๆ)
6. การเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้ามีบุตร คือตัวมิรซาเอง
7. ปฏิเสธค็อตมุนนุบูวะฮฺ (ไม่มีนบีหลังท่านนบีมุฮัมมัด )
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า สาเหตุที่ทำให้กลุ่มก๊อดยานียะฮฺตกศาสนา คือประเด็นที่เกี่ยวกับหลักอีมานโดยตรง นักปราชญ์ที่ชี้แจงถึงลัทธิก๊อดยานียฺมักจะไม่ระบุรายละเอียดหลักความเชื่อทั้งหมดของก๊อดยานียฺ เนื่องจากความเชื่อของลัทธิก๊อดยานียฺบางเรื่อง ก็ตรงกับของนิกายอื่น เช่น มุอฺตะซิละฮฺ ก๊อดรียะฮฺ มุรญิอะฮฺ ฯลฯ ดังนั้น การจะตรวจสอบว่าบุคคลใดเป็นก๊อดยานียฺ จึงจำเป็นต้องระบุข้อแตกต่างระหว่างก๊อดยานียะฮฺและนิกายอื่นๆ
หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่มีชื่อเสียง และ อาลี อีซา ได้อ้างถึงด้วยคือ มาหิยัลกอิดยานียะฮฺ ของ เมาลานา อบุลอะอฺลา อัลเมาดูดียฺ ในหน้า 68-105 ท่านได้ระบุสิ่งที่ทำให้กลุ่มก๊อดยานียะฮฺออกนอกประชาชาติอิสลาม คือ ความเชื่ออันประหลาดของพวกเขาต่อเรื่อง “ค็อตมุนนุบูวะฮฺ” หมายถึง การเชื่อว่า มิรซา ฆุลาม อะหมัด เป็นนบี
ท่านอุซตาส เอียะหฺซาน อิลาฮี ซอฮีร นักปราชญ์จากประเทศปากีสถาน ที่มีความเชี่ยวชาญในนิกายและกลุ่มต่างๆ ท่านมีตำราหลายเล่มที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้เขียนหนังสือ อัลกอดิยานียะฮฺ ซึ่งเป็นการวิจัยตำรา เอกสาร วารสาร รวมทั้งคำพูดของกลุ่มก๊อดยานียฺ ในหัวข้อ “หลักเชื่อมั่นของก๊อดยานียะฮฺ” (หน้า 94-123) ท่านได้กล่าวว่า สาระสำคัญที่ทำให้ก๊อดยานียฺอยู่นอกกรอบอิสลามคือ ความเชื่อต่อนบีอื่นหลังจากท่านนบีมุฮัมมัด คือ มิรซา ฆุลาม อะหมัด
เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ.1953 บรรดาอุละมาอฺและผู้รู้จากหลายกลุ่มทั่วปากีสถานและบังกลาเทศ (ก่อนแยกดินแดน)ได้จัดประชุมที่เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน มีการปรึกษาหารือในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะร่างขึ้นสำหรับประเทศปากีสถาน และมีมติเอกฉันท์ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้ “เรา (นักปราชญ์ประเทศปากีสถาน) เรียกร้องรัฐสภาให้ถือว่า กลุ่มชนที่เชื่อและเห็นว่า มิรซา ฆุลาม อะหมัด อัลกอดยานียฺ เป็นผู้นำศาสนา เป็นชนกลุ่มน้อยที่มิใช่มุสลิม เสมือนชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในประเทศ และกำหนดให้มีผู้แทนคนหนึ่งจากกลุ่มเหล่านี้ในรัฐสภา” (มาหิยัลกอดิยานียะฮฺ , หน้า 68-69)
จากข้อความต่างๆที่ระบุข้างต้น บ่งบอกอย่างชัดเจนว่ากลุ่มก๊อดยานียะฮฺนี้มิใช่มุสลิม และประเด็นที่ทำให้กลุ่มก๊อดยานียฺมิใช่มุสลิมก็คือ หลักเชื่อมั่นที่ค้านกับหลักศรัทธาของอิสลามโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะ อะกีดะตุค็อตมินนุบูวะติ (การเชื่อว่านบีมุฮัมมัด เป็นนบีท่านสุดท้าย)
ตราบใดก็ตามที่เราเห็นคนหนึ่งคนใดมิได้มีความเชื่อ เช่นนี้หรือเขาได้ประณาม มิรซา ฆุลาม อะหมัด หรือประกาศ ว่าก๊อดยานียะฮฺเป็นกลุ่มที่อยู่นอกกรอบอิสลามหรือประกาศ ตัดความผูกพัน(บะรออะฮฺ)กับกลุ่มก๊อดยานียะฮฺ เราก็มั่นใจได้ว่าบุคคลเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก๊อดยานียะฮฺ ด้วยประการทั้งปวง (อิบรอฮีม กุเรชี ได้ประณามกลุ่มก๊อดยานียะฮฺและความเชื่อของลัทธินี้ในเอกสารหลายฉบับ ซึ่งจะนำมาเสนอในหัวข้อต่อไป)
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 475 views