คุชูอฺด้วยการตั้งเจตนาที่บริสุทธิ์ 1 (สู่อีมานที่มั่นคง 46)

Submitted by dp6admin on Wed, 13/11/2019 - 14:15
เนื้อหา

สร้างคุชูอฺในละหมาดด้วยการตั้งเจตนาที่บริสุทธิ์(เนียต)

พี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพทั้งหลายครับ อัสสลามุอลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ 
การละหมาดที่มีความคุชูอฺ ความนอบน้อม ความสงบต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา นั้นเป็นคุณลักษณะของบรรดาผู้ศรัทธาที่จะประสบความสำเร็จดังที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสไว้ว่า 

قَدْ أَفْلَحَ الْمُؤْمِنُونَ ﴿١﴾ الَّذِينَ هُمْ فِي صَلَاتِهِمْ خَاشِعُونَ ﴿٢﴾
ความว่า “บรรดาผู้ศรัทธาจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน คือบรรดาผู้ที่มีความนอบในขณะที่เขาละหมาด ปฏิบัติศาสนกิจต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา” (อัลมุมินูน อายะฮฺที่ 1-2)

ขณะนี้เรากำลังศึกษาวิถีทางที่จะทำให้มุอ์มินนั้นมีอีหม่านที่มั่นคงโดยนำเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจนั้นเป็นเสบียงและวิถีทางในการเพิ่มเติมอีหม่านให้มั่นคง การละหมาดเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตของเรา เป็นเรื่องที่มีความยิ่งใหญ่ เป็นวาระที่มีความสำคัญและอันตรายในชีวิตของเรา เพราะการละหมาดอาจจะทำให้มุอ์มินคนหนึ่งเข้าสวรรค์ได้และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์นั้นถูกนำไปสู่นรกและความหายนะได้เช่นกัน ฉะนั้นเราจึงต้องศึกษาอย่างต่อเนื่องถึงทุกวิถีทางที่จะทำให้การปฏิบัติศาสนกิจโดยเฉพาะการละหมาดของเรานั้นอยู่ในสภาพที่ถูกต้อง อยู่ในลักษณะที่สอดคล้องกับลักษณะของบรรดาผู้ศรัทธาที่ละหมาดต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ด้วยความคุชูอฺ ความนอบน้อมและความสงบ

เราได้พูดถึงการเตรียมตัวสู่การละหมาด คือการอาบน้ำละหมาด จิตวิญญาณที่เราต้องมีขณะที่อาบน้ำละหมาดนั้นเป็นเรื่องที่จะสร้างอีหม่าน สร้างจิตสำนึกก่อนที่จะนำร่างกายของเราไปสู่สภาวะการเคารพสักการะต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา การเริ่มอาบน้ำละหมาดนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดภายนอกเท่านั้นแต่เป็นการเตรียมจิตวิญญาณ อารมณ์ นัฟซูและจิตใจของเราให้อยู่ในสภาพความเป็นบ่าวต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ที่ต้องมีความคุชูอฺ แสดงความต่ำต้อยต่อพระผู้เป็นเจ้า ก่อนที่จะเข้าสู่การละหมาดเราเตรียมตัวแล้วในการอาบน้ำละหมาด ทำความสะอาด ชำระความสกปรกโสมมต่างๆ ทั้งภายนอก (ร่างกาย) และภายใน (จิตใจ) ทุกสิ่งที่อย่างที่จะทำลายอีหม่าน ที่จะทำลายเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ของเรา เราได้ขับไล่มันออกไปแล้วผ่านการอาบน้ำละหมาด และได้นำร่างกายพร้อมจิตใจไปสู่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เพื่อแสดงความเป็นบ่าว 

ก่อนที่จะละหมาดเราจำเป็นต้องมีเนียต มีเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ ว่าเราจะละหมาดเพื่อนใคร เราจะละหมาดเพื่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เราจะละหมาดเพื่อแสดงความเป็นบ่าวต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา เท่านั้น นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า “อิคลาศ” ความบริสุทธิ์ใจที่เป็นเงื่อนไขอันสำคัญที่สุดในการปฏิบัติศาสนกิจทุกชนิด ดังที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

فَمَن كَانَ يَرْجُو لِقَاءَ رَبِّهِ فَلْيَعْمَلْ عَمَلًا صَالِحًا وَلَا يُشْرِكْ بِعِبَادَةِ رَبِّهِ أَحَدًا ﴿الكهف: ١١٠﴾
ความว่า “...ใครก็ตามที่หวังในการพบกับอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ก็จงปฏิบัติความดีงามโดยที่ไม่มีการตั้งภาคีกับอัลลอฮฺเป็นอันขาด ในการปฏิบัติศาสนกิจของเขา” (อัลกะฮฺฟิ อายะฮฺที่ ๑๑๐)

وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّـهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ... ﴿البينة: ٥﴾
ความว่า “และพวกเขามิได้ถูกใช้ให้ปฏิบัติสิ่งใดนอกจากการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น” (อัลบัยยินะฮ์ อายะฮฺที่)

หมายถึงการละหมาด การถือศีลอด การบริจาคซะกาต การปฏิบัติศาสนกิจทุกชนิดจะไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีรสชาติ ไม่มีผลบุญ ไม่มีการตอบแทน หากปราศจากความอิคลาศ หากไม่มีความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่เราต้องทบทวนและนึกถึงอย่างต่อเนื่องตราบใดที่เราปฏิบัติศาสนกิจ ทำอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา แต่ไม่เตรียมสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าการปฏิบัติศาสนกิจของเราย่อมไม่มีความสำเร็จ

คนที่ละหมาดโดยมีริยาอ์ โอ้อวด ไม่ได้มีเจตนาว่าการละหมาดของเขานั้นเป็นการถวายชีวิต เวลาและทรัพย์สินของเขาแด่อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา แต่เขาละหมาดเพื่อคนอื่น อวดสังคม หาเสียงเฉพาะกรรมการหรือเพื่อผลทางการเมือง หรือเพื่อแสดงตัวแก่ผู้อื่นว่าเขานั้นมีความรู้ ความตักวา ความยำเกรง

ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการทำอิบาดะฮฺนั้นอยู่ในจิตใจ ในหัวใจของเรา มนุษย์ทุกคนไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคนอื่นมีความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ แต่เราเป็นคนเดียวที่มีความสามารถในการเตรียมเจตนารมณ์ที่ดี ที่บริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ที่เท่านั้นที่ทรงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของเรา เมื่อยืนแสดงความเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ก่อนที่จะละหมาด ก่อนจะกล่าวตักบีร “อัลลอฮุอักบัร” อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงรู้ว่าบ่าวของพระองค์คนนี้มีอิคลาศหรือไม่ เพราะฉะนั้นพี่น้องอย่าลืมว่าในเมื่อเข้าสู่การละหมาดแล้ว อย่าเตรียมเพียงมือหรืออวัยวะในร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่จงเตรียมหัวใจและจิตใจให้พร้อมต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ว่า “ข้าพระองค์มาเคารพภักดีต่อพระองค์เพื่อแสดงความเป็นบ่าวต่อพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีเจตนารมณ์ใดๆ ที่จะมุ่งสู่สิ่งหนึ่งสิ่งใด คนหนึ่งคนใด ผู้หนึ่งผู้ใด นอกจากพระผู้อภิบาลของข้าพระองค์เท่านั้น”

การที่เรายืนต่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ในการละหมาดนั้น เราต้องเตรียมความหมายที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม สั่งสอนไว้ในหะดีษที่บันทึกโดยอิมามมุสลิมว่า

(إن الله لا ينظر إلى أجسامكم ولا إلى ألوانكم ولكن ينظر إلى قلوبكم وأعمالكم) رواه مسلم
ความว่า “แท้จริงอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา จะไม่มองถึงร่างกายหรือสีผิวของพวกเจ้า แต่พระองค์ทรงมองถึงหัวใจและการกระทำของพวกเจ้า”

ร่างกายของเราถึงแม้ว่าจะสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ คนหนึ่งมีแขน คนหนึ่งไม่มีขา อีกคนหนึ่งอวัยวะสมบูรณ์ ณ สายตาของอัลลอฮฺ สุบหาะนะฮูวะตะอาลา นั้นเหมือนกัน คนหนึ่งแต่งกายอย่างสมบูรณ์ สวยงามมีกลิ่นหอม ส่วนอีกคนหนึ่งไม่มีความสามารถ จึงแต่งตัวเท่าที่ความสามารถเขามีอยู่ ณ อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ในขณะที่พวกเขาละหมาดนั้นเหมือนกัน คนหนึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง อีกคนด้วยเสื้อผ้าราคาถูก ณ อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา นั้นเหมือนกัน ตราบใดที่หัวใจของพวกเขาเหมือนกัน
แต่หากว่าคนหนึ่งคนใดแต่งตัวอย่างสวยงาม ใส่เสื้อแพงที่สุด เตรียมร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์ แต่หัวใจของเขาไม่อยู่ ณ สถานที่ที่ละหมาด ไม่อยู่กับอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา หัวใจของเขาไปอยู่กับภริยา สามี รถยนต์ บ้านที่กำลังสร้างหรือสิ่งอื่นๆ ที่เป็นวัตถุ แต่ไม่อยู่กับอัลลอฮฺ ขณะที่อีกคนหนึ่งร่างกายของเขาอาจจะไม่สมบูรณ์ การแต่งกายของเขาก็อาจจะไม่สมบูรณ์ แต่หัวใจของเขาอยู่กับอัลลอฮฺ ถวายให้กับอัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ว่าบ่าวของพระองค์นั้นอยู่ที่นี่ มาเฝ้าดู เคารพภักดีต่อพระองค์ แน่นอนว่าระหว่างสองคนนี้ ผู้ที่อัลลอฮฺจะทรงมองถึงเขาย่อมเป็นผู้ที่หัวใจอยู่กับพระองค์ ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ยืนยันไว้

ดังนั้นพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพทั้งหลายครับ ในทุกวักตู ในทุกเวลาการละหมาดจะเป็นฟัรฎูหรือสุนนะฮฺก็ตาม เป็นความสมควรอย่างยิ่ง หรือถ้าพูดตามหลักนิติศาสตร์อิสลามแล้ว การเตรียมเนียตนั้นเป็นวาญิบ เป็นเงื่อนไขสำคัญ เพราะหากว่าละหมาดโดยไม่มีเนียตหรือเจตนารมณ์ที่ดี การละหมาดนั้นก็จะถือว่าไม่มีผลบุญ ไร้เป้าหมาย ไร้ประโยชน์ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับคนหนึ่งคนใดที่ละหมาดมาหลายปีตลอดชีวิตนั้น เมื่อเขาได้มาตรวจสอบการละหมาดของเขาว่าเขาได้ทำไปเพื่อใคร กลับพบคำตอบว่า เขาละหมาดเพื่อสังคมเพราะกลัวสังคมตำหนิเขา กลัวพ่อแม่จะตำหนิเขา นั่นคือเรื่องอันตรายที่จะทำให้เราต้องพิจารณาว่าอิบาดะฮฺของเรานั้นมีความสมบูรณ์ มีความอิคลาศหรือไม่ และเป็นเรื่องที่จะทำให้เราต้องรีบพยายามสร้างความมั่นคงแห่งการศรัทธา แห่งการเตรียมพร้อมอีหม่านและเนียตที่อิคลาศ บริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา

ฝากกับพี่น้องไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ พบกันตอนหน้า อินชาอัลลอฮฺ วัสสลามุอะลัยกุมวะเราะหฺมะตุลลอฮิวะบะเราะกาตุฮฺ


เรียบเรียงจาก สู่อีมานที่มั่นคง ครั้งที่ 46, ชัยคฺริฎอ อะหมัด สมะดี
ผู้เรียบเรียง อบูซัยฟุลลอฮฺ-อุมมุซัยฟุลลอฮ

คุชูอฺด้วยการตั้งเจตนาที่บริสุทธิ์