ข้อแตกต่างระหว่าง อะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ กับกลุ่มอื่นๆ
1. พวกเขาจะยึดแนวทางสายกลาง ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะกีดะฮฺ บทบัญญัติ ข้อปฏิบัติ มารยาท จริยธรรม
2. พวกเขาจะไม่หยิบยกหลักฐานเรื่องอะกีดะฮฺจากแหล่งอื่น นอกจากกิตาบุลลอฮฺ และซุนนะฮฺของท่านบี
3. พวกเขาจะไม่มีอิหม่ามหรือผู้รู้ที่จะปฏิบัติตามอย่างละเอียดในเรื่องการกระทำ คำสั่ง คำชี้แนะ คำห้าม นอกจากท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.)
4. พวกเขาจะไม่นำเรื่องศาสนามาเป็นเรื่องที่สร้างความแตกแยกในสังคม และจะห่างไกลจากบุคคลที่สร้างความขัดแย้งและชอบโต้เถียงในเรื่องของศาสนา
5. พวกเขาจะยกย่องและสรรเสริญบรรพชนยุคแรกคือยุคอัสสะละฟุศ-ศอและฮฺ และจะเชื่อว่าแนวทางของบรรพชนยุคแรกเป็นแนวทางที่ปลอดภัย มีความรู้มากที่สุด และมีความเหมาะสมมากที่สุด
6. พวกเขาจะไม่ยอมรับการตีความหลักฐาน บิดพลิ้ว เปลี่ยนแปลงความหมายไปสู่ความหมายที่ไม่ใช่ความหมายของสำนวน เพราะพวกเขาจะน้อมรับสำนวนของหลักฐานโดยไม่ตีความ และจะไม่ให้สติปัญญามีอิทธิพลเหนือกว่าหลักฐาน
7. หลักฐานที่มาจากอัลลอฮฺและร่อซูล พวกเขาจะรับไว้หมดและนำไปปฏิบัติ หลักฐานที่ค้านกันพวกเขาจะนำมารวบรวมและสร้างความเข้าใจให้หลักฐานทั้งหมดอยู่ในทำนองเดียวกัน ที่เรียกว่า “ร็อบบุล มุตะชาบิ อิลัลมุฮกัม”
8. อะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺเป็นแบบอย่างสำหรับคนศอและฮฺ ให้คำชี้แนะทางนำกับคนอื่นด้วยการยืนยันบนหนทางของสัจธรรม ไม่มีการบิดพลิ้ว ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยความคิดเห็นที่เป็นเอกฉันท์ ด้วยการรวมร่วมระหว่างความรู้และอิบาดะฮฺ ด้วยการมอบหมายต่ออัลลอฮฺ
9. พวกเขาจะไม่ภูมิใจและเรียกตนเองในชื่ออื่นนอกจาก “อัล-อิสลาม อัส-ซุนนะฮฺ และอัล -ญะมาอะฮฺ” เพราะนี้คือสัญลักษณ์ของอะลุส-ซุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺ จะไม่ภูมิใจในแนวทางแห่งศาสนานอกจากอิสลาม หรือสุนนนะฮฺของท่านนบี
10. มีความขยันที่จะเผยแพร่อะกีดะฮฺ และจะสั่งสอนหลักศรัทธาและศาสนา สอนและนะซีฮัร ในเรื่องหลักศาสนาแก่ผู้คนด้วยความเอาใจใส่
11. พวกเขาจะมีจุดยืน มีความอดทน และความหนักแน่นในหลักศรัทธา เพื่อทำการเผยแพร่เรื่องอะกีดะฮฺ
12. พวกเขาจะเอาใจใส่ในเรื่องญะมาอะฮฺ เรื่องความสามัคคี เรียกร้องให้สังคมมีความสามัคคี มีความสนิทสนม เรียกร้องให้ผู้อื่นละทิ้งความขัดแย้งให้กลับมาอยู่กับหลักฐานที่เที่ยงธรรม แต่ผู้คนไม่ให้แตกแยก เป็น
13. อัลลอฮฺ (ซ.บ.) จะปกป้องอะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺ ที่ไม่กล่าวหาพวกเดียวกันว่าเป็นกาเฟร อะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺเมื่อจะกล่าวหาใครจะมีความยุติธรรม โดยจะกล่าวเตือนในสิ่งที่เขากระทำอาจจทำให้เป็นกาเฟร
14. พวกเขามีความรักใคร่ ความเมตตา และความสามัคคีซึ่งกันและกัน เมื่อความข้อบกพร่องจะช่วยในการแก้ไขข้อบกพร่องซึ่งกันและกัน จะยึดใครเป็นมิตรหรือศัตรูนอกจากเพื่ออัลลอฮฺ ความรักใคร่ที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้อะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺเตือนกันและรับข้อตักเตือน
คำนิยามของอะะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺ
อะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺ คือกลุ่มที่จะปลอดภัย และกลุ่มที่รอดในวันกิยามะฮฺ ซึ่งลักษณะเด่นของเขาคือจะยึดมั่นซุนนะของท่านบีและปฏิบัติตามแนวทางของท่านนบี (ซ.ล.) ในเรื่องอะกีดะฮฺ เรื่องอิบาดะฮฺ เรื่องมารยาทภายนอกและภายใน และการยึดมั่นต่อกลุ่มญะมาอะฮฺที่เป็นมุสลิม โดยปฏิบัติตามกิตาบุลลอฮฺ และอัส-ซุนนะฮฺของท่านนบี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบรรพชนยุคแรก (อัส-สะลัฟ-ฟุศ ศอและฮฺ)
ฉะนั้นผู้ที่ไม่มีลักษณะเช่นนี้ก็จะไม่ใช่อะลุส-ซุนนะ วัล-ญะมาอะฮฺ เช่น เคาะวาริด มัฮตะซีระฮฺ ญะมีญะฮฺ กอดารียะฮฺ มุรญีอะฮฺ รอฟีเดาะฮฺ เพราะกลุ่มเหล่านี้เรื่องอะกีดะฮฺไม่ตามท่านนบี บางกลุ่มก็บิดเบือนเรื่องกอฎอกอฎัร บางกลุ่มบิดเบือนเรื่องเกี่ยวกับอัลลอฮฺ บางกลุ่มบิดเบือนเรื่องเศาะฮาบะฮฺ ซึ่งไม่ปฏิบัติตามอัสลัฟ-ฟุศ ศอและฮฺ
- Printer-friendly version
- Log in to post comments
- 614 views