ญามิอุลอุลูมวัลหิกัม ครั้งที่ 182 (หะดีษที่ 35/4 รัก-เกลียดเพื่ออัลลอฮฺ)

Submitted by admin on Fri, 10/10/2014 - 14:17
หัวข้อเรื่อง
"อย่าโกรธกัน...จงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺอย่างเป็นพี่น้องกัน",
ความขัดแย้งระหว่างผู้รู้และคำแนะนำสำหรับผู้ตาม,
รัก-เกลียดเพื่ออัลลอฮฺ?,
ความบริสุทธิ์ใจต่อตนเอง,
สถานที่
มุศ็อลลา White channel
วันที่บรรยาย
16 ซุลฮิจญะฮฺ 1435
วันที่บรรยาย
วันที่อัพ
ขนาดไฟล์
20.30 mb
ความยาว
86.00 นาที
มีวีดีโอ
มี
รายละเอียด

الحديث الخامس والثلاثون 
 
عَنْ أَبي هُريرةَ رضي الله عنه ، قالَ : قالَ رسول الله صلى الله عليه وسلم  : (( لا تَحَاسَدُوا ، ولا تَنَاجَشوا ، ولا تَبَاغَضُوا ، ولا تَدَابَرُوا ، ولا يَبِعْ بَعضُكُمْ على بَيعِ بَعضٍ ، وكُونُوا عِبادَ اللهِ إِخْواناً ، المُسلِمُ أَخُو المُسلم ، لا يَظلِمُهُ ولا يَخذُلُهُ ، ولا يَكذِبُهُ ، ولا يَحقِرُهُ ، التَّقوى هاهُنا )) ، - ويُشيرُ إلى صدرِهِ ثلاثَ مرَّاتٍ - (( بِحَسْبِ امرئٍ مِنَ الشَّرِّ أنْ يَحقِرَ أخَاهُ المُسلِمَ ، كُلُّ المُسلمِ على المُسلِمِ حرامٌ : دَمُهُ ومَالُهُ وعِرضُهُ )) . رواه مسلم .
จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ท่านทั้งหลายอย่าได้อิจฉาริษยากันและกัน อย่าแย่งผลประโยชน์กัน อย่าโกรธกัน อย่าหันหลังให้แก่กัน  อย่าซื้อขายโดยหักหลังซึ่งกันและกัน(ตัดหน้า) จงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺอย่างเป็นพี่น้องกัน มุสลิมกับมุสลิมเป็นพี่น้องกัน จะไม่อธรรมกัน จะไม่ทิ้งกัน และจะไม่โกหกกัน และจะไม่ดูถูกกัน “ตักวาอยู่ที่นี่” – ท่านนบีชี้ไปที่อก(หัวใจ)ของท่านและกล่าว 3 ครั้ง – เป็นความเลวเพียงพอแล้ว คนที่ดูถูกพี่น้องมุสลิม มุสลิมต่อมุสลิมทั้งหมดเป็นที่ต้องห้ามละเมิดเป็นอันขาด ได้แก่ เลือด(ทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต), ทรัพย์สมบัติของเขา และเกียรติของเขา”
หะดีษนี้บันทึกโดยมุสลิม

วีดีโอ

وخرَّج الإمام أحمد ( ) وأبو داود ( ) والترمذيُّ ( ) من حديث أبي الدرداء ، عن النَّبيِّ  ، قال : (( ألا أخبركم بأفضلَ مِنْ درجة الصلاة والصيام والصَّدقة ؟ )) قالوا : بلى يا رسول الله ، قال : (( صلاحُ ذاتِ البينِ ؛ فإنَّ فسادَ ذات البين هي الحالِقةُ )) .

ท่านนบีกล่าวว่า “พวกท่านอยากให้ข้าพเจ้าบอกไหม อะไรที่ดีกว่าละหมาด ถือศีลอด และเศาะดะเกาะฮฺ ?” เศาะฮาบะฮฺบอกว่า ครับ โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ
ท่านนบีตอบว่า “ การที่มีสองคนทะเลาะ และการทำให้เขาคืนดีกัน, เพราะการที่ทะเลาะเบาะแว้งกันทำให้ศาสนาพินาศ (เราปกป้องไม่ให้ศาสนาของเขาพินาศย่อมดีกว่าละหมาด ถือศีลอด และเศาะดะเกาะฮฺ)”
“คืนความดีระหว่าง(พี่น้อง) เพราะความเกลียดชังระหว่าง(พี่น้อง)คือการโกน(ทำลายศาสนา)”
 
وخرَّج الإمام أحمد ( ) وغيرُه من حديث أسماءَ بنتِ يزيد ، عن النَّبيِّ  ، قال : (( ألا أُنبِّئُكم بشرارِكم ؟ )) قالوا : بلى يا رسول الله ، قال : (( المشَّاؤون بالنَّميمة ، المفرِّقُون بينَ الأحبَّةِ ، الباغون للبُرءاءِ العَنَت )) .
ท่านนบีกล่าวว่า “อยากรู้ไหมคนเลวที่สุดในหมู่พวกท่าน ?” เศาะฮาบะฮฺตอบว่า “บอกครับ ท่านร่อซูลุลลอฮฺ"
ท่านนบีกล่าวว่า “คนที่เดินให้ร้ายระหว่างพี่น้อง, แบ่งแยกระหว่างคนที่รักใคร่กัน, ผู้ที่ปรารถนาให้คนบริสุทธิ์ลำบากใจ(ทุกข์ทรมาน)”
 
وأمَّا البُغْضُ في الله ، فهو من أوثق عرى الإيمان ، وليس داخلاً في النَّهي ، ولو ظهر لرجل من أخيه شرٌّ ، فأبغضه عليه ، وكان الرَّجُل معذوراً فيه في نفس الأمر ، أثيب المبغضُ له ، وإن عُذِرَ أخوه ، 
18.47 เกลียดในหนทางของอัลลอฮฺ
รัก-เกลียดในหนทางของอัลลอฮฺ เป็นห่วงเชือกที่เข้มแข็งของอีมาน
โกรธเพื่ออัลลอฮฺไม่เป็นสิ่งที่ต้องห้าม
คนหนึ่งคนใดเมื่อมีความเลวปรากฏแก่เขาโดยมีเหตุผลหรือมีอุปสรรค เราเห็นความชั่วของเขาโดยไม่รู้เหตุผลแล้วเราเกลียด แบบนี้อัลลอฮฺไม่เอาโทษ
 
كما قال عمر : إنَّا كُنَّا نعرفكُم إذ رسول الله  بين أظهُرنا ، وإذ ينْزل الوحيُ ، وإذ يُنبِّئُنا الله مِنْ أخبارِكُم ألا وإنَّ رسول الله  قدِ انطُلِقَ به ، وانقطعَ الوحيُ ، فإنَّما نَعْرفكم بما نَخْبُركم ، ألا مَنْ أظهرَ منكم لنا خيراً ظننَّا به خيراً ، وأحببناه عليه ، ومَنْ أظهر منكم شرّاً ، ظننا به شراً ، وأبغضناه عليه ، سرائرُكم بينكم وبينَ ربِّكم )) ( ) . 
อุมัรอิบนุลค็อตต๊อบ –เราจะเกลียดจะว่าใครด้วยเหตุผลด้านศาสนา ไม่ใช่เหตุผลส่วนตัว สมัยนบีเรารู้จักผู้คนด้วยการพิพากษาของนบี (เช่น ใครเป็นมุนาฟิก)  เมื่อนบีเสียชีวิตแล้ว เราจะรู้จักผู้คนจากที่เราเห็นสภาพภายนอกของเขา เราจะมองผู้คนตามสภาพภายนอกที่เราเห็นและถ้ามีโอกาสคิดในแง่ดีได้เราก็จะคิดในแง่ดี ใครที่เผยความดีเราก็จะคิดในแง่ดี และจะรักเขาด้วยเหตุผลในความดีนั้น และผู้ใดที่เผยความชั่วเราจะคิดในทางไม่ดี และจะเกลียดเขาในเรื่องความชั่วที่เขาทำ
سرائرُكم بينكم وبينَ ربِّكم – 
ความลับของพวกท่าน ระหว่างพวกท่านกับอัลลอฮฺ  
 
وقال الربيع بن خُثَيْم : لو رأيت رجلاً يُظهر خيراً ، ويُسرُّ شرّاً ، أحببتَه عليه ، آجرَك الله على حبِّك الخيرَ ، ولو رأيت رجلاً يُظهر شرّاً ، ويسرُّ خيراً أبغضته عليه ، آجرَك الله على بُغضك الشرَّ .
เราะบีอฺ อิบนุหุษัยมฺ – เห็นคนๆ หนึ่งเปิดเผยความดีแต่ปกปิดความชั่ว เราก็รักเขาเนื่องจากเขาเผยความดี, อัลลอฮฺตอบแทนเจ้าในการรักเขาด้วยความดีที่เขาเผยมา, พยามยามรู้จักพี่น้องเราในแง่ดี อย่าไปขุดคุ้ยความไม่ดีของเขา
 
ولمَّا كثُرَ اختلافُ النَّاس في مسائل الدِّين ، وكثرَ تفرُّقُهم ، كثُر بسببِ ذلك تباغُضهم وتلاعُنهم ، وكلٌّ منهم يُظهِرُ أنَّه يُبغض لله ، وقد يكونُ في نفس الأمر معذوراً ، وقد لا يكون معذوراً ، بل يكون متَّبِعاً لهواه ، مقصِّراً في البحث عن معرفة ما يُبغِضُ عليه ، فإنَّ كثيراً من البُغض كذلك إنَّما يقعُ لمخالفة متبوع يظنُّ أنَّه لا يقولُ إلاَّ الحقَّ ، وهذا الظَّنُّ خطأٌ قطعاً ، وإنْ أُريد أنَّه لا يقول إلاَّ الحقَّ فيما خُولِفَ فيه ، فهذا الظنُّ قد يُخطئ ويُصيبُ ، وقد يكون الحامل على الميلِ مجرَّد الهوى ، أو الإلفُ ، أو العادة ، وكلُّ هذا يقدح في أنْ يكون هذا البغضُ لله ، فالواجبُ على المؤمن أن ينصحَ نفسَه ، ويتحرَّزَ في هذا غاية التحرُّزِ ، وما أشكل منه ، فلا يُدخِلُ نفسَه فيه خشيةَ أن يقعَ فيما نُهِيَ عنه مِنَ البُغض المُحرَّمِ .
เมื่อมีความขัดแย้งกันในเรื่องศาสนา แต่ละฝ่ายต่างก็อ้างว่าเกลียดอีกฝ่ายด้วยเหตุด้านศาสนา แต่ข้อเท็จจริงเขาตามอารมณ์ของตนเองต่างหาก
รู้ได้อย่างไรว่าตามอารมณ์ ? เพราะบกพร่องในการค้นหาหลักฐานว่าเกลียดเพราะอะไร...
 
 
 
icon4